ปัญหาจากสภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นบ้าง และฟื้นตัวอย่างช้าๆ ทำให้บริษัทรถยนต์ชั้นนำแทบจะทุกค่ายยังคงต้องแข่งขันพัฒนาคุณภาพของสินค้า (รถยนต์) ให้ดียิ่งขึ้นไปอีกเพื่อกระตุ้นยอดขายในปี 2010 ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ รถยนต์ต้นแบบรุ่นล่าสุดถูกผลิตขึ้นเพื่อตั้งแสดงในงานแสดงรถยนต์ทั่วโลก รถ Concept Car เหล่านี้บางคันสามารถขับขี่ได้จริงและมีเทคโนโลยีล่าสุดในการประหยัดพลังงาน โดยบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ที่ทำการสร้างและพัฒนารถต้นแบบเพื่อสื่อให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่สำคัญของรถยนต์รุ่นต่อๆ ไปที่จะออกสู่ตลาดโลกในอนาคตอันใกล้นี้
ในปี 2010 เราจะยังคงเห็นรถยนต์รูปแบบใหม่ๆ และนวัตกรรมการขับเคลื่อนที่ก้าวหน้า โดยใช้หลักการประหยัดพลังงานกันแทบทุกค่าย รถ Concept Car ในยุคต่อไปจึงมักมีรูปแบบที่ลำ้อนาคต มีเครื่องยนต์ลูกผสมที่ใช้ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงและมอเตอร์ไฟฟ้า หรือใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนๆ ในการขับเคลื่อน เพื่อให้เข้ากับยุคปัจจุบันที่ราคา ของพลังงานกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์...
Rinspeed I-Change
นวัตกรรม และแนวคิดของรถยนต์ในอนาคตถูกถ่ายทอดลงสู่รถของบริษัท Rinspeed ในรูปแบบรถสปอร์ตแบบไม่มีประตู แต่ใช้การออกแบบกระจกค็อกพิตของห้องนักบินในเครื่องบินรบ มาครอบลงไปที่ห้องโดยสารของรถ Rinspeed I-Change มันคือรถไฟฟ้้าขับเคลื่อนล้อหลังด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ Lithium-Ion ไปปั่นมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์-204 แรงม้า ใช้เวลาในการประจุไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอร์รี่เพียง 3 ชั่วโมง สามารถขับได้ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร ก่อนที่แบตจะหมดโดยมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 4.2 วินาทีและมีความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Audi E-Tron
มันมีรูปทรงคล้ายกับ R8 แต่มีระบบขับเคลื่อนแตกต่างกันออกไปโดย Audi E-Tron ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 78 แรงม้าถึงสี่ตัว (มอเตอร์ 1 ตัวต่อล้อหนึ่งข้าง) สร้างแรงม้าได้ 313 ตัว แบตเตอรี่แบบ Lithium-Ion 53 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง การอัดประจุไฟเข้าสู่แบตเตอรี่แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง ซึ่งสามารถเดินทางไกลได้ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตรก่อนที่แบตจะหมดพลังงาน อัตราเร่ง 0-100 ใน 4.8 วินาทีและทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้เพียงแค่นั้น เนื่องจากการใช้ความเร็วสูงในรถยนต์ พลังงานไฟฟ้าจะสิ้นเปลืองพลังงานจากแบตเตอร์รี่มากนั่นเอง
Mercedes Benz Blue Zero E-Cell Plus
ค่ายตราดาวสร้างรถแนวคิดประหยัดพลังงาน โดยใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนล้อหน้าแบบไฮบริดด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เทอร์โบ 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า มีระยะทางในการขับขี่ทางไกลถึง 500 กิโลเมตรก่อนที่น้ำมันในถังจะหมดลง
Peugeot BB1 Concept
รถยนต์คันเล็กจิ๋วแบบสี่ที่นั่งและมีน้ำหนักเพียง 550 กิโลกรัม ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 7.5 กิโลวัตต์สองตัวต่อล้อหลังแต่ละข้าง สร้างแรงม้าได้10 ตัว ขับขี่ทางไกลด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ระยะทางถึง 120 กิโลเมตร แบตเตอรี่แบบ Lithium Polimer สองชุด 
