All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊ก ภาคสานต่อของรถอเนกประสงค์ยอดฮิตของเกรทวอลล์มอเตอร์ H6 PHEV สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มโมดูลาร์ GWM LEMON ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5L Turbo ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร (สำหรับตัวเลขแรงบิดที่ GWM แจ้งมา ดูเยอะเกินไปหน่อยนะครับ) พร้อมโหมดการขับขี่ 8 โหมด รวมถึงโหมดการขับขี่ไฟฟ้า 100% ซึ่ง GWM เคลมว่า Haval H6 PHEV วิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 201 กิโลเมตร ต่อหนึ่งการชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC
GWM จะเปิดราคา All New Haval H6 PHEV (Plug in Hybrid) ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2565 คาด ราคาไม่น่าจะทะลุเกิน 1.4 ล้านบาท หรืออาจแพงกว่านั้นเล็กน้อย
...
รุ่นและสีรถยนต์
• สีรถภายนอก : มีทั้งหมด 5 สี (ขาว ดำ เทา น้ำเงิน แดง)
• สีรถภายใน : ทูโทน สีดำ-เทา
...
การออกแบบภายนอก (Exterior Design)
HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV เทคโนโลยี Plug-in HYBRID ขับขี่ EV ไกล 200 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ (NEDC Standard) ไกลที่สุดในกลุ่มรถยนต์ Plug-in Hybrid ที่จำหน่ายในประเทศไทย ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Star Matrix กระจังหน้าขนาดใหญ่สีโครเมียม ไล่ระดับช่องระบายอากาศด้วยการเน้นมิติของชิ้นงานหน้ากระจังให้เป็นเอกลักษณ์ของ H6 PHEV ระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี ไฟท้ายทรงยาวเชื่อมต่อด้วยชิ้นงานพลาสติกสีเดียวกับไฟท้าย พร้อมกระจกบานฝาท้ายที่โค้งมนอย่างลงตัว พลาสติกสีแดงสะท้อนแสงมัลติรีเฟกเตอร์อยู่บริเวณมุมของกันชนหลังทั้งสองฝั่ง เสาอากาศครีบฉลาม ชิ้นงานโครเมียมตกแต่งขอบกระจกบานประตู
...
...
มิติตัวถังกว้าง 1,886 มิลลิเมตร ยาว 4,683 มิลลิเมตร สูง 1,730 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,738 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp ให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow me home) ไฟท้าย LED Taillight Strip ดีไซน์เป็นแนวยาว ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค 1.2 ตารางเมตร สปอยเลอร์ท้าย เสาอากาศแบบ shark fin ล้ออัลลอยลายสปอร์ต ขอบ 19 นิ้ว ยางขนาด 235/55 R19
การออกแบบภายใน (Interior Design)
ภายในสไตล์ Minimalist คอนโซลหน้าสีทูโทน ตกแต่งด้วยวัสดุสี Rose Gold, Silver, Piano Black, Chrome สไตล์ Futuristic การเชื่อมต่อของหน้าจอทั้ง 3 ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและแม่นยำ หน้าจอกลาง HD Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว เชื่อมต่อระบบความบันเทิง Apple CarPlay, Android Auto, MP3, JOOX และ Navigator บอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และห้างสรรพสินค้า HD Multi Information Display ความละเอียดสูง ขนาด 10.25 นิ้ว Head Up Display หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบระบายอากาศ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยระบบไฟฟ้า เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ
เบาะนั่งโดยสารด้านหลัง พร้อมที่เท้าแขนกลาง ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ช่องเสียบ USB พื้นที่ห้องโดยสาร และที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ เบาะนั่งโดยสารด้านหลังสามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 เพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บสัมภาระ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 แท่นชาร์จโทรศัพท์ Wireless Charger Smart Phone ไฟตกแต่งห้องโดยสาร Ambient Light สร้างบรรยากาศภายใน Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้า พร้อมสีพิเศษแบบ High gloss กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เปิดประตูพร้อมสตาร์ตเครื่อง
สมรรถนะ
New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Turbo ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร ระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด สามารถเลือกระบบการขับขี่ได้ 2 ระบบ คือ ระบบไฮบริด และระบบไฟฟ้า แต่ละระบบ มาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ชนิดลิเทียม Ternary ความจุ 34 kWh มีระยะทางวิ่งสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ (อ้างอิงผลการทดสอบระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามมาตรฐาน New European Driving Cycle (NEDC Standard) หัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 combo (Combined Charging System) รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) และการชาร์จแบบไฟบ้าน (AC)
ระยะเวลาในการชาร์จ
การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0% - 80%) ประมาณ 35 นาที
การชาร์จแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC (0% - 100%) ประมาณ 6 ชั่วโมง
*ระยะเวลาการชาร์จขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และกำลังไฟของสถานีชาร์จนั้นๆ เป็นต้น
