Ford แจ้งว่า เมื่อเริ่มต้นการตัดสินใจที่จะผลิตรถกระบะสมรรถนะสูงรุ่น Ranger Raptor ทีมงาน Ford พบกับตัวแปรมากมายในการสร้างให้รถรุ่นนี้มีประสิทธิภาพเหนือกว่ารถกระบะทั่วไป เริ่มร่างโครงคร่าวๆ ของ Ford Ranger Raptor หนึ่งในองค์ประกอบหลักคือการผสมผสานหลักวิศวกรรมยานยนต์เข้ากับงานดีไซน์เพื่อยกระดับการขับใช้งานในชีวิตประจำวัน รถต้องวิ่งได้ดีทั้งทางเรียบและทางออฟโรด ประสบการณ์ในการพัฒนา F150 Raptor ถูกนำมาปรับใช้ในการสร้าง Ranger Raptor เพื่อเน้นการขับขี่ของลูกค้าทั่วโลกให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น โดยเฉพาะลูกค้าที่ต้องใช้งานในพื้นที่ทุรกันดาร

...

ผลลัพธ์ที่ได้จากการพัฒนาปรับปรุง Ranger Raptor ก็คือ รูปทรงที่ดุดัน ไม่ได้เพียงแค่เสริมภาพลักษณ์ของรถกระบะที่แปะตราสัญลักษณ์ของ Ford ทุกองค์ประกอบของการออกแบบทำขึ้นมาเพื่อความสนุกในการขับขี่และความรู้สึกใหม่ในด้านอารมณ์ของการควบคุมหลังพวงมาลัยที่ให้ความรู้สึกต่างไปจาก Ranger แบบเดิมๆ ความแตกต่างในด้านประสิทธิภาพเกิดจากองค์ประกอบที่มีความหลากหลายของระบบขับเคลื่อน แชสซี ช่วงล่าง ระบบเบรก โหมดการเอาตัวรอดบนเส้นทางวิบากและระบบความปลอดภัย

...

...

วิศวกรของ Ford Performance ให้ความสำคัญกับงานออกแบบเพื่อที่จะช่วยเสริมสมรรถนะในการขับขี่ออฟโรด ไล่จากกระจังหน้าแบบใหม่ ซุ้มล้อที่กว้างมากยิ่งขึ้น ไปจนถึงฝากระบะท้ายที่มีระบบผ่อนแรง กันชนหน้าและหลังไปจนถึงยางติดรถสมรรถนะสูง โดยเฉพาะลายดอกยางที่ต้องรองรับการขับทั้งบนทางเรียบและเอาตัวรอดได้ในเส้นทางออฟโรด ชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่ได้แค่ตกแต่งให้ดูสวยงาม แต่ยังสามารถทำงานควบคู่กับเครื่องยนต์ส่วนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี Ranger Raptor คือกระบะสายพันธุ์พิเศษในเวอร์ชั่นที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัด คล้ายกับนักกีฬาที่ฟิตร่างกายในโรงยิมมาเป็นอย่างดีเพื่อการแข่งขัน แทรคของล้อที่ขยายออกด้านข้างช่วยในเรื่องของการทรงตัว ทำงานควบคู่ไปกับระบบรองรับที่ออกแบบมาเพื่อการลุย การดีไซน์ที่เชื่อมโยงกับประสิทธิภาพของตัวรถ ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรับมือกับสภาพเส้นทางโหดๆ ทางแบบออฟโรดที่เต็มไปด้วยหล่มโคลน ทราย หรือแม้แต่หินก้อนโตๆ บันไดข้างออกแบบให้มีรูที่ช่วยให้ทราย ดินหรือฝุ่นสามารถผ่านไปได้ ไม่ต้องติดไปกับตัวรถ

...

เป้าหมายของ Ford Ranger Raptor คือสมรรถนะที่ดีขึ้นสำหรับการใช้งานที่แตกต่างจากรถกระบะทั่วไป ทีมช่างและวิศวกรของ Ford Performance พยายามปรับปรุงให้รถรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ดีทั้งการขับขี่บนทางปกติและทางออฟโรด โดยพัฒนาและออกแบบให้รถ Raptor สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างโดดเด่น สำหรับงานดีไซน์ที่เพิ่มสมรรถนะให้กับรถ Raptor ประกอบด้วย แผ่นกันกระแทกด้านล่าง มีความหนา 2.3 มม. กันชนแยกที่อยู่สูงขึ้นเหมาะสำหรับเวลาขับเคลื่อนเข้าและออกเนินลาดชัน แผ่นโลหะกันกระแทกที่ติดตั้งอยู่ใต้ห้องเครื่องยนต์ ช่วยป้องกันชิ้นส่วนที่อยู่ใต้เครื่องได้ดี รวมไปถึงเพลาขับและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ออกแบบให้มีความแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษ 

ช่วงล้อหน้า-หลังที่กว้างขึ้น ช่วยรักษาเสถียรภาพขณะทำความเร็วและเพิ่มความสามารถขณะขับขี่บนทางออฟโรด Ford ติดตั้งบังโคลนที่กว้างขึ้น รวมถึงซุ้มล้อและยางรถสำหรับออฟโรดที่ใหญ่ขึ้น กันชนของ Ranger Raptor ถูกยกให้อยู่สูงขึ้นมากกว่าปกติ เมื่อรถต้องไถลไปตามพื้นทรายจะไม่เกิดความเสียหายในตัวกันชน ทุกส่วนของรถจะอยู่เหนือพื้นผิว เมื่อขับขี่บนทะเลทรายด้วยความเร็ว สิ่งเดียวที่สัมผัสกับพื้นดินคือล้อรถ