Dodge Circuit EV
Concept Car แบบสปอร์ตของค่าย Dodge ออกแบบภายใต้กฏเหล็กเพื่อการประหยัดพลังงานด้วยการใช้มอเตอร์สองตัวขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของ Dodge ขนาด 200 กิโลวัตต์ 268 แรงม้า ใช้แบตเตอรี่ Lithium Ion การชาร์จไฟแต่ละครั้งสามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 320 กิโลเมตร แต่ผู้ขับต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราเร่งแซง 0-100 กิโลเมตรใน 5.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 km/h
Hyundai IX Metro
รถไฮบริดเครื่องยนต์ลูกผสมต้นแบบแห่งอนาคตจากเกาหลีใต้ ที่พร้อมจะผลิตออกขายในยุโรปด้วยรูปทรงขนาดมินิแต่บรรทุกผู้โดยสารได้ถึง 3 คนโดยมีกลุ่มลูกค้าอายุน้อยเป็นเป้าหมายหลักในการทำตลาด เครื่องยนต์ไดเรกอินเจคชั่นเทอร์โบ ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮตวาว์ล 3 สูบพ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5 กิโลวัตต์ สร้างพลังได้ 125 แรงม้าโดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 3.3 ลิตรใน 100 กิโลเมตร หรือ 30.3 กิโลเมตร/ลิตร อัตราการปลอปล่อยแก็ซคาร์บอน์มอนน็อกไซค์เพียง 80 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร
Mazda MX5 Superlight Version
รถยนต์ แนวคิดจากค่าย Zoom Zoom โดยพัฒนามาจากรถ Mazda MX5 Roadster และตัดอุปกรณ์อำนวยควมาสะดวกบางอย่างทิ้งไปเพื่อลดทอนน้ำหนักทำให้กลายเป็น รถที่ไม่มีกระจกหน้า ย้ายตำแหน่งมือจับประตู และไม่มีกระจกมองข้าง สามารถลดน้ำหนักได้กว่า 105 กิโลกรัม 
Cadillac Converj Concept
ยนตรกรรมแห่งอนาคตของอเมริกันชนซึ่งออกแบบมาในรูปลักษณ์ของรถสปอร์ตสองประตู ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าโดยติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 120 กิโลวัตต์ 163 แรงม้า แบตเตอรี่ Lithium Polimer แบบ 16 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงสามารถอัดประจุกระแสไฟด้วยไฟบ้าน 240 โวลท์ ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง ขับขี่ได้ในระยะทางประมาณ 65 กิโลเมตร เมื่อไฟหมดจะมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กขับชุดเจเนอร์เรเตอร์เพื่อประจุไฟเข้าแบตเตอรี่แบบต่อเนื่องสามารถวิ่งต่อไปได้อีกเล็กน้อย
การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพื่ิิอทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง ก็ไม่ใช่การอนุรักษ์ พลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุด เนื่องจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าจะมีการปลดปล่อยพลังงานความร้อนออกมา การทิ้งและทำลายแบตเตอรี่เก่าที่หมดอายุการใช้งานอาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่กับสิ่งแวดล้อมขึ้นได้ แต่ผลดีก็คือรถยนต์ต้นแบบบางคันแทบไม่ปล่อยมลภาวะและยังมีความเงียบในขณะที่ใช้งานอีกด้วย
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเหล่านี้ถ้าบริษัทผู้ผลิตสามารถทำให้มันวิ่งได้ระยะทางมากขึ้นกว่าทีี่เป็นอยู่ มีสถานีประจุไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่อยู่ทั่วไปและสะดวกสบายในการขับเข้าไป เพื่อประจุไฟ โดยใช้เวลาในการอัดประจุไฟ้าฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ไม่นานนัก มันก็จะสามารถเข้ามาแทนที่และกลายเป็นรถยนต์แห่งอนาคตอย่างแท้จริงในยุคต่อไป.
arcom roumsuwan
chang.arcom@thairath.co.th
Photo By
www.carmagazine.co.uk
www.green.autoblog.com
www.automotorblog.com
www.ecarsavenue.com
www.thegreenhowseeffect.com
www.theage.com.au
www.tuningnews.net
...