ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ เราและรถนับร้อยคันบนท้องถนนกำลังเข้าแถวเรียงรายรอสัญญาณไฟสีเขียว ขณะกำลังกวาดสายตามองเพื่อนร่วมถนน พลันสะดุดกับรถยนต์สีน้ำเงินเข้มติดดาวเล็กดาวน้อยรอบคัน หน้ากระโปรงรถมีสติกเกอร์ Goo Inspection ตัวใหญ่ติดไว้ เดาเล่นในใจว่าเจ้าของคงหลงใหลดวงดาวและอวกาศ หรือไม่ก็คงเป็นแคมเปญสนุกของบริษัทรถยนต์เป็นแน่
ด้วยความสงสัย รีบเปิดคอมพิวเตอร์ คว้าเมาส์และลงมือพิมพ์บนคีย์บอร์ดอย่างว่องไว
จนถึงบางอ้อว่า ‘รถติดดาว’ เป็นแคมเปญการตลาดฉลาดเล่าของ Goo Inspection แบรนด์ผู้ให้บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ใช้แล้ว ที่แทนดาวรอบคันกับจุดตรวจเช็กสถาพรถ ซึ่งมีการตรวจมากถึง 344 จุด และมีการให้คะแนนระดับคุณภาพเป็นดาวนั่นเอง
ก่อนอื่นขอไปพาทำความรู้จัก Goo inspection พอหอมปากหอมคอ Goo inspection เป็นแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น ภายใต้ร่มบริษัท Car Credo (คาร์ เครโดะ) ในเครือของ Proto Corporation ที่เพิ่งเข้ามาขยายสาขาในไทยมาหมาดๆ เมื่อปี 2018 แต่ในประเทศญี่ปุ่นเอง บริษัท Car Credo เขาเปิดมาตั้งแต่ปี 2006 แล้ว ถ้ายังนึกไม่ออก ขอลองบอกชื่อนิตยสารที่คิดว่าคอรถต้องร้องอ๋อ เสริมไว้อีกนิด เพราะ Proto Corporation เป็นบริษัทที่คร่ำหวอดในวงการรถยนต์ ผู้ก่อตั้ง Goo Magazine นิตยสารเรื่องรถชื่อดังของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.1977 และหลังจากนั้นก็ออกนิตยสารเพิ่มอีก 3 ฉบับ ทั้ง Goo-World, Goo Bike และ Goo-parts ต่อมาจึงเริ่มทำ Goo-net เว็บไซต์เกี่ยวกับรถยนต์ รวมถึงขยายธุรกิจออกมาอย่างหลากหลายครอบคลุมกิจการเรื่องรถ จนมาล่าสุดคือ Goo inspection นั่นเอง และ Goo inspection นี้นำเข้ามาโดยบริษัท คาร์ เครโดะ (ไทยแลนด์) จำกัด
ที่มาของดาวรอบคันกับการตรวจเช็ก 344 จุด
รถติดดาวคันนี้ วิ่งสร้างจุดสนใจไปทั่วกรุงเทพฯ เพื่อบอกเล่าว่าแบรนด์ของเขานั้นทำอะไร ซึ่งอย่างที่เกริ่นไปตอนแรกว่า ที่มาของดาวเล็กดาวน้อยรอบคันนี้ ตั้งใจสื่อถึงการตรวจสภาพรถยนต์ใช้แล้วอย่างละเอียดครอบคลุมจุดใหญ่และไม่ลืมใส่ใจจุดเล็ก ทั้งโครงสร้างภายในและภายนอก ตลอดจนเครื่องยนต์กว่า 344 จุด ตามมาตรฐานการตรวจสอบของสมาคมประเมินสภาพรถยนต์ของประเทศญี่ปุ่น (Japan Automobile Appraisal Association-JAAA) โดย JAAA นี้ได้รับการรับรองมาตรฐานอีกชั้นจากรัฐบาลญี่ปุ่นถึง 3 หน่วยงานด้วยกันคือ หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค (Customer Affairs Agency-CAA) คณะกรรมการการค้ายุติธรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Fair Trade Council-JFTC) และคณะกรรมการยุติธรรมในการค้ารถ (Automobile Fair Trade Council-AFTC) ที่สำคัญในประเทศญี่ปุ่นมีเพียง 7 บริษัทเท่านั้นที่ได้รับการรับรองครบทั้ง 3 หน่วยงานนี้ ฟังแล้วเทใจให้ทั้งเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือสุดๆ
การตรวจสภาพรถจะทำโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญการตรวจสภาพจากญี่ปุ่น ซึ่งนักตรวจสอบคุณภาพรถ หรือ inspector เขาจะผ่านการฝึกฝน การสอบวัดระดับอย่างเข้มงวด และกลับไปอัปเดตข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับรถยนต์ที่ญี่ปุ่นทุกปี อ้อ! เกือบลืมบอกอีกอย่าง Goo inspection เขาเก็บข้อมูลของการตรวจสอบรถใช้แล้วเหล่านั้นมาเป็น Data เพื่อใช้พัฒนาเครื่องมือที่ใช้ตรวจรถและนักตรวจสอบคุณภาพรถด้วย
และหลังจากการตรวจเรียบร้อยแล้วจะมี U-Car Grading Report ให้ด้วย ซึ่งรีพอร์ตนี้มีการสรุปผลอย่างเข้าใจง่าย และมีการให้คะแนนที่น่าเชื่อถือจากผลการตรวจจริงจัง ใช้กิมมิกการให้คะแนนเป็นดาว โดย 5 ดาว คือสภาพที่ดีมากที่สุด ลดหลั่นเป็นสภาพดี ปานกลาง น้อย และน้อยมาก ตามลำดับ
รถคันนี้ Goo เช็กแล้ว!
การทำงานทั้งหมดของ Goo inspection สร้างความอุ่นใจให้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อว่ารถได้ผ่านการตรวจสภาพอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานและเป็นกลางจากสมาคมประเมินสภาพรถยนต์ของประเทศญี่ปุ่น (Japan Automobile Appraisal Association-JAAA) ที่พอรู้ข้อมูลแล้ว สะดุดตาสะดุดใจเข้าอย่างจัง ไม่แพ้รถติดดาวรอบคันเลย
ซื้อรถใช้แล้วครั้งหน้า เราคงต้องลองมองหารถติดดาวและสติกเกอร์ Goo inspection ให้มั่นใจว่าไม่ถูกย้อมแมวก่อนแล้วล่ะ
สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.gooinspection.com/
Facebook : https://www.facebook.com/GooINSPECTION.TH/