Hyundai Ioniq 5 N สมควรที่จะอยู่ในจุดสูงสุดนี้ และคว้าชัยชนะในกลุ่มรถยนต์ทดสอบพลังงานไฟฟ้า ด้วยการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและความเร็วที่เหนือชั้น Ioniq 5 N ทำคะแนนเอาชนะคู่แข่งด้วยการขับที่เร้าใจสุดๆ

...

ข้อมูลจำเพาะ Hyundai Ioniq 5 N ปี 2025
แบตเตอรี่ ลิเธียมไออน 84.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง
กำลังขับเคลื่อน 641 แรงม้า / แรงบิด 740 นิวตันเมตร (545 ปอนด์-ฟุต)
0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 3.4 วินาที
น้ำหนัก 2,204 กิโลกรัม 4,861 ปอนด์
ราคา 3,790,000 บาท

มันคือรถ EV แต่ขับได้ดีเหมือนรถสันดาปภายใน! 

Hyundai Ioniq 5 N ปี 2024 คือจุดบรรจบของสมรรถนะ ความสนุก ทันสมัยและค่อนข้างปลอดภัย เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงของแบรนด์ N จาก Hyundai และเป็นเส้นแบ่งระหว่างพลังงานและความเร็ว ไม่ว่าคุณจะเลือกรถสมรรถนะสูงแบบไหน ยี่ห้ออะไร ใช้เครื่องยนต์หรือมอเตอร์ อะไรก็ตาม Hyundai คันนี้ทำให้ความพยายามของรถเจ๋งๆอย่าง Aston, Lotus และ Porsche ดูธรรมดาไปเลย 5 N ถูกสร้างขึ้นมาตามแนวคิดที่ยึดโยงกับมอเตอร์สปอร์ต ล้ำสมัยและไม่มีอะไรมากกว่าความบันเทิงเริงรมย์ คนทั่วไปมองว่ามันก็แค่รถไฟฟ้าแรงๆ คันหนึ่งเท่านั้น แต่คนที่เคยขับไม่ได้คิดแค่นั้น Ioniq 5N เป็นได้ทั้งของเล่นเศรษฐีพันล้านหรือรถใช้งานของอินฟูลฯชื่อดัง! 

...

...

Hyundai กล้าที่จะบุกเบิกเส้นทางใหม่ ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่ดีที่สุดที่อุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่เคยสร้างมา และอาจเป็นรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงเพียงรุ่นเดียว (จนถึงตอนนี้)

ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ เร่งได้เร็วกว่าเยอะ วิ่งทำเวลาต่อรอบในสนามแห่งตำนานได้เร็วกว่า แรงกว่า และทำเวลาได้ดีกว่าเกือบทุกที่ แต่ด้วย Hyundai 5 N ที่มีราคา 3,790,000 บาท ไม่มีรถไฟฟ้ารุ่นไหนเลยที่เข้าโค้งชิเคนได้อย่างมีศิลปะเหนือกว่า 5 N แน่นอนว่ามันมีรูปร่างเหมือนขนมปัง แต่ Ioniq 5 N ขับได้ในแบบเดียวกับรถสปอร์ตที่ผมคลั่งไคล้ ซึ่งก็คือ M3 ขับเคลื่อนสี่ล้อที่ห่อหุ้มด้วยรูปลักษณ์ที่เต็มไปด้วยเหลี่ยมมุม  ไม่ว่าจะอยู่ในโค้งมุมแคบพับไปพับมาในสนามแข่ง หรือโค้งยาวบนถนนสายรอง Hyundai ioniq 5 N ก็ตอบสนองความต้องการของคุณได้ดั่งใจ ราวกับทากาวเอาไว้ที่ล้อ ฟิลลิ่งของมันสร้างความมั่นใจ ให้ความตื่นเต้นเร้าใจและความสนุกสนานได้มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน 

การปรับเทียบให้รู้ถึงฟิลลิ่งการควบคุมอย่างขยันขันแข็งและมีความเชี่ยวชาญในการปรับจูนรถของ Hyundai (ซึ่งจ้างทีมงานมาจาก BMW) ตั้งแต่ตำแหน่งที่นั่งขับ ไปจนถึงพวงมาลัย มันง่าย ตรงไปตรงมา เบรกดี มีทั้งพลังและความยืดหยุ่น Ioniq 5 N ขับออกจากปลายโค้งด้วยคันเร่งที่ถูกจุ่มลงจนมิดเหมือน Porsche มันเข้าโค้งได้อย่างคล่องแคล่วเหมือน MX-5 Miata และเกาะถนนพอๆกับ BMW M3 Touring 

...

