มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แถลงข่าวความสำเร็จในการดำเนินแผนพัฒนาบริการหลังการขายให้กับลูกค้าอย่างครอบคลุม ส่งผลให้ได้รับการจัดอันดับอยู่ในตำแหน่งที่ 2 จากการศึกษาวิจัยดัชนีด้านการบริการลูกค้าในประเทศไทย ประจำปี 2561 โดย เจ.ดี. พาวเวอร์ เป็นอันดับด้านความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อศูนย์บริการของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย โดยได้รับการจัดอันดับสูงขึ้นต่อเนื่องตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เป็นการดำเนินงานของบริษัทแม่ร่วมกับเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ


...

การปรับปรุงเพื่อยกระดับของงานบริการซ่อมบำรุงรถยนต์ของลูกค้า ทำให้มิตซูบิชิได้รับคำชมในด้านความพึงพอใจของลูกค้าในรอบหลายปี แสดงให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าที่ต้องใช้บริการหลังการขายเพื่อตรวจเช็คและซ่อมบำรุงรถยนต์ หัวใจของธุรกิจรถยนต์ก็คือ การพัฒนาเพื่อปรับปรุงงานบริการลูกค้าอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เสียงตอบรับที่ดีขึ้นไม่ได้เกิดจากการเชียร์ของสื่อมวลชนแต่เกิดจากปากต่อปากของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ



จากการศึกษาวิจัยดัชนีด้านการบริการลูกค้าในประเทศไทยของ เจ.ดี. พาวเวอร์ ปีที่ 19 ได้สำรวจความพึงพอใจโดยรวมของเจ้าของรถยนต์ที่ใช้บริการจากศูนย์บริการมาตรฐานสำหรับการบำรุงรักษาและซ่อมแซมรถยนต์ในช่วง 12-36 เดือน ครอบคลุม 5 ปัจจัยหลัก (เรียงลำดับตามความสำคัญ) ได้แก่ คุณภาพงานบริการ การรับรถ สิ่งอำนวยความสะดวกของศูนย์บริการ การเริ่มต้นให้บริการและที่ปรึกษาด้านบริการ โดยการประเมินจากเจ้าของรถยนต์ใหม่จำนวน 2,658 รายที่ซื้อรถยนต์ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2560
...


มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้รับคะแนนความพึงพอใจของลูกค้าด้านการบริการ หรือ CSI ที่ 840 คะแนนในการสำรวจประจำปี พ.ศ. 2561 เหนือกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 826 คะแนน การขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยสร้างความพึงพอใจของลูกค้าคือแผนงานพัฒนาการบริการลูกค้าที่ครอบคลุมของ มิตซูบิชิ เริ่มจากการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายไปจนถึงการเสริมสร้างทักษะให้แก่บุคลากรช่างฝีมือ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 มิตซูบิชิ ยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานของผู้จำหน่าย (Dealer Operation Standard หรือ DOS) เพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานของผู้จำหน่ายทั่วประเทศ การดำเนินโครงการ DOS ระยะที่หนึ่งซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อต้นปี พ.ศ. 2561 โดยพยายามให้ความสำคัญในการสร้างจุดแข็งรอบด้านให้กับเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ และเริ่มดำเนินโครงการต่อในระยะที่สองเพื่อการพัฒนาการปฏิบัติงานขั้นสูงของผู้จำหน่าย หรือ Advanced DOS โดยได้ดำเนินโครงการไปแล้วกว่าร้อยละ 50
...



...
สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) หรือ Education Academy เป็นหน่วยงานหลักในการฝึกอบรมพัฒนาความรู้และทักษะของพนักงาน มิตซูบิชิ เห็นถึงความสำคัญของงานบริการที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าหลังจากการซื้อรถยนต์ เป็นปัจจัยหลักที่จะนำไปสู่ความสำเร็จและความยั่งยืนในระยะยาว พนักงานทุกฝ่ายของเครือข่ายผู้จำหน่ายจึงได้รับการอบรมฝึกฝนทักษะ ครอบคลุมตั้งแต่สายงานที่ปรึกษาการขายไปจนถึงเจ้าหน้าที่เทคนิคต่างๆ เพื่อการส่งมอบบริการที่ดีให้กับลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขาย



มิตซูบิชินำเทคโนโลยีระบบดิจิทัลมาสนับสนุนด้านบริการหลังการขาย เพื่อมอบความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า โดยพัฒนาแอปพลิเคชัน M-Drive เพื่อรองรับระบบปฏิบัติงานแอนดรอยด์และไอโอเอส ให้ความสะดวกกับลูกค้าในการดูแลบำรุงรักษารถยนต์ พร้อมบริการต่างๆ ที่สามารถทำได้ผ่านช่องทางออนไลน์อย่างรวดเร็ว ใช้ระบบดิจิทัลสนับสนุนการปฏิบัติงานของเครือข่ายผู้จำหน่าย เช่น การใช้อุปกรณ์แท็บเล็ตเพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในการบริการลูกค้าเมื่อเข้ามายังศูนย์บริการมิตซูบิชิ ปัจจุบัน มีเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ 220 แห่ง และมีแผนที่จะขยายเพิ่มเป็น 230 แห่งภายในปี พ.ศ. 2561 ขณะที่เป้าหมายในระยะกลางจะเพิ่มเป็น 250 แห่งเพื่อรองรับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น



การศึกษาวิจัยดัชนีด้านการบริการลูกค้าในประเทศไทย ประจำปี 2561 ประเมินความพึงพอใจโดยรวมของเจ้าของรถยนต์ที่ใช้บริการจากศูนย์บริการมาตรฐานสำหรับการบำรุงรักษาและงานซ่อมแซมในช่วง 12-36 เดือนของการเป็นเจ้าของ ใน 5 ปัจจัยหลัก (เรียงลำดับตามความสำคัญ) ได้แก่ คุณภาพงานบริการ (27%), การรับรถคืน (20%), สิ่งอำนวยความสะดวกของศูนย์บริการ (18%), การเริ่มต้นให้บริการ (18%) และที่ปรึกษาด้านบริการ (18%)
อันดับที่ 1 ISUZU
อันดับที่ 2 Mitsubishi
อันดับที่ 3 Suzuki
อันดับที่ 4 Nissan
อันดับที่ 5 Toyota
อันดับที่ 6 Ford
อันดับที่ 7 Honda
อันดับที่ 8 Mazda
อันดับที่ 9 MG