รูปลักษณ์ภายในและภายนอกใหม่หมด เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน ระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะรุ่นใหม่ล่าสุด 7G-TRONIC PLUS ระบบความปลอดภัยรุ่นก้าวหน้า เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยระบบสื่อสารรุ่นใหม่ บนยอดขายมากกว่า 1 ล้านคันทั่วโลก นี่คือ Mercedes Benz New C-Class Minor Change 2012...
บริษัท Mercedes Benz Thailand Co,ltd. เปิดตัวยนตรกรรม The new generation C-Class โฉมใหม่ ประเดิมด้วย C 250 CDI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes Benz อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป The new generation C-Class เป็นการปรับโฉมใหม่ของยนตรกรรมรุ่น C-Class ให้ดูโดดเด่นมากขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แผงหน้าปัดใหม่ การตกแต่งภายในที่เน้นการตัดกันของพื้นผิว พร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ประสิทธิภาพสูงที่ถ่ายทอดแรงบิดผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ* (7G-TRONIC PLUS ) รุ่นล่าสุด รวมทั้งระบบความปลอดภัยที่ช่วยในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ที่ปกติจะมีแต่ในรุ่นที่สูงกว่า ได้เข้ามาประจำอยู่ใน C-Class โฉมใหม่ นอกจากนั้นยังเพิ่มความสะดวกในการสื่อสารด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต** และระบบนำทางแบบพร้อมการแสดงผลแบบ 3 มิติ (3D navigation display with plastic city views)
...
ศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท Mercedes Benz Thailand Co,ltd. กล่าวว่า “ยนตรกรรมใหม่ The new generation C-Class ได้เน้นเรื่องความสะดวกสบายและความปลอดภัยเฉกเช่นรถ Mercedes Benz ทุกรุ่น ภายในมีการปรับโฉมใหม่ด้วยองค์ประกอบชั้นสูงไม่ต่างกับใน CLS-Class รุ่นล่าสุด C-Class โฉมใหม่จึงได้ยกระดับมาตรฐานใหม่ในด้านความคุ้มค่าและคุณภาพของรถเซ็กเม้นท์นี้ รวมทั้งภายในยังได้ปรับให้ดูทันสมัยด้วยระบบสื่อสารรุ่นใหม่ล่าสุดที่ไม่เพียงแต่การปรับเปลี่ยนจอแสดงผลใหม่เท่านั้น แต่ยังเพิ่มการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต**อีกด้วย”
ด้วยส่วนประกอบใหม่กว่า 2,000 ชิ้น ทำให้ Mercedes Benz C-Class โฉมใหม่นี้แตกต่างจากรุ่นเดิม ในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐานประกอบไปด้วย พวงมาลัยหนังที่ปัจจุบันเป็นหุ้มหนังทุกรุ่น เกรดการตกแต่งและอุปกรณ์แบบ ELEGANCE และ AVANTGARDE ได้มีการปรับให้แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม โดย ELEGANCE จะใช้ลายใหม่แบบ matt ash wood ส่วน AVANTGARDE จะใช้ลายแบบ dark aluminium หรือแบบ black ash wood
...
Mercedes Benz รุ่น C-Class นับเป็นรุ่นที่มียอดขายสูงที่สุด และมีความสำคัญเป็นอย่างมากกับ Mercedes Benz ทั้งนี้ ตั้งแต่มีการเปิดตัวในปี 2007 ได้มีจำหน่ายรถยนต์รุ่นดังกล่าวไปแล้วกว่า 1 ล้านคันทั่วโลก นอกจากนั้นนับตั้งแต่มีการเปิดตัวยนตกรรมซีดานขนาดกระทัดรัดจากค่ายตราดาวรุ่น C-Class เป็นครั้งแรกในปี 1982 (หรือที่รู้จักกันในรุ่น 190) บริษัท Mercedes Benz ได้ขายรถยนต์รุ่นนี้ไปแล้วกว่า 8.5 ล้านคันทั่วโลก New C-Class Minor Change Model 2012 ใช้กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ที่ให้ความรู้สึกถึงพลังของตัวรถ ด้วยลายเส้น รวมทั้งกระจังหน้าสีเงินที่ดุดัน ส่งถ่ายนวัตกรรมการขับเคลื่อนที่เพียบพร้อมไปด้วยงานวิศวกรรมชั้นสูงจากเยอรมัน ด้วยรูปทรง V-Shape พร้อมฝากระโปรงหน้าใหม่ที่ผลิตจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา เน้นการลดทอนน้ำหนักเพื่อเพิ่มเติมประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง รูปทรงของตัวรถตั้งแต่ด้านหน้าจรดบั้นท้ายสะท้อนแนวทางความเป็นสปอร์ตซีดาน สอดรับกับความเฉียบคมของโคมไฟหน้าแบบใหม่
...
ไฟคู่หน้าใหม่แบบไบซีนอน ถูกออกแบบให้ดูดุดันแต่มีชีวิตชีวา เพื่อให้กลมกลืนกับส่วนหน้าของรถที่เน้นทรง V-Shape ซึ่งทำงานควบคู่กับระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (Intelligent Light System - ILS) ผู้ขับสามารถปรับระดับการส่องสว่างโดยอัตโนมัติตามสภาพเส้นทาง พร้อมด้วยไฟ daytime แบบ LED สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันซึ่งติดตั้งอยู่ในกันชนด้านหน้า รวมทั้งไฟหน้าแบบฮาโลเจน ที่ประกอบไปด้วยไฟต่ำและไฟสูง รวมทั้งชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ในยามค่ำคืนให้ดียิ่งขึ้น เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ Mercedes Benz New C-Class Minor Change 2012 คือ ระบบอากาศพลศาสตร์หรือแอร์โรไดนามิกส์ ที่เป็นเลิศด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำเพียงแค่ 0.26 หรือเทียบเท่ากับมีค่าทางอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุดในรถสปอร์ตซีดานระดับเดียวกัน
...