N แบรนด์ ตราสัญลักษณ์แห่งความแรง หรือ N is the official name of Hyundai's high-performance brand ที่เหมือนกับ BMW M สำหรับ N Brand เป็นแผนกที่รับงานปรับแต่งองคาพยพของรถรุ่นมาตรฐาน ผลักดันประสิทธิภาพของยานยนต์ในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีให้สูงกว่าเดิมหลายเท่า เพื่อดึงความสนุกของรถยนต์เวอร์ชันมาตรฐานในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Hyundai ให้มากกว่ารุ่นเดิม รถ N คันแรกที่ขายในสหรัฐอเมริกา คือ Veloster N ซึ่งได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี ค.ศ. 2020 หลังจากนั้นก็มีการเปิดตัว Elantra N ที่เร็วกว่าและควบคุมได้ดีกว่า ควบคู่ไปกับรุ่นที่สนุกสุดๆ อย่างครอสโอเวอร์ขับเคลื่อนล้อหน้า Kona N สำหรับตลาดรถยนต์ประสิทธิภาพสูงในทวีปยุโรป Hyundai N วางขาย i20 N และ i30 N hot-hates ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

ประวัติของแบรนด์ N เป็นไปในเชิงสร้างสรรงานวิศวกรรมยานยนต์ที่มีศักยภาพเหนือกว่า แต่การสร้าง Ioniq 5 ด้วยเวอร์ชันที่คู่ควรกับตราสัญลักษณ์ N เป็นสิ่งที่ Hyundai ไม่เคยทำมาก่อน ioniq 5 N เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงคันแรกของแบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุด มีแพลตฟอร์มและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่แตกต่างออกไปจาก Ioniq 5 รุ่นมาตรฐานอย่างสิ้นเชิง การเปลี่ยน Ioniq 5 ให้กลายเป็นรถที่นักขับชื่นชอบ เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่สำหรับรถ EV สัญชาติเกาหลีใต้ “เราสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความพิเศษ มันวิ่งได้เร็วและเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกับรถแข่ง พร้อมซาวนด์แทร็กที่เหมือนกับรถสปอร์ตเครื่องยนต์สันดาปภายใน” หัวหน้าแผนกแบรนด์ N และมอเตอร์สปอร์ต Till Wartenburg กล่าว

“ioniq 5 N มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง มีการจำลองลอกเลียนแบบการทำงานของเกียร์ DCT ปรับแต่งการทำงานของมอเตอร์คู่ด้วยซอฟต์แวร์ที่ก้าวล้ำ การจำลองรูปแบบรอบต่อนาทีของรถสันดาปภายใน ผสมผสานกับไดนามิกที่เป็นเอกเทศ” Albert Biermann บุคคลสำคัญที่เคยทำงานกับ BMW นานถึง 31 ปี ก่อนจะเดินทางมารับตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาด้านเทคนิค และอดีตหัวหน้าฝ่าย R&D ของ Hyundai กล่าว “สำหรับคนที่ชอบการขับรถ เมื่อทั้งสามสิ่งนี้เมื่อรวมกันแล้ว จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นไปกับการขับรถ EV ซึ่งปกติไม่มีเกียร์ นั่นทำให้ความสนุกและการมีส่วนร่วมระหว่างรถกับคนขับหายไปอย่างสิ้นเชิง Ioniq 5 N ไม่ใช่ EV แบบปกติทั่วไป

