นี่คือ Concept AMG GT XX รถยนต์ต้นแบบแนวคิดของแบรนด์ตราดาว ซึ่งถือเป็นการปูทางไปสู่รถ ไฟฟ้ารุ่นแรกของ AMG (หากไม่นับ SLS Electric Drive ปี 2013 ซึ่งผลิตออกมาแค่ 9 คัน แล้วก็พับผ้าไปเรียบร้อย) Concept AMG GT XX จะเปิดตัวและขายในช่วงปีหน้า (2026) เพื่อเป็นแกนนำในการฟื้นคืนชีพของยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ Mercedes
...
ในความเป็นจริง...แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมัน ทั้ง Mercedes-Benz BMW Audi Porsche volkswagen ต่างพยายามดิ้นรนเพื่อเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า แต่กลับไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร ในไทย รถไฟฟ้าของเยอรมันต้องเจอกับการตัดราคาของรถไฟฟ้าจีน จนทำให้ยอดขายเหี่ยวเฉา เอาอะไรออกมาก็ขายสู้จีนไม่ได้ ทั้งจากต้นทุนการผลิต การตั้งราคา และรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นของแบรนด์เยอรมันที่ยังไม่โดนใจเศรษฐี Mercedes-Benz ก็เจอเข้ากับปัญหาความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าที่ไปไม่ถึงเป้าหมาย ผลิตภัณฑ์ที่มีตราสัญลักษณ์ EQ ขายไม่ดีเท่าที่ควร แผนการที่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2030 นั้นถูกยกเลิกไปนานแล้ว แต่แนวคิดที่หลงเหลือจากช่วงเวลาแห่งความฝันนั้นได้ช่วยหนุนหลังให้รถต้นแบบ GT XX ถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงที่แบรนด์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก Mercedes-Benz GT XX Concept ใช้แพลตฟอร์ม EV แบบพิเศษที่ออกมาจากแผนก AMG โครงสร้างผสมผสานเหล็ก อลูมิเนียม คาร์บอนคอมโพสิต แมคนีเซียมและวัสดุสังเคราะห์อื่นๆ นอกจากนี้ยังอาจมีรุ่น SUV ตามออกมาเพื่อที่แข่งขันกับ Ferrari Purosangue
GT XX ใช้เฉดสีของยานยนต์ต้นแบบแนวคิด Vision AMG ที่เปิดตัวในปี 2022 โดยมีการผสมผสานเทคนิคใหม่ๆของ Vision One-Eleven ที่เปิดตัวในปี 2023 ตัวถังของ GT XX ยังเชื่อมโยงกับความคลาสสิกของรถต้นแบบ Mercedes C111 ที่งดงาม ซึ่งคลอดออกมาในช่วงปลายทศวรรษ 1960 สีส้ม Sunset Beam แผงข้างประตูเรืองแสง กระจกหน้าออกแบบใหม่ ทำให้เสาหน้าหรือเสา A มีองศาลาดเอียงสุดๆ ส่งผลดีเลิศต่อระบบอากาศพลศาสตร์ตามค่าที่กำหนด แน่นอนว่า GT XX นั้น ผสมความหรูหราไฮเทคของยานยนต์ต้นแบบแนวคิดได้อย่างลงตัว แต่เมื่อขึ้นไลน์ผลิตจริง ก็อาจมีบางจุดที่โดนตัดออกไปเพราะความเว่อร์วังอลังการของรถโชว์ที่อาจทำให้ต้นทุนพุ่งกระฉูด
GT XX ยังเป็นรถที่เข้ามาแทนที่ AMG GT 4 ประตู แต่เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์สันดาปเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า Porsche Taycan และ Lucid Air คือคู่แข่งที่ GT XX จะต้องลงสนามไปสู้ ลองสังเกตให้ดีๆ ดูเหมือน AMG พยายามจะเอาใจลูกค้าสูงวัย ด้วยการออกแบบสไตล์ย้อนยุค กระจังหน้าเหมือน Jaguar ไฟท้ายทรงกลมเหมือน Ferrari Classic ทำให้ Mercedes AMG GT XX Concept ดูย้อนยุคอย่างแปลกประหลาด แต่โดยรวม ทรงของมันกลับถูกใจกลุ่มลูกค้าสูงวัยที่ชอบความขลังของรถตราดาวในอดีต
...
