Neue Klasse แพลตฟอร์มดั้งเดิมของแบรนด์ BMW ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อช่วยรักษาเอกลักษณ์ที่แสนสุภาพของ BMW ย้อนกลับไปในทศวรรษ 1960 Neue Klasse คือโครงสร้างที่ถูกคิดค้นเพื่อนำมาใช้ในรถซีดานขนาดเล็ก โครงสร้างดังกล่าว พัฒนาไปสู่ BMW 1500/ 1602/ 2000 /2000 CS และ 2002 อันโด่งดัง ซึ่งทำออกมาได้ดีมากจนกลายหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดตลอดกาลของอารยธรรมสมัยใหม่ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ ปัจจุบัน วิสัยทัศน์สำหรับอนาคตที่ก้าวกระโดดของ BMW ยุคใหม่ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงระบบขับเคลื่อนทั้งองคาพยพ ชื่อ Neue Klasse จึงฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งด้วยแพลตฟอร์มที่เอื้ออำนวยต่อระบบส่งกำลังที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 

...

ยานยนต์แนวคิดที่จัดแสดงบนบูธขนาดเล็กของ BMW ภายในงาน Japan Mobility Show 2023 ด้วยรถต้นแบบ Neue Klasse ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เป็นการนำเสนอเทคโนโลยีแห่งอนาคตในรูปแบบย้อนยุคร่วมสมัย มีการคาดกันว่า ยานยนต์แนวคิด Vision Neue Klasse คือตัวอย่างของรถยนต์ BMW Series-3 ในอนาคต ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2568 และรูปลักษณ์ของมันจะกลายเป็นแนวทางสำหรับรถไฟฟ้าในอนาคตภายใต้แบรนด์ BMW น่าสังเกตว่าปีนี้มีแบรนด์รถยนต์ยุโรปที่ไม่ได้เข้าร่วมจัดแสดงรถยนต์รุ่นใหม่ภายในงานเป็นจำนวนมาก จากแนวคิดเน้นการขายออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า แต่งาน Japan Mobility Show 2023 ก็ยังมีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกที่ให้ความสนใจในการเข้าชมรถต้นแบบและนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งเตรียมออกสู่ตลาดรถยนต์ทั่วโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

แบรนด์ยุโรปที่เคยมาจัดแสดงรถยนต์ในงาน Tokyo Motor Show (ซึ่งเปลี่ยนชื่องานไปเป็น Japan Mobility Show 2023) แต่ถอนตัวในปีนี้ก็คือ Porsche Audi Volkswagen Ferrari Lamborghini Opel/Vauxhall BMW Alpina Citroen Peugeot Lotus MINI Rolls Royce Bentley Volvo Jaguar Land Rover Aston Martin Skoda

...

ด้านหน้าที่หักมุมและเอียงไปข้างหน้ากับไฟหน้าและกระจังหน้าทรงไตคู่ที่ใหญ่โตเกินจริง หลังคากระจกใสแจ๋วกับบั้นท้ายที่แผ่กว้าง เป็นส่วนที่น่ามองที่สุดของรถต้นแบบคันนี้ ยานยนต์แนวคิด Neue Klasse กำลังทำหน้าที่เชื่อมโยงภาพลักษณ์ของบรรพบุรุษอย่าง BMW 1500/2002 ด้วยขนาดที่กะทัดรัด พร้อมความสามารถในการขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด การปรับโฉมรถยนต์ต้นแบบให้ผสานเข้ากับทรงของรถคลาสสิกในยุค 1960 ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากรถต้นแบบมีกระจังหน้าแบบดิจิทัลพร้อมไฟที่กะพริบถี่ยิบ ราวกับว่ากำลังหายใจ แต่ 2002 มีไฟหน้าทรงกลมสุดคลาสิกที่สวยงามและดูดีมากในยุคนั้น Neue Klasse มีเสาหลังที่เพรียวบาง กระจกหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้กระจกของรถต้นแบบไซส์เล็กคันนี้ดูใหญ่เกินความเป็นจริง รูปลักษณ์โดยรวมทั่วทั้งคันเรียบง่ายแทบไม่มีเส้นสายให้รกสายตา ผลลัพธ์ที่ได้คือรูปทรงที่เรียบหรูและไหลลื่น มีขอบที่ประตูซึ่งทำหน้าที่ดึงการเชื่อมต่อกับล้อหน้าและล้อหลังได้อย่างกลมกลืน

...