ระบบขับเคลื่อนทั้งหมดได้รับการปรับแต่งโปรแกรมการทำงาน เพื่อร่วมผสมโรงกับ N e-shift ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังขับรถที่มีเครื่องยนต์พร้อมกับเกียร์คลัตช์คู่ที่อยู่ภายใน วิศวกรของ Hyundai ปรับแต่งกราฟแรงบิดแบบเฉพาะทาง สำหรับสร้างความรู้สึกที่เลียนแบบการเปลี่ยนเกียร์ในรถแข่ง ส่งถ่ายสัมผัสให้เหมือนกำลังอัดเข้าไปใกล้กับเรดไลน์หรือจุดสิ้นสุดของช่วงความเร็วรอบ พร้อมด้วยแรงบิดที่ปรับเปลี่ยนไปตามความเร็ว ซึ่งแรงบิดดังกล่าวจะมาพร้อมกับแรงกระชากคล้ายการเปลี่ยนเกียร์ในรถแข่ง Ioniq 5 N พร้อมเสียงคำรามของโปรแกรมจำลองเสียงเครื่องยนต์ Ioniq 5 N ให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังขับรถที่มีเครื่องยนต์ ไม่ใช่กำลังขับรถ EV ที่เอาแต่เร็วโดยปราศจากเสียงที่ทำให้รู้สึกเร้าใจ"

Ioniq 5 N ใหม่ ใช้แพลตฟอร์มพื้นฐาน Electric-Global Module Platform ของแบรนด์ Hyundai และใช้ประโยชน์ด้านความเชี่ยวชาญที่ Hyundai ได้รับจากการสร้างสรรค์ห้องปฏิบัติการ ซึ่งชอบคิดค้นของแปลกๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น รถต้นแบบ RM20e พลัง 810 แรงม้า, รถต้นแบบ RN22e 570 แรงม้า และรถยนต์ต้นแบบพลังไฮโดรเจน N Vision 74 กำลัง 670 แรงม้า สำหรับ Ioniq 5 N มันมีชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 84 กิโลวัตต์ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้าที่เพลาหน้าและหลัง มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการถ่ายเทแรงบิด มอเตอร์หน้าให้กำลัง 166 กิโลวัตต์ (222 แรงม้า) มอเตอร์หลังกำลัง 282 กิโลวัตต์ (378 แรงม้า) ทั้งสองตัวเมื่อรวมกันจะมีกำลังสูงถึง 448 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 601 แรงม้า โหมด N Boost พลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 478 กิโลวัตต์ หรือ 650 แรงม้า ทำให้ Ioniq 5 N มีกำลังมากกว่า Kia EV6 GT

ตัวเลขกำลังแรงบิดที่สูงเท่าซูปเปอร์คาร์บางรุ่น ทำให้ Ioniq 5 N เร่งความเร็วจาก 0 ไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียงแค่ 3.4 วินาที รถไฟฟ้ารุ่นนี้ยังทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์จากแผนก N ของ Hyundai ไม่ชอบการคุยโวโอ้อวดด้วยตัวเลขที่แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของรถ จักรกล N ทุกคัน ไม่ว่าจะใช้เครื่องยนต์หรือมอเตอร์ต้องสร้างแรงดึงดูดด้วยสัมผัสของรถสปอร์ตที่มีฟีลลิ่งคล้ายกับการขับรถแข่ง และความสามารถโดยรวมของ Ioniq 5 N ก็ไม่ได้อยู่แค่ตัวเลขอัตราเร่งและความเร็วสูงสุด แต่เป็นวิธีการที่แยบยลในการดึงดูดเศรษฐีที่ไม่ชอบรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการใส่จิตวิญญาณของรถยนต์สันดาปภายในลงไป และนี่คือจุดที่ทำให้เกิดความสมดุล ตามมาด้วยความมหัศจรรย์ที่มีอยู่แค่หนึ่งเดียวบนโลกใบนี้ ความเร่าร้อนของ Ioniq 5 N ทำให้รถอย่าง Porsche Taycan Turbo / BMW i5 M60 / AMG EQE53 4 Matic + กลายเป็นจักรกลไฟฟ้าที่ธรรมดาขึ้นมาในบัดดล ไม่น่าเชื่อว่าพวกเยอรมันจะทิ้งเสียงเครื่องยนต์แล้วใส่ซาวนด์ที่คล้ายกับการดูทอมครูซไล่ถล่มยานของมนุษย์ต่างดาว!

