Mercedes Benz Thailand ร่วมกับพนักงานและผู้จำหน่าย Mercedes Benz มอบเงินบริจาคจำนวน 2,292,800 บาท เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ให้แก่สภากาชาดไทย พร้อมส่งมอบรถบรรทุก Mercedes-Benz Unimog U 4000 จำนวน 2 คัน ให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญ ในการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในระยะยาว...

เนื่องจากสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผู้ประสบภัยจำนวนมากที่รอความช่วยเหลือ ยานพาหนะเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งที่จะช่วยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปได้ อย่างทันท่วงที Mercedes Benz จึงได้นำเข้ารถบรรทุก Mercedes-Benz Unimog U 4000 รถบรรทุกอเนกประสงค์สมรรถนะเยี่ยม ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและเทคโนโลยี เหมาะแก่การใช้งานในทุกสถานการณ์ เข้าถึงพื้นที่ทุรกันดารได้ทุกรูปแบบ เพื่อมอบให้แก่สภากาชาดไทยไว้เพิ่มสมรรถภาพงานบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในระยะยาว

...


ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (Mercedes Benz Thailand Co .ltd) กล่าวว่า “ในปี 2554 ที่ผ่านมา เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา Mercedes Benz Thailand จึงได้ร่วมทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล โดยร่วมกับพนักงานและผู้จำหน่าย Mercedes Benz อย่างเป็นทางการ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,292,800 บาท เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ให้แก่สภากาชาดไทย พร้อมได้มอบรถบรรทุก Mercedes-Benz Unimog U 4000 จำนวน 2 คัน ให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญ ในการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ในระยะยาว เนื่องจากเป็นรถที่มีสมรรถนะแข็งแกร่งที่ได้ผลิตเพื่อการใช้งานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบรรเทาสาธารณภัย อาทิ ดับไฟป่า และบรรเทาอุทกภัยไปแล้ว กว่า 380,000 คันทั่วโลก และในปี 2554 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ Mercedes-Benz Unimog U 4000 (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยูนิม็อก) ครบรอบ 60 ปีอีกด้วย


Mercedes-Benz Unimog U 4000 ถูกคิดค้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะแก่การใช้งานในทุกสถานการณ์ ทุกสภาพพื้นผิวถนน โดยสามารถเข้าถึงพื้นที่ทุรกันดารได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางลาดชัน ป่าเขา ขึ้นดอย และสามารถลุยน้ำได้ถึง 1.2 เมตร รูปทรงโดยภาพรวมของโครงสร้างและตัวถังมีความเหมาะสมกับการลุยงานหนัก สามารถเข้าถึงพื้นที่ทุรกันดารได้ทุกสภาพพื้นผิว ทั้งทางลาดชัน ป่าเขา ด้วยความสามารถในการเดินหน้าขึ้นที่ลาดชันได้ถึง 45 องศา และเอียงข้างได้ 38 องศา รวมทั้งสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 1.2 เมตร เป็นรถบรรทุกที่ขับเคลื่อนแบบออฟโรดสมบุกสมบัน ที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานต่างๆทั่วโลก

...

...


การออกแบบ ความคล่องตัว กำลังของเครื่องยนต์ในรูปของแรงบิดรอบต่ำ และความอเนกประสงค์ในรูปแบบของการใช้งานอย่างสมบุกสมบัน เหมาะสมทุกการใช้งาน หากมองจากรูปลักษณ์ภายนอกของ Mercedes-Benz Unimog จะเห็นถึงตัวถังรถที่สื่อถึงความแข็งแกร่ง แข็งแรง ประกอบกับเพลาหน้าและเพลาท้ายที่ออกแบบ เพื่อให้รองรับกับน้ำหนักจำนวนมาก โดยเพลาหน้าสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 4,000 กิโลกรัม ส่วนเพลาท้ายสามารถรองรับน้ำหนักได้ 4,600 กิโลกรัม ด้วยระบบรองรับน้ำหนักแบบคอยล์สปริง จึงมีความยืดหยุ่น แข็งแรง ทนทาน สามารถขับผ่านสิ่งกีดขวางต่างๆได้จากขนาดความสูงของตัวรถ

...


