AION Thailand ยิ้มยอดจดทะเบียนรถไฟฟ้า C-SUV และ Premium SUV แตะอันดับ 1 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
นายหวัง เฮ่าวหย่ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในเดือน ก.พ. 68 ที่ผ่านมา AION Thailand ได้สร้างปรากฏการณ์ที่มียอดจดทะเบียนอันดับ 1 และอันดับ 2 ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า C-SUV ในรุ่น AION V และ AION Y Plus
พร้อมยังคว้าตำแหน่งยอดจดทะเบียนอันดับ 1 รถยนต์ไฟฟ้า Premium SUV ในรุ่น HYPTEC HT สะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคชาวไทย ที่ไว้วางใจและเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ AION และ HYPTEC
ทั้งนี้ AION Thailand มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในเดือน ก.พ. อยู่ที่ 885 คัน คิดเป็นยอดจดทะเบียนสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและดีไซน์ที่ตอบโจทย์การขับขี่แห่งอนาคต โดยยอดจดทะเบียนจะแบ่งออกเป็นรถรุ่นต่างๆ ดังต่อไปนี้
- AION V ยอดจดทะเบียน 439 คัน
- AION Y Plus ยอดจดทะเบียน 152 คัน
- AION ES ยอดจดทะเบียน 29 คัน
...
- HYPTEC HT ยอดจดทะเบียน 264 คัน
- HYPTEC SSR ยอดจดทะเบียน 1 คัน
นอกจากนี้ AION Thailand ยังได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่ง CAR OF THE YEAR 2025 จากบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ถึง 2 รางวัล จากรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นดังนี้ AION V ได้รับรางวัล BEST SUV EV (FWD) และ HYPTEC HT ได้รับรางวัล THE MOST VALUABLE & LUXURY SUV EV
"การได้รับรางวัลนี้ถือเป็นการยืนยันความสำเร็จของ AION Thailand ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูง ทั้งในด้านนวัตกรรม การออกแบบ และการผลิต มันเป็นหลักฐานที่ชัดเจนถึงความยอมรับอย่างกว้างขวางของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย และยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค"
อย่างไรก็ตาม AION Thailand ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัยและมีคุณภาพสูงสุด แต่เรายังให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าในทุกช่วงเวลา เพราะเราเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า ไม่ได้จบลงเพียงแค่การส่งมอบรถยนต์ แต่คือการดูแลลูกค้าของเราอย่างดีที่สุดตลอดอายุการใช้งาน เพื่อสร้างประสบการณ์
รวมถึงการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า AION และ HYPTEC ที่สมบูรณ์แบบ เราจึงให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายที่ครอบคลุม การรับประกันที่เหนือกว่า ให้ลูกค้าสามารถใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างไร้กังวล พร้อมด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือระดับและน่าประทับใจ
นายหวัง เฮ่าวหย่ง กล่าวอีกว่า GAC AION ยังได้ลงทุนด้วยเม็ดเงินกว่า 2,300 ล้านบาท ในการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่นิคมอมตะซิตี้ ระยอง สำหรับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย รวมถึงยังมีความร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในการศึกษาระบบเชื่อมต่อและความเข้ากันได้ระหว่างเครื่องอัดประจุไฟฟ้าของ GAC Energy กับ PEA VOLTA เพื่อให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้ชื่อ PEA VOLTA
อีกทั้งยังได้ผนึกกำลังกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เปิดศูนย์ Training Center แห่งแรกในไทย เพื่อพัฒนาและผลักดันบุคลากรในประเทศให้มีคุณภาพ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยในอนาคตต่อไป
สำหรับ GAC Group เป็นบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกที่มุ่งมั่นสร้างคุณค่าให้กับอุตสาหกรรม ผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง นวัตกรรมล้ำสมัย บริการที่ยอดเยี่ยม และยังเป็นบริษัทแม่ของ GAC AION อีกด้วย โดย GAC Group ได้รับการจัดอันดับใน Fortune Global 500 ต่อเนื่องถึง 12 ปี โดยในปี 2024 อยู่ที่อันดับ 181 มีบุคลากรระดับแนวหน้ากว่า 100,000 คน จาก 15 ประเทศทั่วโลก
...
รวมถึงทีมวิจัยและพัฒนา 6,000 คน ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ด้วยสิทธิบัตรกว่า 18,600 รายการ และนวัตกรรมที่จดสิทธิบัตรกว่า 7,600 รายการ พร้อมศักยภาพด้านการผลิตที่แข็งแกร่ง ด้วยยอดขายกว่า 2.5 ล้านคันในปี 2023 ติดอันดับ 4 ของอุตสาหกรรมยานยนต์จีน
ปัจจุบัน GAC Group มีแบรนด์รถยนต์ในเครือที่แยกเป็นอิสระ 3 แบรนด์ ได้แก่ AION, HYPTEC และ GAC Motor นอกจากนี้ GAC Group ยังเป็นพันธมิตรระยะยาวกับ HONDA และ TOYOTA ผ่านบริษัทร่วมทุน GAC HONDA และ GAC TOYOTA พร้อมสร้างเครือข่ายธุรกิจครบวงจร ตั้งแต่การผลิตและพัฒนา R&D Centers ในจีน สหรัฐฯ และอิตาลี ไปจนถึงการขยายตลาดสู่ 74 ประเทศทั่วโลก
อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ ด้วยการใช้ Big Data ขับเคลื่อนโซลูชันพลังงานอัจฉริยะ พร้อมระบบ AI สำหรับการขนส่งที่มีความแม่นยำสูงถึง 95% GAC Group ไม่เพียงเป็นผู้นำด้านยานยนต์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรม ความเป็นเลิศ และความมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตแห่งการเดินทางที่ล้ำหน้าสำหรับโลกทั้งใบ