Ioniq 5 N มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 84kWh แบตเตอรี่สามารถชาร์จไฟกระแสตรง DC จาก 10 ไปจนถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลา 18 นาที มีอัตราการชาร์จสูงสุด 238kW มีอินเวอร์เตอร์สองสเตจ ช่วยในการดันมอเตอร์คู่ให้มีกำลังสูงสุด 478kW หรือ 650 แรงม้า แรงบิด 740 นิวตันเมตร กำลังสูงสุดนั้นทำได้ในโหมดพิเศษ N Grin Boost สามารถเปิดใช้งานบนหน้าจอสัมผัสหรือโดยอัตโนมัติเมื่ออยู่ในโหมด N นาน 10 วินาที สำหรับการจัดการกับระบบระบายความร้อนในชุดแบตเตอรี่ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญในลำดับต้นๆ ของยานยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ ระบบระบายความร้อนและรักษาอุณหภูมิของแบตเตอรี่ ได้รับการอัปเกรดให้มีหม้อน้ำแยกโดยตรงเพื่อระบายความร้อนแบตเตอรี่และมอเตอร์ มีการออกแบบช่องเหนี่ยวนำความร้อน เพื่อถ่ายเทอุณหภูมิความร้อนออกจากเซลล์แบตฯ รวมถึงการระบายความร้อนของมอเตอร์ขับเคลื่อน ระบบหล่อเย็นชุดแบตเตอรี่ออกแบบให้มีค่าความต้านทานต่อการเสื่อมสภาพของพลังงานที่เกิดจากความร้อนได้สูงกว่าระบบระบายความร้อนของยานยนต์ EV ทั่วไป เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงของคู่แข่ง

“มีรถยนต์ไฟฟ้ากำลังสูงจำนวนมากที่สามารถวิ่งทำลายสถิติในสนามเนือร์บูร์กริง แต่ไม่มีคันไหนที่ให้อารมณ์ใกล้เคียงรถสันดาปภายในเหมือนกับ Ioniq 5 N” Albert Biermann กล่าวเสริม ระหว่างการขับทดสอบ Ioniq 5 N รอบสื่อมวลชนนานาชาติที่ผมเดินทางไปร่วมในสนามแข่ง โคเรียน อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์ ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ขนาด 800 โวลต์ เป็นสถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมด ถูกคิดค้นเพื่อทำให้ลูกค้าสามารถอัด Ioniq 5 N ได้ทั้งวัน โดยปราศจากความร้อนสะสมที่ชุดแบตเตอรี่หรือมอเตอร์ขับเคลื่อน ด้วยหม้อน้ำแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพ การระบายอากาศส่วนหน้าที่มากขึ้น หม้อน้ำที่ออกแบบมาเพื่อทำความเย็นให้กับแบตเตอรี่โดยเฉพาะ ควบรวมกับปั๊มไฟฟ้าแรงดันสูง เพื่อให้สารหล่อเย็นไหลผ่านไปยังเซลล์แบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น Hyundai ไม่ได้หยุดอยู่แค่ระดับฮาร์ดแวร์ ความสามารถในการคงอุณหภูมิที่แบตเตอรี่จะส่งถ่ายประสิทธิภาพสูงสุดในการจ่ายกระแสไฟออกมาถูกฝังอยู่ในซอฟต์แวร์ของระบบระบายความร้อนทั้งหมด"

