ช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ ตลาดรถยนต์เพิ่มความคึกคัก เมื่อสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น (JAMA) ได้จัดงานแสดงรถยนต์สุดยิ่งใหญ่ นั่นคือ “เจแปน โมบิลิตี โชว์ 2023” (Japan Mobility Show 2023) หรือชื่อเดิมว่า “โตเกียว มอเตอร์ โชว์”

ปีนี้มีกำหนดกระหึ่มตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.-5 พ.ย.นี้ ณ Tokyo Big Sight กรุงโตเกียว

ค่ายมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น แห่งประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในค่ายรถบิ๊กเบิ้มของญี่ปุ่น ก็ได้ทุ่มเต็มเหนี่ยวในการยกทัพนวัตกรรมล้ำสมัยและรถยนต์รุ่นใหม่มาแจมงานนี้

โดยบูธมาสด้าจะจัดขึ้นภายใต้ธีม “The Future created by the ‘love of Cars’” หรือ “อนาคตที่สร้างขึ้นจากความรักในรถยนต์” ตั้งใจออกแบบเพื่อถ่ายทอดความมุ่งมั่นของมาสด้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ที่รักในการขับขี่และรักในรถยนต์

รถยนต์มาสด้าที่จะนำมาจัดแสดงภายในงาน ล้วนเป็นรถยนต์ที่ได้รับการถ่ายทอดปรัชญาของมาสด้า ในการยกระดับประสบการณ์ความสุขในทุกการขับขี่ และการใช้ชีวิตประจำวันในทุกๆด้านให้กับลูกค้าทุกคน

พร้อมเน้นการจัดแสดงรถสปอร์ตโรดสเตอร์ Mazda MX–5 ซึ่งเป็นแบรนด์ไอคอน และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยได้นำ Mazda MX–5 มาจัดแสดงหลากหลายรุ่น

ได้แก่ Mazda MX-5 เจเนอเรชันแรก ซึ่งเป็นรถที่เปรียบเสมือนต้นแบบสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืนของมาสด้า ที่ถ่ายทอดปรัชญาความสนุกสนานในการขับขี่ Mazda MX-5 ขนาดสองในสามของรถคันจริง เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่แบบจำลองให้กับเด็กๆ Mazda MX-5 เจเนอเรชันที่ 4 รุ่นล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาอัปเกรดครั้งใหญ่ และ Mazda MX-5 SeDv ที่สามารถควบคุมการขับขี่ได้ด้วยมือของผู้ขับเพียงอย่างเดียว

...

นอกจากนี้ มาสด้ายังได้นำรถต้นแบบที่ได้รับการออกแบบให้เป็นดั่งสัญลักษณ์ของธีมบูธมาสด้ามาเปิดตัวครั้งแรกในงานนี้ ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของโลกหรือ World Premier

มาสด้ายังได้เข้าร่วมโปรแกรมที่จัดขึ้นโดย JAMA ด้วยการจัดแสดงรถยนต์ Mazda2 Bio Concept ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไบโอดีเซล เจเนอเรชันใหม่

ทั้งยังเข้าร่วมกับ “Out of KidZania” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ KidZania หรือศูนย์การเรียนรู้และความบันเทิงยอดนิยม ที่มุ่งเน้นให้เด็กๆได้มีโอกาสทดลองสวมบทบาทการทำงานในแต่ละอาชีพ

โดยมาสด้าจะเปิดโอกาสให้เด็กๆที่เข้าเยี่ยมชมภายในงาน ได้ทดลองสวมบทบาทอาชีพในงานของมาสด้า

ได้แก่ “Sand-casting” ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา และ “Stamping operator” ที่ออกแบบให้เหมาะสำหรับเด็กๆในชั้นก่อนวัยเรียน ซึ่งทั้ง 2 กิจกรรมจะจัดขึ้นในโรงงานมาสด้าแบบจำลอง ซึ่งจะมอบประสบการณ์ความสุขให้กับเด็กๆ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตรถยนต์

ทั้งหมดนี้เป็นการย้ำว่ามาสด้าจะยังคงเดินหน้าในการส่งมอบ “ความสุขในการขับขี่” ต่อไป ภายใต้คุณค่าหลักที่ให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้น “มนุษย์เป็นศูนย์กลาง” และมุ่งมั่นที่จะส่งมอบ “ความสุขในการดำเนินชีวิต”

ด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความสุขให้กับชีวิตประจำวันของลูกค้าทุกคน!!!

อัลคาโปน
motorwars@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “มอเตอร์วอร์ส” เพิ่มเติม