ความยาว 5,200 มิลลิเมตร กว้างเกือบ 2,000 มิลลิเมตร ทำให้ GT XX ดูโอ่โถงราวกับ Maybach ตัวรถและแผงใต้ท้องรถเรืองแสงด้วยไฟ LED เพื่อแสดงสถานะการชาร์จ ส่วนหน้าของ AMG GT XX เน้นที่ทัศนคติเชิงแนวคิดเป็นหลัก ไฟหน้าเรียงซ้อนกันในแนวตั้ง มีลำโพงในตัวพร้อมเมมเบรนแบบพาสซีฟสำหรับการตอบสนองความถี่ต่ำ ลำโพงเหล่านี้จะส่งเสียงเพื่อแจ้งเตือนคนเดินเท้า AMG รู้ดีว่าเสียงดังสนั่นจากเครื่องยนต์ V8 นั้น ถือเป็นจุดขายหลัก ส่วน รถยนต์ไฟฟ้าที่มีเสียงสไตล์อวกาศนั้น ไม่ค่อยจะถูกใจลูกค้าเก่าสักเท่าไหร่ (ถึงขายไม่ดีไง) เมื่อเป็นยานยนต์ EV ก็ต้องยอมรับว่าเสียงของรถน่าจะออกมาในแบบยานเอเลี่ยนเหมือนเดิม
...
ช่องระบายความร้อนที่ฝากระโปรงหน้า เป็นช่องระบายอากาศแบบโดม สะท้อนถึงยุครุ่งเรืองของเครื่องยนต์สันดาปภายใน AMG GT XX ยังมีประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.20 (cd 0.20) สปลิตเตอร์ด้านหน้าและครีบระบายอากาศใต้พื้น ช่วยลดการยกตัว แผงควบคุมอากาศแบบแอ็คทีฟของ AMG เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนให้กับมอเตอร์และแบตฯ นอกจากนี้ยังมีเบรกอากาศด้านหลังทำงานอัตโนมัติโดยจะยกตัวขึ้นมาในแนวตั้งคล้ายกับ McLaren 720s นอกจากไฟท้ายทรงกลมแล้ว ยังมีแผงไฟ LED RGB (แดง เขียว และน้ำเงิน) ที่ตั้งโปรแกรมได้ จำนวน 700 ดวง อยู่ตรงกลางระหว่างไฟท้ายทั้งสองฝั่ง Mercedes AMG แจ้งมาว่า หลอด LED เล็กๆ ทั้ง 700 ดวง สามารถแสดงข้อความ รูปแบบกราฟิกที่หลากหลาย แต่ตอนผลิตจริงน่าจะถูกยกเลิกเพราะลูกค้า AMG ส่วนใหญ่ไม่ชอบอะไรที่ดูแล้วแปลกตาหรือตลกเกินไป
...
AMG GT XX ใส่ล้อทรงแอโรไดนามิก ขอบ 21 นิ้ว มีใบพัดเคลื่อนที่ได้ 5 ใบ ควบคุมโดยหน่วยควบคุมกลางซึ่งมีตัวกระตุ้นในดุมล้อ เมื่อขับในสนามแข่งและเบรกต้องการการระบายความร้อนเพิ่ม ใบพัดที่ดุมล้อจะเคลื่อนที่เพื่อเหนี่ยวนำกระแสลมมาระบายความร้อนให้กับระบบเบรก ตัวกระตุ้นแต่ละตัวใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็ก เพื่อจับพลังงานไฟฟ้าจากล้อ อุปกรณ์ในจุดนี้ AMG แจ้งว่ายังไม่พร้อมสำหรับการผลิตแต่พร้อมสำหรับการโชว์ในยานยนต์ต้นแบบเท่านั้น!
Mercedes AMG GT XX มีกำลังประมาณ 1,340 แรงม้า ความสามารถในการชาร์จไฟก็เจ๋ง ระบบชาร์จกระแสไฟฟ้าแบบใหม่ แบตเตอรี่เมื่อชาร์จไฟ DC แค่ 5 นาที จะได้ระยะทางในการขับขี่ไกล 400 กิโลเมตร ด้วยระบบไฟ 800V และมอเตอร์ฟลักซ์แนวแกน ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าแบบเรเดียลฟลักซ์ถึงสองในสาม มอเตอร์ขับเคลื่อนแบบใหม่มีขนาดเล็กลง ใช้พื้นที่แค่ถึงหนึ่งในสามของมอเตอร์แบบเก่า มีมอเตอร์สามตัวบรรจุอยู่ใน ชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าสมรรถนะสูงสองชุด มอเตอร์ ขับเคลื่อนที่ติดตั้งอยู่ด้านหลัง มีน้ำหนัก 140 กิโลกรัม ทำงานร่วมแกนกับมอเตอร์อีกสองตัว พร้อมชุดเกียร์และอินเวอร์เตอร์ซิลิกอนคาร์ไบด์ระบายความร้อนด้วยน้ำมันอีกตัว ส่วนชุดขับเคลื่อนอีกชุดมีน้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม ประกอบด้วยมอเตอร์ เกียร์ และอินเวอร์เตอร์ EDU ชุดขับเคลื่อนด้านหน้าจะทำงานเฉพาะเมื่อต้องการแรงบิดหรือแรงฉุดลากเพิ่มเติมเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะแยกออกจากกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน
