กระทรวงการคลัง ชงบอร์ด EV คุมค่ายรถไฟฟ้าให้รายงานการผลิตกับสรรพสามิตทุกๆ 2 เดือน พร้อมเพิ่มอำนาจให้สรรพสามิตระงับการจ่ายเงินอุดหนุนได้เมื่อค่ายรถไม่ทำตามเงื่อนไข

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาการปรับเงื่อนไขในการเพิ่มอำนาจให้กรมสรรพสามิตให้สามารถระงับการจ่ายเงินสมทบให้กับค่ายรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ที่เข้าร่วมมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าระยะแรก หรือ EV3.0 และ EV3.5 ได้ทันที โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ประกอบการหรือบริษัทมีปัญหา ไม่สามารถดำเนินการได้ตามเงื่อนไขของมาตรการ เช่น การผลิตรถอีวีชดเชยไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ รายละเอียดและวิธีการของการปรับเงื่อนไข คือ จะระบุให้ค่ายรถที่เข้าร่วมมาตรการ EV3.0 และ EV3.5 ต้องทำแผนการผลิตส่งมาให้ก่อนที่จะเริ่มทำสัญญา เช่น ค่ายรถต้องกำหนดแผนให้ชัดเจนว่าหลังจากนี้จะผลิตชดเชยเดือนละกี่คัน หากทำไม่ได้ตามแผนติดต่อกัน 2 เดือน สรรพสามิตจะมีอำนาจในการระงับการจ่ายเงินอุดหนุน

...

อย่างไรก็ตาม ในเงื่อนไขเดิมกรมสรรพสามิตไม่สามารถระงับสิทธิในการจ่ายเงินอุดหนุนได้หากค่ายรถทำผิดเงื่อนไข ดังนั้นเราจึงจะชงบอร์ด EV ในการปรับเงื่อนไขตรงนี้ เพื่อทำให้สามารถระงับการจ่ายเงินอุดหนุนได้ทันทีเมื่อมีสัญญาณว่าค่ายรถมีปัญหา ซึ่งเราอาจจะมีกันชนให้นิดหน่อย เช่น หากค่ายรถระบุว่าผลิตได้เดือนละ 300 คัน แต่ผลิตได้ 280 คัน เนื่องจากติดปัญหา ก็อาจจะอนุโลมให้ โดยหลังจากหารือกับบอร์ด EV เรียบร้อยแล้วจะเข้าสู่กระบวนการเสนอต่อ ครม. ต่อไป"

สรรพสามิตจ่ายเงินอุดหนุนแล้วค่ายรถทำผิดเงื่อนไขเรียกเงินคืนได้หรือไม่

ดร. เผ่าภูมิ กล่าวว่า ในความเป็นจริงแล้ว การจ่ายเงินอุดหนุนแบ่งเป็น 3 ส่วน โดยส่วนแรกคือ การลดภาษีจาก 8% เหลือ 2% ส่วนที่สองการอุดหนุนเงินช่วยเหลือคันละ 150,000 บาท ซึ่งส่วนนี้เป็นการส่งผ่านไปยังประชาชนด้วย ส่วนที่ 3 คือ การผลิตรถชดเชย ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องได้รับจากค่ายรถ ทั้งนี้สิ่งที่ค่ายรถต้องจ่ายคืนให้รัฐหากค่ายรถไม่สามารถทำตามเงื่อนไข ได้แก่ เงินอุดหนุนคันละ 150,000 บาท และเงินภาษีที่ได้รับการลดให้ทั้งภาษีสรรพสามิตและภาษีนำเข้า

"หากค่ายรถไม่สามารถทำได้ตามเงื่อนไขก็ต้องจ่ายคืนให้รัฐ คือเงินทั้งหมดที่รัฐจ่ายให้ไป รัฐจ่ายให้เท่าไหนก็ต้องจ่ายคืนเท่านั้น"

กรมสรรพสามิตจ่ายเงินให้เนต้าไปแล้ว 2,000 ล้าน

ดร. เผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีบริษัทเนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ NETA ที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ กรมสรรพสามิตได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมสรรพสามิต คือ เรื่องการจ่ายเงินอุดหนุนคันละ 150,000 บาท

โดยกรมสรรพสามิตได้มีการจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวให้กับ NETA ไปแล้วประมาณ 2,000 ล้านบาท ขณะที่ NETA ยังค้างการผลิตรถ EV ชดเชยตามมาตรการอีกประมาณ 19,000 คัน จากก่อนหน้านี้ได้ผลิตชดเชยไปแล้ว 4,000 คัน ทั้งนี้กรมสรรพสามิตได้ชะลอการจ่ายเงินชดเชยประมาณ 400 ล้านบาทไว้ก่อน