TOYOTA VIOS WE LOVE

Toyota Motor Thailand Co,ltd ตอบรับกระแสความนิยม VIOS จัดโครงการ VIOS We Love พร้อมแนะนำพรีเซนเตอร์ล่าสุด...

นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Toyota Motor Thailand Co,ltd แถลงข่าวโครงการ VIOS We Love พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์ล่าสุด เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2554 ที่ โรงแรมเซนต์รีจิส ราชดำริ กรุงเทพฯ

โครงการ VIOS We Love เกิดขึ้นเนื่องมาจากกระแสความนิยมของรถยนต์ City-Car VIOS ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่การเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พศ 2540 โดยใช้ชื่อรุ่น Soluna ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทย ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว จากนั้นในปี พศ 2545 ค่าย Toyota ได้สร้างปรากฏการณ์อีกครั้งให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทย โดยการพลิกโฉมจาก Soluna สู่เจนเนอเรชั่นที่ 2 โดยใช้ชื่อรุ่นว่า Toyota Soluna VIOS ที่ยังคงความนิยมจากลูกค้าชาวไทย และเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญ ที่ทำให้ค่าย Toyota สามารถครองอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์นั่ง และยังขยายความนิยมด้วยการส่งออกจำหน่ายยังตลาดในแถบอาเซียน

สำหรับรุ่นปัจจุบันเดินทางมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 3 โดยใช้ชื่อรุ่นว่า VIOS ที่แนะนำเข้าสู่ตลาดในเดือนมีนาคม 2550 และล่าสุดได้มีการแนะนำรุ่นปรับปรุงโฉมภายใต้คอนเซปต์ Make It Happen ในเดือนมีนาคม 2553 โดยมี โจ - ภาณุพล เอกเพชร และ ว่าน - ธนกฤต พานิชวิทย์ มาเป็นพรีเซนต์เตอร์ ด้วยบุคลิกที่แสดงออกถึงความเป็นคนรุ่นใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของ Toyota VIOS ที่เป็นยานยนต์ซีดานขนาดเล็กราคาประหยัด มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการขับขี่ครบครัน รูปโฉมมีความเป็นสปอร์ตแฝงอยู่ทั้งภายนอกและภายใน สมรรถนะและประสิทธิภาพบนมาตรฐานของบริษัท Toyota ให้ความมั่นใจในการขับขี่ด้วยอุปกรณ์อันทันสมัย จากการออกแบบและพัฒนาคุณภาพให้มีมาตรฐานระดับโลก รวมถึงความคุ้มค่าในการใช้งานของกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ทำให้ Toyota VIOS ได้รับความนิยมและสามารถครองใจลูกค้าทั้งชาวไทย ด้วยยอดจำหน่ายรวมทั้ง 3 เจเนอเรชั่นกว่า 500,000 คัน

ทั้ง 3 เจนเนอเรชั่นของ Toyota VIOS สามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้ตลาดรถยนต์เมืองไทยมาโดยตลอด ซึ่งค่าย Toyota ได้เล็งเห็นถึงความนิยมที่มีมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้เสริมบุคลิก VIOS ให้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยการแนะนำพรีเซนเตอร์สาว สวย สดใส ร่าเริงและเต็มไปด้วยบุคลิกของคนรุ่นใหม่เหมาะสำหรับวีออส คือ เต้ย - จรินทร์พร จุนเกียรติ ที่จะเข้ามาเสริมภาพลักษณ์ร่วมกับ โจ และ ว่าน ในภาพยนต์โฆษณาชุดล่าสุดที่จะออกอากาศช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อให้ลูกค้าและผู้ที่สนใจทุกคนได้สัมผัสวีออสอย่างใกล้ชิด Toyota Motor Thailand Co,ltd จึงได้จัดกิจกรรมต่างๆมากมาย ทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ VIOS We Love อาทิ VIOS We Love Festival ลุ้นชอปปิ้งฟรี VIOS จ่ายให้ที่ห้างบิ๊กซี กิจกรรมกระจายไออุ่น ทำบุญด้วยการ “กอด” กิจกรรม VIOS We Love photo contest ประกวดภาพถ่ายคู่กับรถวีออสคู่ใจ คอนเสิร์ตใหญ่ส่งท้ายปี รวมถึงแคมเปญสุดพิเศษเพื่อให้บุคคลทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของ VIOS ได้ง่ายขึ้น

