เมื่อสถิติความเร็วท็อปสปีดบนถนนถูกทำลาย ทำให้รถยนต์ที่ผลิตออกมาเร็วที่สุดในโลกไม่ใช่ Koenigsegg, Bugatti หรือ SSC แต่มันคือ BYD โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นี่คือยันหว่าง U9 Xtreme (U9X) จากแบรนด์ย่อยสุดหรูของ BYD อย่าง Yangwang รถคันนี้ทำสถิติใหม่ ด้วยความเร็วสูงสุด 496.21 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในสนามปิดของประเทศเยอรมนี
...
...
ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นกับไฮเปอร์คาร์ U9 Xtreme รุ่นล่าสุดของ Yangwang เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2025 ณ สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในประเทศเยอรมนี ทั้งนี้ Yangwang U9X เป็นรถยนต์ไฮเปอร์คาร์ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน 100% ความสำเร็จครั้งสำคัญทางวิศวกรรมสมัยใหม่ สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับยานยนต์ไฟฟ้า ผสานพลังและความเร็วเข้าด้วยกันโดยปราศจากมลพิษ
U9 Xtreme ขับเคลื่อนบนแพลตฟอร์ม e4 ของ BYD ให้กำลังรวม 2,978 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว ซึ่งแต่ละตัวให้กำลัง 744 แรงม้า และสามารถหมุนได้สูงสุดถึง 30,000 รอบต่อนาที ซึ่งมากกว่า U9 รุ่นมาตรฐานที่มีกำลัง 1,288 แรงม้าถึงสองเท่า มากกว่า Rimac Nevera R ที่มีกำลัง 2,078 แรงม้า และ Aspark Owl ที่มีกำลัง 2,012 แรงม้า อัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่น่าทึ่ง อยู่ที่ 1,217 แรงม้าต่อตัน
...
Yangwang U9 Xtreme (เดิมชื่อ Track Edition) กลายเป็นรถยนต์ที่ผลิตออกมาเร็วที่สุดในโลกแล้ว ด้วยความเร็ว 308.4 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 496.21 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การบันทึกสถิติเกิดขึ้นที่สนามแข่งความเร็วสูง ATP Papenburg ในประเทศเยอรมนี
เกือบๆ 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช่แล้ว เพียงไม่กี่อาทิตย์ หลังจากทำลายสถิติความเร็วสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตออกขาย เป็นรถยนต์ที่ถูกกฎหมายสำหรับใช้งานบนท้องถนนที่เร็วที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรืออื่นๆ มันโค่นบัลลังก์ Bugatti Chiron Super Sport 300+ ซึ่งเคยทำความเร็วได้ 304.8 ไมล์ต่อชั่วโมง ( 490.05 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ในปี 2019 ก่อนหน้านี้เคยโค่น Aspark Owl (438 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และ Rimac Nevera R (431.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เรียกได้ว่าต่อยล้มทั้งยืนด้วยยันหว่าง! ทำลายล้างความเร็วท็อปสปีดของรถสันดาปทั้งสองคันอย่างราบคาบ
U9 ขับโดย Marc Basseng นักแข่งชาวเยอรมัน ผู้มีฝีมือไม่แพ้ใครในเรื่องความเร็ว และดูเหมือนจะเป็นชายผู้มีจิตใจแข็งแกร่ง ปีที่แล้วก็ทำสถิติส่วนตัวที่ดีที่สุดที่ 374 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน U9 รุ่น "มาตรฐาน" ปัจจุบัน Marc Basseng เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถเข้าสู่ทำเนียบความเร็ว 480 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
...
2,978 แรงม้า เพิ่มขึ้นสองเท่าจาก 1,288 แรงม้าของรถรุ่นปกติ จากมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว (ซึ่งใช้เหล็กซูเปอร์ซิลิคอนที่บางที่สุดในโลกเพียง 0.1 มิลลิเมตรในการผลิตจำนวนมาก) มอเตอร์แต่ละตัว สามารถหมุนได้สูงสุด 30,000 รอบต่อนาที
นอกจากนี้ U9 ยังเป็นไฮเปอร์คาร์รุ่นแรกที่ผลิตออกมาโดยใช้แพลตฟอร์มไฟฟ้าแรงดันไฟฟ้าสูงพิเศษ 1,200 โวลต์ ต่อยอดจากระบบ 800 โวลต์ ของ U9 รุ่นมาตรฐาน ช่วยให้สามารถส่งกระแสไฟฟ้าผ่านแพลตฟอร์มไปยังมอเตอร์ได้รวดเร็ว การแผดความร้อน ลดลงถึง 67 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์ม 800 โวลต์ ที่ให้กำลังเท่ากัน เมื่อผสานกับแบตเตอรี่ Blade สุดล้ำของ BYD ความหนาแน่นของแต่ละเซลล์ จะเพิ่มขึ้น 170 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับระบบ 800V ทำให้มีอัตราการคายประจุสูงสุดถึง 30 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าแบตเตอรี่ EV ทั่วไปถึง 10 เท่า!! ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องทางเทคนิค แต่พูดอีกอย่างก็คือ มันสามารถรักษาระดับกระแสไฟขาออกที่สูงมากๆ ได้โดยแบตฯใบมีดไม่ระเบิดตูมไปเสียก่อน นั้นถือเป็นข่าวดี สำหรับการวิ่งด้วยความเร็วสูงเฉียดๆ 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
U9 มีล้อเล็กลงเช่นกัน คือขนาด 20 นิ้ว แทนที่จะเป็น 21 นิ้ว ยางล้อหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 325 มม. จากเดิม 275 มม. เพื่อให้เข้ากับล้อหลัง นักเลงรถหลายคน คงคิดว่ายางต้องรับแรงกดดันมหาศาลมากๆ เมื่อต้อววิ่งด้วยความเร็วสูงสุด และแน่นอน น้ำหนักของแบตเตอรี่ก็หนักโคตร น้ำหนักรถเปล่ารวมอยู่ที่ 2,480 กิโลกรัม เบากว่า X7 XDrive 40d แค่นิดเดียวเท่านั้นเอง
รถไฮเปอร์คาร์ยันหว่าง U9 ผลิตเพียง 30 คัน และราคาน่าจะสูงกว่า U9 รุ่นมาตรฐาน ที่ราคา 200,000 ปอนด์ จุดหมายปลายทางต่อไป คือ การทำลายสถิติความเร็วบนบกด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 341.264 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 549.211 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั่นเป็นตัวเลขสถิติของยานยนต์ไฟฟ้าทรงหัวกระสุนอย่าง Buckeye Bullet 3 ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่ยากเย็นอะไรนัก!
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/