จอแสดงผล e-Ink รูปแบบเดียวกับแท็บเล็ต ส่วน eReader ทอดยาวไปทางด้านล่างของหน้าต่างด้านข้างทั้งสอง มันจะสว่างขึ้นเมื่อคุณเข้าใกล้รถและทำหน้าที่เป็นมือจับที่เปิดประตูที่ไวต่อการสัมผัส ไฟท้ายของรถมีองค์ประกอบการพิมพ์แบบ 3 มิติ จัดเรียงการออกแบบในลักษณะเรียงซ้อนที่ให้ความรู้สึกถึงมิติที่ลึก ไฟท้าย LED สีแดงสามารถปรับเปลี่ยนความเข้มของแสงได้ตามสถานะของการเบรก ล้อขนาด 21 นิ้วได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ล้อมีอากาศพลศาสตร์สูงสุด โดยไม่ทำให้ขัดแย้งกับเรือนร่างที่เรียบง่าย กระจกมองข้างแบบดั้งเดิม ถูกแทนที่ด้วยกล้องมองด้านข้าง ยึดติดกับตัวถังด้วยก้านอะลูมิเนียมบางเฉียบ กล้องที่ใช้แทนกระจกมองข้างแบบดั้งเดิมนั้นดูไฮเทค แต่รถคันผลิตจริงก็น่าจะใช้กระจกมองข้างแบบเดิม เนื่องจากต้นทุนการผลิตกล้องมองด้านข้างแทนกระจกนั้นจะทำให้รถมีราคาที่สูงเกินไป เป็นคุณสมบัติที่ดีซึ่ง e-Tron SUV เคยทำออกมาแบบออปชันเสริมและมีราคากว่า 3 แสนบาท แฟนคลับของ Series-3 หวังว่า BMW จะไม่ก้าวกระโดดไปสู่การผลิตจริง เพราะถ้าโดนมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชน กล้องราคาแพงจะเสียหายทันที 

...

การก้าวเข้าสู่แนวคิด Neue Klasse เผยให้เห็นการออกแบบแห่งอนาคตที่เน้นระบบดิจิทัลเป็นหลัก แผงสีดำขนาดใหญ่ที่พาดผ่านความกว้างของแผงหน้าปัดไปตามฐานของกระจกหน้ารถจะส่องสว่างด้วยอินเทอร์เฟซ iDrive เจเนอเรชันถัดไปของ BMW เรียกว่า Panoramic Vision แผงสีดำทำหน้าที่เป็นจอฉายภาพสำหรับระบบสาระบันเทิงและดูค่อนข้างเนียน จอแสดงผลมอนิเตอร์กลางทรงสี่เหลี่ยมคางหมูอยู่ใกล้มือขวาของคนขับ (ที่ตำแหน่งพวงมาลัยซ้าย) สามารถย้ายข้อมูลสำคัญขึ้นไปบนจอพาโนรามาเพื่อการปรับตั้งหรืออ่านข้อมูลสำคัญได้ง่ายขึ้นขณะเดินทาง ยานยนต์ต้นแนวคิด Neue Klasse ที่จะกลายไปเป็น New Series-3 ในอนาคตยังมีการแสดงผลบนกระจกหน้าแบบ HUD  Headup Display อีกด้วย ระบบปฏิบัติการ OS เวอร์ชันใหม่ มีความเฉพาะเจาะจงกับรถต้นแบบมากเป็นพิเศษ วิศวกรของ  BMW กล่าวว่า ลูกค้าส่วนใหญ่คาดหวังที่จะเห็นคุณสมบัติใหม่นี้ในเวอร์ชันการผลิตจริงอีกสองปีข้างหน้า

เบาะนั่งแบบบักเก็ตซีตสี่ที่นั่ง ใช้รูปแบบของตัวเบาะในช่วงกลางศตวรรษ 70 ทำให้ภายในห้องโดยสารมีกลิ่นอายแบบวินเทจ BMW เลือกใช้เบาะหุ้มผ้าลูกฟูกสีเหลือง พร้อมโทนสีภายในห้องโดยสารด้วยสีขาวสว่างตาที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น คอนโซลกลางแบ่งห้องโดยสารกั้นโซนคนขับกับผู้โดยสารตอนหน้าออกจากกัน พวงมาลัยสีขาวทรงสี่เหลี่ยมที่ไม่น่าจะทำออกมาแบบนั้นจริงๆ พวงมาลัยยังมีสวิตช์มัลติฟังก์ชั่นมาให้ใช้งานเพื่อความง่ายในการปรับตั้งค่าต่างๆ 

BMW Neue Klasse ที่จัดแสดงในงาน Japan Mobility Show 2023 นับเป็นการเปิดตัวแพลตฟอร์ม EV เจเนอเรชันถัดไปของ BMW อย่างเป็นทางการ ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งคาดกันไปต่างๆ นานา ว่าน่าจะเป็นระบบ 800 โวลต์ แบตเตอรี่ดีไซน์ใหม่ที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูงขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อรวมกับการปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์ มอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงขึ้น และการจัดการระบายความร้อนของแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น เพิ่มระยะทางได้สูงสุดถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับระบบขับเคลื่อน EV ในปัจจุบันของBMW ระยะทางน่าจะเบียดๆ 700 กิโลเมตร หรืออาจน้อยกว่านั้นนิดหน่อย 

จริงๆ แล้ว BMW จะผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในฮังการีเป็นหลัก แต่แบรนด์ตราใบพัดก็กำลังสำรวจปริมาณการผลิตแบบแยกส่วนกับโรงงานในสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้ประโยชน์จากแรงจูงใจด้าน EV นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งใหม่ในเซาท์แคโรไลนา BMW กล่าวว่า โรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งใหม่จะไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลใดๆ ในการขับเคลื่อนโรงงาน แต่จะมุ่งเน้นไปที่การใช้วัสดุรีไซเคิลในปริมาณที่มากขึ้นในกระบวนการประกอบชิ้นส่วนของยานยนต์รุ่นใหม่.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/