จุดเด่นของ Ford Ranger Raptor

โช้คอัพของ Fox Racing Shox
ระบบรองรับทั้งหน้าและหลังของ Ranger Raptor ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการขับขี่ความเร็วสูง ซึ่งมักจะเขย่าทั้งตัวรถและคนขับอย่างรุนแรงในรถทั่วไป ระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่ รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และสปริงคอยล์โอเวอร์ช็อก ทำให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง ทำให้การทรงตัวและการควบคุมรถมีความง่ายเมื่อขับด้วยความเร็วสูงบนเส้นทางทุรกันดาร ช่วงล่างที่ถูกยกสูงขึ้นและระยะช่วงล้อที่กว้างขึ้น มุมไต่และมุมจากเพิ่มขึ้น ยังช่วยเรื่องการเอาตัวรอดเมื่อขับผ่านอุปสรรค ทำให้ขับขี่บนเส้นทางออฟโรดในทุกภูมิประเทศและทุกความเร็วได้อย่างมั่นใจ

เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร และระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด
เครื่องยนต์ดีเซลใหม่แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Ford ในการส่งถ่ายกำลังแรงบิดที่ได้รับจากเครื่องยนต์อย่างเต็มประสิทธิภาพ เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ทรงพลังและมีขนาดเล็ก มีน้ำหนักเบา ปล่อยมลพิษต่ำ แรงบิดและแรงม้าจัดเต็มด้วยการบูสอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ด้วยเทอร์โบ 2 ลูก และอัตราทดเกียร์ที่แคบลง เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. อัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่ High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) กำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย Paddle Shift เครื่องยนต์ไม่ได้แรงจนกระชากให้หลังของคนขับติดเบาะ แต่เหมาะสมกับการทำความเร็วเมื่อวิ่งบนไฮเวย์ โดยเฉพาะเกียร์ 10 สปีด ในตำแหน่งเกียร์ 8-9-10 ที่ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงเมื่อวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 

ล้อ และยาง
ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ออกแบบมาเพื่อการลุยแหลก รวมถึงยาง All-Terrain ของ BF Goodrich ขนาด 285/70 R17 เส้นผ่านศูนย์กลางยาง 838 มิลลิเมตร กว้าง 285 มิลลิเมตร เป็นยางรุ่นพิเศษสำหรับ Ranger Raptor โดยเฉพาะ ดอกยางและแก้มยางมีความแข็งแกร่งทนทาน รองรับการใช้งานในเส้นทางที่อุดมไปด้วยก้อนกรวด หิน หรือทราย รวมถึงโคลนเลน

ระบบเบรก
คาลิปเปอร์เบรกคู่หน้า แบบลูกสูบคู่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 54 มิลลิเมตร
เบรกคู่หน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน ขนาด 332 x 32 มิลลิเมตร เบรกคู่หลัง ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน ขนาด 332 x 24 มิลลิเมตร ดิสก์เบรกด้านหลัง พร้อมระบบ Brake Actuation Master Cylinder ระบบห้ามล้อสำหรับการหยุดยั้งฝูงม้าทั้ง 213 ตัวให้ว่านอนสอนง่าย เบรกจับเร็วใช้ได้และถ่ายเทน้ำหนักได้ดีขณะใช้เบรกหนักๆ 

จุดด้อยของ Ford Ranger Raptor

1-ไม่ได้แรงอย่างที่คิด
เครื่องยนต์ดีเซลตัวเล็กขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 213 แรงม้า ไม่ได้โหดอย่างที่คิดเอาไว้แต่แรก แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกแย่ Ranger Raptor ยังเร่งความเร็วเพื่อแซงได้ดี แรงบิดที่ปล่อยออกมาเมื่อกดคันเร่งเต็มๆ ไม่ได้กระชากลากถูหรือดึงหนักแบบรถสปอร์ต แรงบิดหรือแรงฉุดลาก 500 นิวตันเมตร เอาตัวรอดบนเส้นทางออฟโรดได้ดี การทำความเร็วบนทางไฮเวย์คล้าย Ranger Wildtrak ไม่ได้สร้างความรู้สึกที่แตกต่างในด้านของกำลัง 

2-อาการโคลงตัว
สัดส่วนของความสูงที่ออกแบบสำหรับการลุย ทำให้มีอาการโคลงตัวอยู่บ้างเมื่อขับเร็วๆ บนไฮเวย์ รวมถึงการขับเข้าโค้งบนทางเรียบด้วยความเร็วสูงก็ยังมีอาการโคลงอยู่บ้าง ซึ่งเป็นธรรมชาติของรถกระบะยกสูงที่แก้ได้ยาก

3-งานตกแต่งภายใน
งานภายในห้องโดยสารของ Ranger Raptor ยังดูธรรมดาเกินไปไม่ค่อยจะสมกับราคาค่าตัว คล้ายกับ Ranger รุ่นมาตรฐาน ควรจะทำออกมาให้มีความแตกต่างมากกว่านี้ 

4-เรื่องของศูนย์บริการ ผู้บริหารของ Ford แจ้งว่า ได้ทำการปรับปรุงงานบริการหลังการขายให้ดีกว่าเดิม คงต้องตามดูกันต่อไปว่าจะทำได้จริงหรือเปล่า หากทำได้จริงตามที่พูดรับรองว่าความเชื่อมั่นจะกลับมาอย่างแน่นอนที่สุด.


อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/