NETA ไม่ต้องมาแต่สคบ.ไปตรวจสอบเอง พร้อมหามาตรการดูแลลูกค้าที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้ากว่า 20,000 ราย หลังเจ้อเจียง โฮซอน นิวเอ็นเนอร์ยี ออโตโมบิล บริษัทแม่ที่จีนล้มละลาย

จากกรณีบริษัท เจ้อเจียง โฮซอน นิวเอ็นเนอร์ยี ออโตโมบิล ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของรถยนต์ไฟฟ้า NETA ประกาศเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (Hozon ผู้ผลิตรถไฟฟ้า Neta ยื่นล้มละลายอย่างเป็นทางการในจีน) ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคชาวไทยที่ใช้รถยนต์ NETA ได้รับผลกระทบ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 68 นายอนุพงษ์ เจริญเวช ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค 2 ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการสถานีประชาชน โดยระบุว่า ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ของ สคบ. ก็ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว ตอนแรกจะให้ NETA เข้ามาที่ สคบ. แต่ปรากฏว่าด้วยระยะเวลาค่อนข้างกระชั้นชิด

ทั้งนี้เรามองว่า การที่เราลงพื้นที่ ณ ตอนนี้น่าจะได้ข้อเท็จจริงที่มากกว่าการนั่งรอเขาเข้ามา ซึ่งตอนนี้ทางทีมงานหรือทางเจ้าหน้าที่ของ สคบ. เนี่ยก็อยู่ที่ทางผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อที่จะให้เราตามงานเดิมนะ โดยเมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. มีกลุ่มผู้บริโภคไปร้อง สคบ. ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาอะไหล่ รวมถึงกล่อง CDU ว่านำเข้ามาแล้ว อยู่ที่ไหนอย่างไร ส่วนประเด็นเรื่องของการจดทะเบียนจากป้ายแดงเป็นป้ายขาว ในส่วนนี้ทางดีลเลอร์ หรือผู้แทนจำหน่ายได้ดำเนินการจดทะเบียนให้หมดแล้ว

สำหรับงานใหม่คือประเด็นบริษัทแม่ล้มละลายนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งในไทยเองมีการแยกนิติบุคคลกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้รถยนต์อย่างไรก็เกิดความไม่มั่นใจ ในเมื่อบริษัทแม่ไม่ไหว ลูกที่อยู่ที่ไทยจะอยู่อย่างไร

...

ทั้งนี้ สคบ. จะได้ดูต่อว่าที่ไทยเอง NETA จะเป็นอย่างไร เรามาขอความเชื่อมั่นว่าจะทำประกอบธุรกิจในไทยต่อไป หรือมีแนวทางดูแลผู้บริโภคที่มีปัญหาก่อนหน้านี้อย่างไร หรือถ้าเนต้า ไทยแลนด์บอกว่าไม่ไหวก็จะไปเหมือนกัน ก็จะดูว่าเนต้าจะดูมาตรการดูแลอย่างไร เช่น คุณจะมีบริษัทมีบุคคลหรือคุณไปทำพันธมิตรกับบริษัทห้างร้านไหน หรือดีลเลอร์ไหนเพื่อจะซัพพอร์ตลูกค้าคุณหรือไม่อย่างไร

"ความมั่นใจของผู้บริโภคในประเทศ สมมติเลวร้ายที่สุด ในไทยถ้าจะเลิกกิจการ สคบ. ก็ต้องบอกว่าเนต้าก็ต้องมีมาตรการดูแลลูกค้า รถทุกคันที่ขายผ่านดีลเลอร์ไป 20,000 คัน นั้นเหลือวารันตี (Warranty) เท่าไร และจะดูแลอย่างไร แต่ถ้าไม่เลิกกิจการและทำต่อ ก็ต้องขอไทม์ไลน์การทำงานที่ชัดเจน ซึ่งก่อนหน้านี้เนต้าได้แจ้งความประสงค์ว่าจะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอยู่ แต่พอมีเรื่องจีน เราก็ลงไปดู"

สำหรับกระบวนการของการฟ้องร้องดำเนินคดีนั้น สคบ. ดำเนินการแทนผู้บริโภคได้อยู่แล้ว ตอนนี้ก็มีการคุยกับทางผู้บริโภคในบางราย หรือผู้บางรายก็มีการคุยกับทาง สคบ. ว่าเราอาจต้องใช้มาตรการทางกฎหมายสุดท้ายแล้วหากต้องยื่นโนติแล้วก็ดำเนินการแก้ไข ถ้าเกิดเนต้ายังไม่ดำเนินการแก้ไขไม่ได้ เราก็ต้องให้บุคคลภายนอกซ่อม แล้วก็เรียกค่าใช้จ่ายจากเขาในการดำเนินการเช่นกัน

"ตอนนี้ทุกอย่างกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ และเจ้าหน้าที่ของสคบ.เองยังอยู่ที่บริษัทเนต้า ไทยแลนด์ ซึ่งหากมีความคืบหน้าและมีการความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว สคบ.จะรีบแจ้งให้ทราบในอันดับถัดไป"