การเล่นกับโหมดต่างๆ ในสนามแข่ง มีเสียง "เครื่องยนต์" ที่แตกต่างกันสามแบบให้เลือก เริ่มจาก Engine Sound / Evolution และ Supersonic เสียงเครื่องยนต์สังเคราะห์ในโหมด Engine Sound นั้นดีที่สุด มันสมจริงและสร้างความคึกคักได้ดีมาก ในขณะที่ Evolution เป็นเสียงหอนหวีดหวิวของมอเตอร์ไฟฟ้า ผมลองเปลี่ยน Ioniq 5 N เป็นโหมด N และเลือกเสียงการจุดระเบิด Engine Sound จากนั้นเมื่อกระแทกคันเร่ง คุณจะได้ยินเสียงระเบิดปังๆ จากท่อระบายท้ายของรถแข่ง เมื่อจอดนิ่งๆในโหมด Engine Sound วิศวกรของ Hyundai ปรับเสียงสังเคราะห์ให้เหมือนกาเดินเบาของรถแข่ง ด้วยรอบเครื่องที่ไม่นิ่ง! ทุกครั้งที่ยกคันเร่งจะได้ยินเสียงพรึบดังสนั่นออกมาจากลำโพงในห้องโดยสาร ที่ติดตั้งอยู่ทางด้านหลัง เสียงในโหมด Supersonic เหมือนเสียงเครื่องยนต์ไอพ่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับรถยนต์แม้แต่น้อย แต่มีเสียงโซนิกบูมดังเข้ามาในห้องโดยสารทุกครั้งที่เปลี่ยนเกียร์ นั่นก็แปลกประหลาดเกินไป คนของ Hyundai แจ้งว่าโหมดเสียง Supersonic Sound ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจากหนัง Top Gun Maverick เอากันขนาดนั้นเลยทีเดียว

กระปุกเกียร์แพดเดิลชิฟต์ 8 สปีดเป็นการปลอมแปลงฟีลลิ่งเกียร์อัตโนมัตของรถยนต์ไฟฟ้า มีการจำลองสัมผัสของการส่งกำลังในระบบเกียร์ซิงเกิลสปีดของ Ioniq 5 N ให้เหมือนกับอารมณ์การทำงานที่ว่องไวของเกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีด วิศวกรที่เขียนซอฟต์แวร์ควบคุมระบบเกียร์ ได้ทำให้ทุกอย่างเหมือนของจริงอย่างที่สุด เช่น การจัดการกับแรงบิดของล้อทั้งสี่ เพื่อให้คุณรู้สึกถึงการเร่งความเร็วในแต่ละเกียร์ เมื่อรอบเครื่องยนต์จำลองหมุนไปถึงเรดไลน์ที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดที่กระชากทุกจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ทำให้รถคันนี้มีจิตวิญญาณอย่างเต็มเปี่ยม เมื่อใช้เบรกหนักๆ ก่อนมุดเข้าหัวโค้ง เกียร์จะเชนลงต่ำให้เอง ซึ่งบางครั้งระบบจะลดเกียร์ให้ถึงสามตำแหน่ง พร้อมๆ กับรอบเครื่องจำลองที่ตวัดขึ้นทุกครั้งขณะที่ระบบลดเกียร์ลง ตามด้วยเสียงคำรามในรอบสูงของเครื่องยนต์ซึ่งจำลองมาจากเสียงรถแข่งเครื่องยนต์ 2.0 เทอร์โบ นั่นโคตรสุดและยังไม่มีรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ไหนที่ทำได้แบบนี้มาก่อน

ทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนกับโม้ Inoiq 5 N ยังเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีที่ปรับแต่งมาอย่างน่ากลัว แต่ที่น่าตกใจคือ ทุกระบบของมันทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ มันสมจริงมากจนผมเองก็ลืมไปว่ากำลังโต้ตอบกับซอฟต์แวร์ ไม่ใช่การระเบิดของเชื้อเพลิงที่ถูกจุดและแรงกระชากจากฟันเฟืองที่หมุนอยู่ในเกียร์คลัตช์คู่

