ท่ามกลางกระแสข่าวลือเกี่ยวกับสถานการณ์การทำธุรกิจของรถไฟฟ้าแบรนด์ Neta หรือเนต้า ทั้งในประเทศไทยและบริษัทแม่ในประเทศจีนไม่ค่อยสู้ดี โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเงินที่ขาดสภาพคล่องในการทำธุรกิจ

สำหรับลูกค้า Neta ในประเทศไทยก็เริ่มพบปัญหา เช่น การรออะไหล่ในการซ่อม รวมถึงศูนย์บริการและศูนย์ซ่อมก็ทยอยปิดตัวลง ลูกค้า Neta บางคนเคยต้องจอดรถทิ้งเอาไว้ที่ศูนย์ซ่อมนานเกือบปี ทำให้ต้องยอมทิ้ง Warranty จากทาง Neta มาหาซ่อมเอาข้างนอก

โดยหนึ่งในตัวเลือกที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะแบรนด์ Neta เลือกมาใช้บริการมากที่สุดก็คือ กิ้งกือ EV Shop  ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์จึงไม่รอช้าบุกถึงรังกิ้งกือ ไปดู ป๊อบ สาโรช พรรค์สมบัติ เจ้าของกิ้งกือ EV Shop และเจ้าของสโลแกน "ร้านอินดี้ทำตามใจช่าง กวนและไร้เหตุผล ทำฟรีบ้าง เก็บเงินบ้างตามนิสัยลูกค้า แต่ที่สำคัญรถที่จะส่งงานออกไปต้องเนี๊ยบทุกคัน ทำแล้วไม่ดีผมไม่ทำ" ว่า มีรถไฟฟ้ามาซ่อมจริงแบบที่เห็นในแฟนเพจเฟซบุ๊กจริงไหม เมื่อไปถึงก็พบว่า เป็นเรื่องจริง ระหว่างที่เรากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น มีรถสไลด์มาส่งรถ Neta ถึง 2 คัน ห่างกันไม่เกิน 3 นาที 

...

สาโรช บอกว่า ปัจจุบันมีลูกค้ารถไฟฟ้าแบรนด์ Neta เข้ามาใช้บริการที่อู่มากกว่าวันละ 20 คัน ในเวลา 2 ปีที่เราทำอู่ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้ามานั้น เราซ่อมรถเนต้าไปแล้วประมาณ 10,000 คัน โดยอาการเสียส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาคุณภาพในการผลิต และการออกแบบที่ไม่ได้มาตรฐาน

สำหรับปัญหารถ Neta ส่วนใหญ่ที่ลูกค้าเข้ามาซ่อม ได้แก่

1. กล่องควบคุม (CDU)
2. ลูกปืนล้อ
3. ลูกปืนมอเตอร์
4. ปั๊มน้ำ

สาโรช กล่าวอีกว่า ผมก็เป็นลูกค้าของเนต้าเหมือนกัน ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ส่งผลกระทบต่อลูกค้าโดยตรง หนึ่งในปัญหาที่สำคัญคือ การขาดแคลนอะไหล่ที่เกิดจากการที่บริษัทแม่ในจีนไม่ส่งอะไหล่มาให้ ซึ่งทำให้ศูนย์ซ่อมไม่สามารถให้บริการซ่อมได้ตามที่ลูกค้าคาดหวัง

เมื่อลูกค้าถูกทิ้งให้ต้องแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง หรือรับภาระในการซื้ออะไหล่จากที่อื่น เราก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม เนื่องจากพวกเขาคาดหวังว่าศูนย์ซ่อมจะรับผิดชอบในงานซ่อมตามที่ทำสัญญาไว้ ปัญหานี้ทำให้ลูกค้าหลายคนรู้สึกผิดหวังและเริ่มสูญเสียความเชื่อมั่นในบริษัท 

ในกรณีที่พวกเขาต้องการซ่อมในช่วงวารันตี ก็จะมีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากบางกรณีก็ไม่สามารถเคลมได้ตามเงื่อนไขประกัน ทำให้ลูกค้าต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง

"มีคำถามว่าทำไมผมถึงได้อะไหล่เร็วกว่าคนอื่น เพราะผมรู้และเข้าใจการซื้ออะไหล่จากประเทศจีนตั้งแต่สมัยทำร้านแต่งรถ ประกอบกับการเรียนรู้การซ่อมด้วยตัวเองที่เริ่มจากการซื้อรถไฟฟ้าเนต้ามาใช้งาน ก็พบปัญหาจากนั้นก็เริ่มลงมือซ่อมเอง ทำเองจนมีความรู้ความเข้าใจในการซ่อม"

...

เมื่อ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" ถามถึงบทบาทใหม่ในการบริหารศูนย์บริการกิ้งกือ ที่ศูนย์เนต้า พระประแดงนั้น สาโรช ให้คำตอบว่า ที่นั่นเราจะดูแลรับเคลมงานประกันภัย เคลมสี ตัวถัง และซ่อมทุกอย่างเหมือนกิ้งกือร้านเดิมทุกอย่าง เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้า Neta กว่า 20,000 คันที่กำลังไม่มีที่พึ่ง แต่ที่ร้านดั่งเดิมก็ยังคงรับงานซ่อมอยู่เหมือนเดิม

"หลายคนฝากความหวังไว้กับผมมาก ว่ากิ้งกือต้องเป็นที่พึงจะต้องเป็นคนที่ซ่อมรถเนต้าให้ทุกคนได้ ผมก็อยากจะบอกนะ ว่าอย่ามาฝากความหวังไว้ที่ผมเลย ผมไม่ได้ซ่อมได้ทุกอย่าง ผมทำเท่าที่ผมทำได้ อะไหล่หาเท่าที่หาได้ อันไหนหาไม่ได้ก็จำใจต้องบอกว่าซ่อมไม่ได้ ผมทำเพราะผมอยากทำ แต่ถ้าวันไหนผมหมดสนุกกับเนต้าแล้ว ไม่มีแรงบันดาลใจกับการซ่อมแล้ว พรุ่งนี้ผมก็อาจจะปิดร้านก็ได้ ฉะนั้นทุกคนดูแลตัวเองกันดีๆ เถอะครับ อย่ามาหวังพึงผมเลย"

ติดตามบทสัมภาษณ์ตัวเต็มในรูปแบบ VDO ในไทยรัฐออนไลน์เร็วๆ นี้