จากความทุ่มเทมุ่งมั่นในการพัฒนายานยนต์ราคาประหยัดรุ่น VIOS ของค่ายสามห่วง เพื่อให้เป็นรถยนต์ที่มีคุณภาพ มีความคุ้มค่าในทุกๆด้าน สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันที่รีบเร่ง ทั้งในด้านสมรรถนะเครื่องยนต์และการขับขี่ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพสมราคา มีอุปกรณ์เทียบเท่าหรือดีกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน พร้อมประโยชน์ใช้สอยภายในห้องโดยสารที่หลากหลาย สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้าได้ทุกรูปแบบ มีราคาขายต่อเป็นรถยนต์มือสองที่ดี และมีศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย ทั้งหมดนี้ทำให้ Toyota VIOS ครองความเป็นรถยนต์ยอดนิยมของลูกค้าทั้งในประเทศไทยและกลุ่มอาเซียนโดยเฉพาะในประเทศไทย ที่ปัจจุบัน Toyota VIOS มียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กและตลาดรถยนต์นั่ง กิจกรรมทั้งหมดนี้ บริษัท Toyota จัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจ เชื่อมั่นในสมรรถนะ และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ยานยนต์จากค่าย Toyota พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจทุกท่านได้มีประสบการณ์ร่วมที่ดีกับ Toyota New VIOS ที่ผลิตและประกอบในประเทศไทย

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท Toyota Motor Thailand Co,ltd รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2554 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 72,902 คัน เพิ่มขึ้น 11.0% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 32,277 คัน เพิ่มขึ้น 12.2% รถเพื่อการพาณิชย์ 40,625 คัน เพิ่มขึ้น 10.1% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 35,028 คัน เพิ่มขึ้น 12.6% ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคม มีปริมาณการขาย 72,902 คัน เพิ่มขึ้น 11.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา เป็นผลจากกำลังการผลิตที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติของค่ายรถญี่ปุ่น ทำให้สามารถส่งมอบรถได้เร็วขึ้น แม้ว่าจะยังคงมียอดค้างจองอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ประกอบกับเศรษฐกิจในประเทศที่อยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนกรกฎาคมที่ปรับเพิ่มขึ้น และการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 32,277 คัน เพิ่มขึ้น 12.2% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มีปริมาณการขาย 40,625 คัน เพิ่มขึ้น 10.1%

ตลาดรถยนต์สะสม 7 เดือนแรก มีปริมาณการขาย 504,914 คัน เพิ่มขึ้น 19.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 24.0% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น16.2% เป็นผลมาจากความนิยมอย่างต่อเนื่องของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ การแข่งขันในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่จูงใจ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่ขยายตัวและอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ ตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคมยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากความนิยมต่อเนื่องในรถยนต์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะรถเพื่อการพาณิชย์ ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50% ประกอบกับการจัดกิจกรรมทางการตลาดรูปแบบใหม่ๆ จากค่ายรถยนต์ กระแสเงินไหลเข้าในประเทศยังอยู่ในระดับสูง แม้จะได้รับผลกระทบบ้างจากการเพิ่มเพดานหนี้ ของสหรัฐอเมริกา และปัญหาหนี้ของกลุ่มประเทศในแถบยุโรป อย่างไรก็ดีอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อาจส่งผลให้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการดำเนินธุรกิจและอาจส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ได้

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2554
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 72,902 คัน เพิ่มขึ้น 11.0%
*อันดับที่ 1 Toyota.............27,995 คัน เพิ่มขึ้น 6.8% ส่วนแบ่งตลาด 38.4%
*อันดับที่ 2 Isuzu...............12,011 คัน เพิ่มขึ้น 2.6% ส่วนแบ่งตลาด 16.5%
*อันดับที่ 3 Honda..............7,150 คัน ลดลง 30.3% ส่วนแบ่งตลาด 9.8%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 32,277 คัน เพิ่มขึ้น 12.2%
*อันดับที่ 1 Toyota.............12,411 คัน เพิ่มขึ้น 16.0% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%
*อันดับที่ 2 Honda..............6,816 คัน ลดลง 25.5% ส่วนแบ่งตลาด 21.1%
*อันดับที่ 3 Nissan..............4,160 คัน เพิ่มขึ้น 19.0% ส่วนแบ่งตลาด 12.9%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน*(Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 35,028 คัน เพิ่มขึ้น 12.6%
*อันดับที่ 1 Toyota............14,020 คัน เพิ่มขึ้น 1.3% ส่วนแบ่งตลาด 40.0%
*อันดับที่ 2 Isuzu...............10,948 คัน เพิ่มขึ้น 1.5% ส่วนแบ่งตลาด 31.3%
*อันดับที่ 3 Mitsubishi.......5,326 คัน เพิ่มขึ้น 110.3% ส่วนแบ่งตลาด 15.2%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 3,635 คัน Mitsubishi 1,698 คัน - Toyota 1,170 คัน- Isuzu 687 คัน - Ford 80 คัน

Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook http://www.facebook.com/chang.arcom