Hyundai ioniq 5 N หนัก 2.1 ตัน แต่เปลี่ยนทิศทางได้อย่างคล่องแคล่ว มันเป็นรถไฟฟ้าที่มีฝีเท้าจัดจ้าน เร่งความเร็วพรวดพราด บนทางตรงยาวได้เร็วมาก ตัวเลข 0-100 ของ Ioniq 5 N แซงขึ้นหน้า BMW M2 ได้อย่างสบายๆ เมื่อออกตัวไปพร้อมๆ กัน การบังคับเลี้ยวนั้นชัดเจนว่าเบากว่า AMG GT-R รถสันดาปภายในพลัง 600 แรงม้าที่ผมเคยขับในสนามแข่งที่บุรีรัมย์ น้ำหนักของรถไม่ได้ส่งผลกระทบหรือสร้างปัญหาในการเลี้ยวเร็วๆ ที่โค้งมุมแคบแบบต่อเนื่อง จากโค้ง 10 ไปจนถึงโค้ง 18 สนามแข่งโคเรียนอินเตอร์เนชันแนลสปีดเวย์มีโค้งที่เจ้าเล่ห์ดักอยู่เต็มไปหมด แต่ระบบเฉลี่ยแรงบิดในชุดขับเคลื่อนสี่ล้อทำให้การยึดเกาะอยู่ในเกณฑ์ที่ยอดเยี่ยม ความรู้สึกในโค้งเหมือนกับ Audi RS 3 Quattro ที่โคตรเกาะและมีกำลังเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเท่า ระบบรักษาเสถียรภาพทำหน้าที่ควบคุมมวลน้ำหนักของรถได้ดีมาก เลี้ยวได้อย่างเฉียบคมและโคตรเร็ว ฟีลลิ่งตอนเลี้ยวให้ความรู้สึกเบากว่าที่ควรจะเป็น คันเร่งตอบสนองฉับพลันทันทีและรุนแรงมาก แต่ความสนุกที่แท้จริงเกิดมาจากการใช้เวลาทำความเข้าใจโหมดการขับขี่ทั้งหมด จากนั้นก็เปิดใช้งานไปทีละโหมด แล้วขับทดสอบในสนามแข่งเพื่อจับความรู้สึก และเรียนรู้เพื่อเข้าใจการทำงานทั้งหมดของรถ

Hyundai Ioniq 5 N มาพร้อมระบบเบรกที่ทรงพลังที่สุด ซึ่งประกอบด้วยจานดิสก์หน้าขนาด 400 มิลลิเมตร (15.7 นิ้ว) คาลิเปอร์สี่ลูกสูบสีส้มประทับตราสัญลักษณ์ N จานดิสก์หลังขนาด 360 มิลลิเมตร (14.1 นิ้ว) คาลิปเปอร์เบรกหลังแบบซิงเกิลพอต พ่นสีส้มอีกเช่นเดียวกัน พลังของระบบเบรกแบบรีเจเนอเรทีฟ มาพร้อมการปรับปรุงใหม่ทั้งระบบ สามารถให้แรงชะลอความเร็วได้ 0.6 G กล่าวกันว่ามีการเปลี่ยนผ่านและผสมผสานการทำงานระหว่างระบบเบรกสะสมพลังงาน regenerative braking กับสัมผัสของระบบเบรกไฮดรอลิกในรถแข่ง โหมด N Race สามารถเลือกระหว่างการตั้งค่าระหว่าง 'Endurance' และ 'Sprint' ฟังก์ชั่นแรกจะลดกำลังสูงสุดเหมาะสำหรับการขับทางไกลยาวๆ ส่วนฟังก์ชั่นที่สอง จะทำหน้าที่จัดลำดับความสำคัญของกำลังสูงสุด เพื่อความสมดุลและเสถียรภาพของรถขณะทำความเร็ว ระบบรองรับใน Hyundai Ioniq 5 N ช่วงล่างด้านหน้าแบบสปอร์ต แมคเฟอร์สันสตรัท สปริงแต่งและเหล็กกันโคลง ช่วงล่างหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ สปริง โช้คอัพและกันโคลง

ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ เร่งได้เร็วกว่า ทำเวลาต่อรอบได้เร็วกว่า ออกตัวได้แรงกว่า และประหยัดกว่า Hyundai แต่ไม่มีรุ่นไหนเลยที่เข้าโค้งชิเคนได้อย่างมีศิลปะ บุคลิกของรถรุ่นนี้ก็ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงรุ่นอื่นดูด้อยลงไปทันที Ioniq 5 N ได้ตำแหน่งนี้ เพราะความสามารถที่จับต้องได้ และความทุ่มเทอย่างเต็มที่ของทีมวิศวกร เพื่อความสุขของคนขับและความตื่นเต้นหวาดเสียวของผู้โดยสารอย่างแท้จริง. 

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/