GWM LEMON PLATFORM
แพลตฟอร์มโมดูล่าร์สามารถปรับเปลี่ยนและรองรับเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ เป็นแพลตฟอร์มมีน้ำหนักเบา ช่วยให้การขับขี่ดีขึ้น ทั้งในแง่ประสิทธิภาพการเร่ง การเบรก และการควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ มีการปรับปรุงให้โครงสร้างของรถ มีความต้านทานแรงบิดและความแข็งแรง โดยใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูง High-strength steel ในการทำตัวโครงสร้างมากกว่า 70% และเหล็กความแข็งแรงสูงที่ 2000 MPa
ฟังก์ชัน (Intelligent Functions)
การอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์ (FOTA) ระบบดังกล่าวมาพร้อมกับความสามารถในการอัปเกรดเฟิร์มแวร์สำหรับการควบคุมระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง ระบบการขับขี่ต่างๆ รวมถึงระบบ Infotainment และระบบควบคุมอื่นๆ ภายในรถยนต์ การสั่งงานด้วยเสียง (Voice Command) มีความสามารถในการจดจำเสียง ช่วยลดการใช้งานจากการกดปุ่ม ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ สั่งการและโต้ตอบด้วยเสียง เพื่อใช้งานฟังก์ชันต่างๆ รวมไปถึงการเข้าถึงระบบเอนเตอร์เทนเมนต์ภายในรถ
GWM Application
ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับควบคุมและเชื่อมต่อฟังก์ชันของรถยนต์ได้ แม้อยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ เช่น ระบบตรวจสอบสถานะปริมาณกำลังไฟแบตเตอรี่ไฟฟ้า ระบบตรวจสอบสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้า ระบบจัดการการชาร์จ การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อกและปลดล็อกประตู การค้นหารถยนต์ การปิดหน้าต่าง ปิดซันรูฟ การควบคุมระบบการระบายความร้อนของเบาะ การแสดงตำแหน่งรถยนต์ การกำหนดรัศมีการใช้งานรถ และระบบตรวจสอบสถานะอื่นๆ
ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย
New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV มาพร้อมเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยแบบใหม่
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้ง (Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ตกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็ว ที่ช่วยควบคุมรถให้ติดตามรถด้านหน้าหรือขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่เพื่อลดภาระของผู้ขับขี่
• ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) ใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเส้นบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถ และช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง
• ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบจะบันทึกเส้นทางและสามารถถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ ในเส้นทางที่ถูกบันทึกไว้
• กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของรถจากมุมบน ระบบทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง โดยสามารถดูได้เมื่อขับรถที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและตอนสตาร์ตรถ
• ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ช่วยตรวจจับรถยนต์ทั้งทางตรงและทางแยก เมื่อเสี่ยงต่อการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก
• ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอด เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียง หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
• ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว ในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และกลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยแจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน
• ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ช่วยตรวจสอบรถในเลนที่ติดกัน
• ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) โดยรถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
• ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) ใช้เบรกเพื่อช่วยควบคุมความเร็วของรถขณะขับบนทางลาดชันเพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการบังคับพวงมาลัย
• ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) เมื่อออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะยังคงค้างอยู่ราว 2 วินาที จนกระทั่งคันเร่งทำงานเพื่อป้องกันการถอยหลัง
• ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) หลังจากจอดรถยนต์แล้ว ระบบจะแจ้งเตือนหากระบบตรวจพบเป้าหมายที่เสี่ยงต่อการชนหากเปิดประตูรถยนต์
• ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) โดยรถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดลดลง
• ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) ช่วยประเมินและวิเคราะห์ลักษณะในการขับขี่ หากพบว่ามีลักษณะการขับขี่ที่เหนื่อยล้า หรือหลังจากขับรถด้วยความเร็วเกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มากกว่า 4 ชั่วโมง ระบบจะแจ้งเตือนและแนะนำให้หยุดพัก
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/