ภายในรถบรรทุก Mercedes-Benz Unimog ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อมต่อการใช้งาน อุปกรณ์ต่างๆ ถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว ภายในกว้างขวาง โปร่ง สะดวกสบายต่อการขึ้นลง ที่นั่ง ที่ปรับพนักพิงได้ พร้อมด้วยเข็ดขัดนิรภัยทุกที่นั่ง หลังคาสามารถเปิดระบายอากาศได้ ทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจน พร้อมด้วยแผงหน้าปัดมาตรวัด ที่แสดงรายละเอียดการใช้งานอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อบกพร่อง การตรวจระดับน้ำมันเครื่อง การแจ้งข้อมูลการทำงาน หรือการแจ้งเตือนต่างๆ นอกจากนี้ยังมีกล่องคอนโทรลยูนิต ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในห้องโดยสาร เพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นละออง สำหรับการขับลุยในทุกพื้นที่ทุรกันดาร


Mercedes-Benz Unimog U 4000 ถูกคิดค้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะแก่การใช้งานในทุกสถานการณ์ ทุกสภาพพื้นผิวถนน โดยสามารถเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางลาดชัน ป่าเขา ขึ้นดอย และสามารถลุยน้ำได้ถึง 1.2 เมตร รถ Unimog U 4000 ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบออฟโรด วางเครื่องยนต์ดีเซล 4 กระบอกสูบ แถวเรียง ขนาด 4,800 ซีซี ติดตั้งระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุดถึง 218 แรงม้า หรือ 160 กิโลวัตต์ ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 810 นิวตันเมตร ที่มาในรอบเครื่องต่ำมากเพียง 1,200-2,400 รอบต่อนาที ใช้ถังน้ำมันเชื้อเพลิงทำจากอะลูมิเนียม ขนาด 160 ลิตร มาพร้อมกับชุดส่งกำลัง ซึ่งเป็นระบบเกียร์แบบออโตเมติกชิฟ (AutomaticShift®) ควบคุมการเปลี่ยนอัตราทดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถเลือกได้ทั้งแบบเกียร์อัตโนมัติ และแบบเกียร์ธรรมดา พร้อมด้วยระบบเดินหน้าและถอยหลังอย่างเร็ว (Electronic Quick Reverse: EQR) ทำให้สะดวกสบายในการใช้งาน ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ ช่วยเพิ่มสมาธิในการขับขี่ และสามารถบังคับรถได้ดีในสถานการณ์คับขัน สามารถเลือกความเร็วเดินหน้าได้ 8 แบบ และความเร็วถอยหลัง 6 แบบ เหมาะแก่ทุกสภาพพื้นผิว โดยทำความเร็วได้สูงถึง 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


ตัวเฟรมแชสซีของรถบรรทุก Mercedes-Benz Unimog U 4000 มีความแข็งแรงทนต่อการบิดตัวได้เป็นอย่างดี ไม่เสียรูปแม้ว่าจะผ่านการใช้งานที่สมบุกสมบัน และไม่มีผลต่อห้องโดยสารและส่วนบรรทุก รองรับงานขับขี่ที่ต้องลุยฝ่าเข้าไปในเส้นทางที่ยานพาหนะอื่นไม่สามารถวิ่งไปได้ ผู้ขับขี่สามารถรู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลในการควบคุมพวงมาลัย โดยเหล็กแชสซีของตัวรถมีขนาดใหญ่ และมีความหนาถึง 185 มิลลิเมตร เพื่อความแข็งแกร่ง ส่วนหน้ารถและส่วนบรรทุกสามารถบิดตัวได้ถึง 12 องศา ส่วนเพลาหน้าและเพลาท้ายสามารถบิดได้มากถึง 30 องศา ด้วยเทคโนโลยีทอร์คทิ้ว และคอยล์สปริง ล้อทั้งสี่สัมผัสพื้นผิวถนนตลอดเวลาขณะขับขี่ นอกจากนี้ยังง่ายต่อการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมต่างๆ เพื่อการใช้งาน อาทิ ปั๊มน้ำ


Mercedes-Benz UnimogU 4000 เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัย ที่ประกอบไปด้วย ระบบเติมลม และระบายลมยาง จากห้องโดยสาร ระบบควบคุมแรงดันลมยาง (tirecontrol®) เพื่อควบคุมให้เหมาะสมแก่การใช้งานในพื้นผิวต่างๆ และความปลอดภัยในการเดินทาง โดยแรงดันลมสูง เหมาะกับสภาพพื้นถนนทั่วไป ซึ่งสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้มาก ในขณะที่แรงดันลมต่ำเหมาะกับสภาพพื้นผิวที่ขรุขระ มีกำลังลากจูงสูง ดอกยางสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ง่าย ระบบระบายความร้อนที่ใช้สายพานขับ ระบบเพลามีซีลกันน้ำแบบสองชั้น รวมทั้งระบบกันน้ำและฝุ่นละอองในห้องโดยสาร พร้อมด้วยไฟหน้ากันน้ำและตัวระบายอากาศ นอกจากนั้นยังมีระบบช่วยเหลือขณะการขับขี่อย่างครบครัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ABS ระบบเบรกแบบ ALB (Automatic Load Responsive Brake System) ระบบปลดล็อกเบรกแบบฉุกเฉิน.

Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook http://www.facebook.com/chang.arcom