ภายในของ The new generation C-Class โฉมใหม่ใช้การออกแบบใหม่หมดทั้งห้องโดยสาร ด้วยการเปลี่ยนหน้าปัดและพื้นผิวสัมผัสให้มีความนุ่มนวลมากขึ้น ปุ่มสวิตช์และอุปกรณ์ต่างๆ ให้ผิวสัมผัสที่ดี โดยเน้นความละเอียดและความพิถีพิถันในขั้นตอนการประกอบตามมาตรฐานของบริษัทผลิตรถยนต์เก่าแก่ของเยอรมัน แผงหน้าปัดแบบใหม่ ใช้ลายเส้นที่มีความต่อเนื่องไปจนถึงแผงข้างประตูด้านหน้าทั้งสองข้าง จอแสดงผลมัลติฟังก์ชั่นความละเอียดสูงที่ให้ความคมชัดแม้เปิดใช้งานท่ามกลางแสงแดด แผงคอนโซลกลางถูกเน้นให้เป็นจุดสำคัญของการปรับเปลี่ยนโฉมในรุ่น Minor Change โดยสะท้อนความงามเทียบเคียงเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม การตกแต่งพื้นผิวโดยรอบของห้องโดยสารถูกนักออกแบบภายในของ Mercedes Benz ปรับการใช้วัสดุใหม่ทั้งหมดกว่า 2,000 รายการ
นอกจากนั้นภายในยังตกแต่งเพิ่มเติมให้ดูทันสมัยด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในการสื่อสารด้วยการเชื่อมต่อเพียงปลายปุ่มสัมผัสบนพวงมาลัย โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบสื่อสารหรือ Telematics ที่มีมาพร้อมกับรุ่น C-Class ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ของรถรุ่นนี้ จุดเด่นของการตกแต่งภายในของ Mercedes Benz New C-Class ได้ถูกออกแบบให้มีจุดเด่นคล้ายกับ Mercedes Benz Model CLS โดยเฉพาะพวงมาลัยลายโครเมียมซึ่งสื่อถึงความเป็นสปอร์ตในรุ่น AVANTGARDE
เครื่องยนต์ของยนตรกรรม The new generation C-Class ทุกรุ่นถูกคิดค้นขึ้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีภายใต้แนวคิด BlueEFFICIENCY ยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงานเป็นสำคัญ ทั้งนี้เครื่องยนต์ทุกรุ่นเป็นระบบหัวฉีดแบบไดเร็คอินเจ็คชัน C 250 CDI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE : เครื่องยนต์ที่ทรงพลังและประหยัดเชื้อเพลิง สำหรับยนตรกรรมเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C-Class ใหม่เปิดตัวด้วยรุ่น C 250 CDI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลแบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ปริมาตรความจุ 2.2 ลิตร ติดตั้งระบบอัดอากาศด้วยชุดเทอร์โบคู่พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ผลิตกำลังสูงสุดได้ 204 แรงม้า พร้อมแรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 - 1,800 รอบต่อนาที มีอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม.โดยใช้เวลาเพียง 7.0 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 15.62-17.24 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ย 153-167 กรัมต่อหนึ่งกิโลเมตร
C-Class ใหม่ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ATTENTION ASSIST ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยใหม่ที่มีในรุ่น C-Class โดยใช้กล้องและระบบเซ็นเซอร์ภายในรถทำหน้าที่ตรวจสอบและวิเคราะห์ลักษณะการขับขี่ต่างๆ ซึ่งช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจาก อาทิ การเหนื่อยล้าขณะการขับขี่ เป็นต้น ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist) ระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE ซึ่งมีเพียงแบรนด์เดียวในโลก โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program) ระบบช่วยเบรก BAS (Brake Assist) ที่จะทำงานร่วมกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock braking system) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) พร้อมแนะนำวิธีการจอด (Parking Guidance) และพนักพิงศีรษะแบบ NECK-PRO
ยนตรกรรม C-Class ใหม่ได้นำระบบสื่อสารที่มีเทคโนโลยีล่าสุดซึ่งเจ้าของรถสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมากกว่ารุ่นเดิมเช่น การควบคุมหน้าจอ การเชื่อมต่ออุปกรณ์โทรศัพท์ การแสดงผลของข้อความ การฟังเพลงแบบไร้สายโดยผ่านระบบบลูทูธ และการเชื่อมต่อความบันเทิงผ่านช่อง USB อยู่ใต้ที่วางแขนตรงคอนโซลกลาง ด้วยระบบมัลติมีเดีย COMAND Online ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ในรุ่น C250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE ผู้ขับรวมถึงผู้โดยสารจึงสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ในทุกที่และทุกเวลา แถมยังสามารถบันทึกข้อมูลเส้นทางโดยผ่านเอสดี การ์ด ได้อีกด้วย
ศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากยอดขายในปีที่ผ่านมา Mercedes Benz C-Class เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากที่สุด ดังนั้นการปรับโฉมใหม่ตามนิยาม A new class of agility นับเป็นการพัฒนาอีกขั้น ด้วยการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า นอกจากนั้นบริษัท Mercedes Benz ยังได้สร้างความประทับใจและความมั่นใจให้กับลูกค้าผ่านการบริการหลังการขายและการใส่ใจและดูแลลูกค้าที่ซื้อรถยนต์จากตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้อง ด้วยการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง รวมถึงสิทธิพิเศษ Star Assist โปรแกรมพิเศษที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง.
Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook http://www.facebook.com/chang.arcom