มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ผู้นำด้านบริการหลังการขาย BMW ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

วันนี้ มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ได้ประกาศศักยภาพผู้นำความเป็นหนึ่งด้านบริการหลังการขายของ บีเอ็มดับเบิลยู

บนท้องถนนในปัจจุบัน แม้จะผ่านช่วงวิกฤติ โควิด-19 มายาวนาน ทำให้เศรษฐกิจ ธุรกิจต่างๆ ทยอยปิดตัวลงไปมากมาย

แต่วันนี้ มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ฝ่าฟันทุกอุปสรรค ใช้เวลาในช่วงวิกฤติให้เป็นโอกาส พัฒนาบุคลากรในทุกภาคส่วน

โดดเด่นด้วยกลยุทธ์ด้านบริการหลังการขาย

มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป กำหนดกลยุทธ์ด้านบริการหลังการขายอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นในส่วน ที่ปรึกษาด้านบริการ ทีมงานอะไหล่ เพื่อกระจายอะไหล่ให้ทันท่วงที เพื่อส่งมอบรถให้กับลูกค้าตามเวลาที่นัดหมาย

และที่สำคัญคือ ทีมช่างที่จะต้องสั่งสมประสบการณ์ ความรู้ และทักษะ สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหาเล็กๆ จนไปถึงปัญหาใหญ่ ที่ต้องใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดและรวดเร็ว

พร้อมกันนี้ก็มีผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์และอุปกรณ์ตกแต่ง M Performance รองรับ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เพื่อความแตกต่าง และเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เพิ่มศักยภาพบุคลากร

ปัจจุบันเรามีรถ บีเอ็มดับเบิลยู กลุ่มรถสปอร์ตพลังแรง บีเอ็มดับเบิลยู M Power, รถยนต์พลังงานไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู i และยนตรกรรมระดับหรูของ บีเอ็มดับเบิลยู เข้ามารับบริการ เราจึงต้องเพิ่มศักยภาพให้กับบุคลากร โดยทีมช่างได้ผ่านการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า และได้รับมาตรฐาน Certified High-Voltage Components & Battery Gen 5.0

นอกจากนี้ มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ยังมีโปรแกรมสนับสนุนต่างๆ เช่น การประเมินผลทักษะ และนำผลทดสอบมาวางแผนหลักสูตร สำหรับพนักงาน โดยผ่าน Master Automotive Training ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกอบรมภายในองค์กรที่สนับสนุนการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพของบุคลากร

ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังได้รับมาตรฐานระดับสูงสุด

ในส่วนของการซ่อมสีและตัวถัง หัวใจของการบริการอีกส่วนหนึ่งก็คือการใส่ใจในคุณภาพการบริการของ มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป โดยทุกสาขาได้รับมาตรฐานระดับสูงสุด (Class III) BMW Certified Workshop จาก บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเครื่องมืออันทันสมัยเพื่อตอบรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีการพัฒนาตลอดเวลา

จุดเด่นการบริการซ่อมสีและตัวถังของ มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป คือเรามี ศูนย์บริการซ่อมสี และตัวถัง สำหรับงานซ่อมหนักโดยเฉพาะ แยกออกจากงานซ่อมทั่วไป ทำให้สามารถจัดลำดับการซ่อมได้อย่างเหมาะสม และมีผลให้ระยะเวลาการซ่อมรวดเร็วมากขึ้น เมื่อเทียบกับการซ่อมในศูนย์บริการทั่วไป

อีกทั้งมีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อวัดมิติของตัวถัง ทั้งก่อนและหลังการดึงตัวถัง เพื่อให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานโรงงานผลิต นำไปสู่การสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

มี 8 ศูนย์บริการรองรับลูกค้าทั่วประเทศ