Changan แก้ Pain Point ประกันรถไฟฟ้าแพง เตรียมสร้างศูนย์ซ่อมแบตเตอรี่ในไทย วางแผนเปิดตัวรถไฟฟ้าอีก 7 รุ่นในอีก 3 ปีข้างหน้า

ดร. อรรถวิท เตชะวิบูลย์วงศ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ Changan Thailand หรือ ฉางอัน กล่าวว่า ตามแผนการดำเนินงานของฉางอาน คือ จัดตั้งศูนย์ซ่อมแบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา Changan Automobile ได้สร้างศูนย์สนับสนุนเทคนิคหลังการขาย (Training Center) แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสร็จสมบูรณ์ในปี 2024 เพื่อให้การฝึกอบรมทักษะการบริการหลังการขายแก่บุคลากรในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทย 

สำหรับแผนต่อจากนี้ Changan จะเดินหน้าก่อตั้งศูนย์ซ่อมแบตเตอรี่ จะช่วยเสริมความสามารถด้านซ่อม EV ในประเทศไทย ลดต้นทุนการซ่อมแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าให้ลูกค้า โดยคาดว่าราคาจะถูกกว่าการเปลี่ยนแพ็กทั้งชุดประมาณ 90%


นอกจากนี้จะช่วยลดระยะเวลาการซ่อมหลังการขาย เพราะชิ้นส่วนแบตเตอรี่ทั้งชุดต้องนำเข้า ซึ่งโดยเฉลี่ยต้องรอประมาณ 1 เดือน โดยหลังจากซ่อมแบตเตอรี่เปิดให้บริการจะสามารถสำรองชิ้นส่วนแบตเตอรี่แบบแยกส่วนจำนวนมาก ทำให้ระยะเวลาการซ่อมภายในไม่เกิน 5 วัน ไม่รวมเวลาประเมินราคาโดยประกันภัย

...

"การวางแผนจะสร้างศูนย์ซ่อมแบตเตอรี่ จำนวน 2–3 แห่งภายในปี 2026 ช่างเทคนิคทุกคนจะผ่านการรับรองจาก Changan China และ CATL ซึ่งจะยกระดับความเป็นมืออาชีพด้านการซ่อมอย่างมาก ศูนย์ซ่อมแบตเตอรี่แห่งแรก คาดว่าจะเริ่มทดลองให้บริการในเดือนมีนาคม 2026 และเริ่มดำเนินงานเต็มรูปแบบในเดือนกรกฎาคม 2026 โดยทั้งหมดนี่จะช่วยเรื่องลดต้นทุนการซ่อมแบตเตอรี่ รวมถึงประกันรถไฟฟ้าจะถูกลงอีกด้วย"


ดร. อรรถวิท กล่าวต่อว่า Changan มองประเทศไทยเป็นฐานยุทธศาสตร์ระดับโลก และกำลังพัฒนาโรงงานระยองให้เป็นฐานการผลิตระดับนานาชาติ ปัจจุบันสามารถสร้างกำลังการผลิต 100,000 คันต่อปี นอกจากรองรับตลาดไทย จะส่งออกไปยังออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และยุโรป คาดว่าจะสร้างเฟส 2 เสร็จภายในปี 2030 

รวมกำลังผลิต 200,000 คัน รถรุ่นกลยุทธ์ S05 ได้เริ่มผลิตในประเทศไทยแล้ว และปี 2026 จะเพิ่ม SUV พลังงานใหม่รุ่นเริ่มต้นอีก 1 รุ่น และในอนาคตจะเพิ่มรุ่นรถในการผลิตอีก 2–3 รุ่น พร้อมวางแผนสร้างสายการผลิตแบตเตอรี่เพื่อเพิ่มสัดส่วนการผลิตในประเทศ

"เรายึดทิศทางเชิงกลยุทธ์ของรัฐบาลด้านพัฒนารถ EV การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และ Smart mobility ไม่เน้นผลกำไรระยะสั้น แต่สร้างชื่อเสียงแบรนด์ ความมั่นคงของตลาด และมูลค่าทางสังคม รวมถึงสร้างระบบซัพพลายเชนประสิทธิภาพสูง เน้นประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง เชื่อมโยงตลาดสำคัญในอาเซียน เร่งเพิ่มสัดส่วนการผลิตในประเทศให้เป็นระบบที่มั่นคงและสมบูรณ์ ปี 2027 ตั้งเป้าการจัดซื้ออะไหล่ภายในประเทศ 70% มูลค่ามากกว่า 3 พันล้านบาท ปี 2030 เพิ่มเป็น 80% มูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท"


แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย 

ดร. อรรถวิท กล่าวอีกว่า คาดว่าตลาดจะผ่านช่วงที่ยากที่สุดในปี 2026 และจะกลับสู่การเติบโตแบบช้า ๆ คาดว่ายอดจดทะเบียนทั้งปีจะอยู่ที่ 630,000 คัน เพิ่มขึ้น 3% แม้นโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าลดลง แต่ด้วยประสบการณ์ผลิตภัณฑ์และต้นทุนการใช้ที่เหนือกว่ารถน้ำมันอย่างชัดเจน จะยังคงดึงดูดผู้บริโภคใหม่ อัตราการการเลือกใช้ของรถไฟฟ้าจะถึง 24% รถไฟฟ้าเกิน 150,000 คัน ในจำนวนนี้ BEV เกิน 120,000 คัน ส่วน PHEV และ REEV ใกล้ 30,000 คัน 

...

เราคาดว่าในปี 2030 อัตราการการเลือกใช้ของ BEV จะเกิน 30% บรรลุเป้าหมาย 30/30 ของรัฐบาลไทย และหากรวม PHEV/REEV จะทะลุ 50% ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มตลาดโลก และไทยอาจเป็นประเทศที่ไปถึงระดับดังกล่าวเร็วกว่าหลายประเทศด้วย


วางแผนเปิดตัวรถยนต์ในไทยอีก 7 รุ่น

อย่างไรก็ตาม Changan ยังมีแผนใน 3 ปีข้างหน้า วางแผนเปิดตัวรถไฟฟ้าอีก 7 รุ่นในไทย โดยตั้งแต่เข้าตลาดไทย Changan เปิดตัวรุ่น S07, L07, E07, S05, HUNTER K50, LUMIN และ AVATR 11  พร้อมมุ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านจากรถน้ำมันสู่รถไฟฟ้า 

พร้อมตั้งเป้าเข้าสู่ Top 3 แบรนด์ในไทยภายในปี 2030 คาดว่าตลาดจะผ่านช่วงที่ยากที่สุดในปี 2026 และจะกลับสู่การเติบโตแบบช้า ๆ คาดว่ายอดจดทะเบียนทั้งปีจะอยู่ที่ 630,000 คัน เพิ่มขึ้น 3% แม้นโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าลดลง แต่ด้วยประสบการณ์ผลิตภัณฑ์และต้นทุนการใช้ที่เหนือกว่ารถน้ำมันอย่างชัดเจน จะยังคงดึงดูดผู้บริโภคใหม่