มอเตอร์ไฟฟ้า Yasa ซึ่งเป็นบริษัทอังกฤษที่ Mercedes ซื้อกิจการในปี 2021 เพื่อผลิตมอเตอร์ให้กับยานยนต์ไฟฟ้า มอเตอร์จะผลิตในโรงงาน Mercedes ที่ชานเมืองเบอร์ลิน ซึ่งต้องใช้กระบวนการผลิตที่แยกจากกัน 100 ขั้นตอน Mercedes AMG ใช้ การเชื่อมด้วยเลเซอร์แบบใหม่ ที่มี AI ทำงานอยู่ด้วย
AMG GT XX มีความเร็วสูงสุดมากกว่า 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่ง 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5 วินาที นั่นคือตัวเลขที่อยู่ในอาณาเขตของ Koenigsegg Jesko การมีอยู่ของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC+ นั่นเป็นวิธีที่วิศวกรของ AMG ใช้ควบคุมแรงบิดที่ถ่ายลงล้อ แน่นอนว่าอัลกอริทึมของโหมดดริฟท์ละลายยางนั้นถูกบรรจุอยู่ในโหมดขับเคลื่อนของ GT XX เพื่อเอาใจเศรษฐีนักขับ
แบตเตอรี่ที่วางอยู่ใต้พื้นของ GT XX มีการออกแบบเซลล์แบตฯให้มีขนาดที่เหมาะสม ช่วยให้ความร้อนกระจายตัวได้เร็วขึ้นมากภายใต้ภาระการเร่งความเร็วอย่างหนักหน่วง เซลล์แต่ละเซลล์บรรจุอยู่ในอลูมิเนียม เชื่อมด้วยเลเซอร์เพื่อความแม่นยำ ทำให้มีน้ำหนักเบากว่าและมีการเหนี่ยวนำไฟฟ้าที่ดีกว่าเดิม มีเซลล์มากกว่า 3,000 เซลล์ บรรจุอยู่ในโมดูลพลาสติกและระบายความร้อนด้วยน้ำมันที่ไม่นำไฟฟ้า กระบวนการระบายความร้อน ขึ้นอยู่กับความต้องการของระบบ โมดูลเซลล์แต่ละโมดูลได้รับการรองพื้นอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นประสิทธิภาพจึงไม่ลดลงเมื่ออุณหภูมิการทำงานสูงขึ้น
ความเร็วในการชาร์จนั้นสำคัญพอๆ กับความเร็วหรือระยะทางที่ขับ ปัจจุบันยังไม่มีจุดชาร์จที่สามารถส่งอิเล็กตรอนได้ถึง 850 กิโลวัตต์ แต่ Mercedes-AMG มีแผนที่แยบยล โดยร่วมมือกับ Alpitronic ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการชาร์จพลังงานขั้นสูง ทำการ ออกแบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับแท่นชาร์จบ้าพลัง Alpitronic พัฒนาแท่นชาร์จต้นแบบที่สามารถจัดการพลังงานมหาศาลได้โดยใช้สายเคเบิล CCS แบบมาตรฐาน เป้าหมายคือ Alpitronic สร้างแท่นชาร์จที่สามารถชาร์จไฟได้ถึงหนึ่งเมกะวัตต์ นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการรถยนต์ไฟฟ้า
หลักการของ GT XX Concept คือ การทำให้เทคโนโลยีถูกมองเห็นได้ชัดเจนในขณะที่เน้นประสิทธิภาพและโครงสร้างน้ำหนักเบา การจัดวางภายในห้องโดยสาร แสดงให้เห็นถึงห้องเครื่องแบบดั้งเดิมและมีโครงสร้างคานขวางแบบรีดขึ้นรูป สายไฟแรงดันสูงวางอยู่ทั่วเพื่อเตือนคุณว่านี่ไม่ใช่รถเครื่องยนต์สันดาป เบาะนั่งด้านหน้าเปลือกหุ้มเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ วัสดุรองเบาะทำจากไบโอเทคที่เรียกว่า Labfiber ซึ่งนำยางรถแข่งที่ใช้แล้วมาทำวัสดุรองเบาะแบบใหม่ แน่นอนว่ายังมีโปรตีนจากพืชเป็นส่วนประกอบอีกตะหาก
พวงมาลัยคล้ายกับ AMG One เป็นโครงสี่เหลี่ยมที่ตัดให้สั้นลงซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Formula One Mercedes ยืนยันว่าพวงมาลัยแบบใหม่พร้อมแล้วสำหรับการผลิต พวงมาลัยแบบ Steer by Wire เชื่อมต่อกับซอฟแวร์อันชาญฉลาดโดยไม่มีความจำเป็นจะต้องเชื่อมกับแกนแรคอีกต่อไป
แน่นอนว่า AMG GT XX ของจริงจะต้องลดความวิจิตรบรรจงของรถต้นแบบแนวคิดที่มากเกินไป สิ่งที่อยู่ข้างในทั้งหมดนั้นถูกกำหนดให้ผลิตออกมาขายในจำนวนที่ไม่มากนัก และบางที แผนการผลิตไฟฟ้า Mercedes-AMG v2.0 อาจเป็นแผนการผลิตที่ประสบความสำเร็จก็ได้ใครจะไปรู้!