จุดเริ่มต้นของ Lexus บริษัทผลิตรถยนต์ระดับสูงจากญี่ปุ่น ด้วยการค้นคว้าและพัฒนาอย่างหนักเพื่อทำให้แบรนด์เข้าสู่ความนิยมของผู้ใช้รถยนต์ จนพบกับความสำเร็จในการครองใจผู้คนที่ชื่นชอบยานยนต์สไตล์  Luxury Car...

จุดกำเนิดแบรนด์ Lexus ของค่าย Toyota เกิดจากการประชุมของผู้บริหารระดับสูงเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1983 ในการประชุมครั้งนั้น ประธานบริษัท Toyota (Mr.Eiji Toyoda) กล่าวในที่ประชุมว่า บริษัท Toyota ควรพิสูจน์ความเป็นเลิศของตัวเองในทางวิศวกรรมยานยนต์ด้วยการลงมือสร้างรถยนต์ในระดับ Luxury ที่มีสมรรถนะสูงสุดเทียบเท่าหรือดีกว่ารถยนต์หรูหราของพวกอเมริกันและยุโรป ด้วยความเชื่อมั่นว่ารถแบรนด์ใหม่ล่าสุดของค่าย Toyota จะกลายเป็นการเปิดหน้าใหม่แห่งประวัติศาสตร์ของวงการรถยนต์เลยทีเดียว


Mr.Eiji Toyoda CEO Toyota In 1984

...


Lexus LS400 1988

บริษัท Toyota ระดมทีมงานและขุมกำลังทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทีมช่าง นักออกแบบและฝ่ายผลิตเพื่อสานฝันภารกิจอันท้าทายยิ่งใหญ่ครั้งนี้ และเพื่อก้าวเข้าสู่ความเป็นเจ้าแห่งรถ Luxury ของโลกที่รู้จักกันต่อมาในนาม Lexus และใช้ชื่อในโครงการทดสอบ วิจัยรถยนต์แบรนด์ใหม่นี้ว่า F1 ตามมาด้วยการยกทีมไปศึกษาถึงความเป็นไปได้ในเชิงวิศวกรรมที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลานานหลายปี เนื่องจากสหรัฐฯในช่วงเวลานั้น (ค.ศ. 1983) ถือได้ว่าเป็นตลาดรถยนต์ระดับหรูที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่กับเป็นรากฐานของแบรนด์ใหม่ๆ ที่มักนิยมเปิดตัวในสหรัฐอเมริกา ทีมงานของ Toyota ในครั้งนั้นใช้วิศวกร 1,400 คน ช่างเทคนิค 2,300 คน และช่างเครื่องยนต์อีก 220 คน ซึ่งแต่ละคนเป็นมืออาชีพที่ทำงานในวงการยนตกรรมสาขาต่างๆ ที่ร่วมกันพัฒนาแนวคิดในการสร้างแบรนด์ Lexus ให้ออกมาเทียบเท่าหรือดีกว่าแบรนด์รถหรูที่ครองตลาดอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว


LS400 The Design

สิ่งที่ทีมวิศวกรของค่ายสามห่วงมุ่งเน้นเป็นพิเศษคือ การคิดค้นโครงสร้างของตัวรถแบบ Body Shell เพื่อทำให้มีคุณสมบัติในการทนต่อแรงบิดหรือการงอตัวที่เกิดจากการสั่นสะเทือนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการใช้ Model ดินเหนียวจำนวนมากเพื่อสร้างรถต้นแบบกว่า 450 คัน แล้วนำไปทำการวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์จำลองแบบ Finite Element Analysis ที่ช่วยในการตรวจสอบโครงสร้างของตัวถังเพื่อกำหนดค่าสมรรถนะในระดับสูงสุด ทั้งยังช่วยในการพิจารณาจุดเสริมแรงที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะที่ตัวถังมีน้ำหนักน้อยลง เพื่อทำให้รถยนต์ Lexus คันแรกสุดของโลกเป็นยนตกรรมที่สูงด้วยคุณภาพเหนือรถยนต์ทั่วไป โปรแกรมพิเศษในการต่อต้านความเสื่อมสภาพหรือ Body Aging จึงถูกบรรจุไว้เป็นหัวใจหลักของการสร้างสรรค์รถยนต์ของ Lexus โดยเริ่มจากตัวถังที่ต้องผ่านการเคลือบป้องกันสนิมด้วย Zinc-Iron ทั้งบริเวณด้านนอกและด้านในหรือ Double ZC-FE Layer ทำให้ตัวถังได้รับการป้องกันสนิมอย่างสมบูรณ์แบบ จากนั้นจะทำการเคลือบสี Zinc-Iron Alloy บนผิวด้านนอกอีกครั้ง (เทคโนโลยีในช่วงปี ค.ศ. 1985) เพื่อทำให้สีมีการเกาะยึดที่ทนทานและให้ความเงาแวววาว เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนดังกล่าว รถ Lexus ทุกคันยังต้องผ่านขั้นตอนการพ่นสีจริงอีก 5 ขั้นตอน

...


Test Drive Lexus LS400 In 1986

ในระหว่างปี ค.ศ. 1985-1988 ก่อนที่การผลิตรถ Lexus จะเริ่มต้นขึ้น รถต้นแบบของ Lexus ที่ใช้ชื่อรุ่นเป็นรหัสตัวเลขว่า LS400 มีเครื่องยนต์แบบ V8 4.0 ลิตร วางตามยาวด้านหน้า-ขับเคลื่อนล้อหลังได้ผ่านการทดสอบอย่างโชกโชน ทั้งในห้องทดลองของโรงงานผลิตรวมถึงบนถนนทดสอบ เพื่อตรวจสอบสมรรถนะรถต้นแบบทุกคันในทุกสภาพดินฟ้าอากาศและทุกสภาพของถนน โดยใช้สนามทดสอบจากทั่วโลก ทั้งในสนามแข่งขันและบนถนนปกติเป็นระยะทางรวม 4.3 ล้านไมล์ ทั้งในสหรัฐอเมริกา เยอรมัน เบลเยี่ยม สวีเดน และแคนาดา การวิ่งทดสอบบนถนนของทางด่วนในประเทศเยอรมัน หรือในสภาพการจราจรที่ติดขัดตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก แม้แต่การวิ่งทดสอบอย่างหนักท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ รวมถึงการวิ่งบนถนนที่เต็มไปด้วยหิมะของแถบขั้วโลกเหนือ รถต้นแบบ Lexus LS400 ทุกคันต้องวิ่งผ่านอุโมงค์สนามแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของระบบไฟในตัวรถ โฉมหน้าใหม่ของวงการผลิตรถยนต์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว นี่คือยุคทองของ Lexus อย่างแท้จริง

ณ วันนี้คำทำนายของประธานคนเก่า Mr.Eiji Toyoda ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า รถยนต์หรูหราในความคิดของตระกูล Toyoda ได้รับการพัฒนาและผลิตอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน รวมถึงผ่านการทดสอบอย่างหนักหน่วงจนทำให้แบรนด์ Lexus ผงาดขึ้นในวงการรถยนต์ระดับสูงหรือ Luxury ได้อย่างสง่างามสมศักดิ์ศรีกับคำว่า ยานยนต์ปฏิวัติ

...


Lexus LS400 In USA.

เดือนพฤษภาคมปี ค.ศ. 1985 ทีมงานนักออกแบบ 5 คนของ Toyota ย้ายฐานไปที่ Laguna Beach ซึ่งอยู่ห่างจากเมือง L.A. ไปทางใต้ประมาณ 50 ไมล์ มันคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยสิ่งแวดล้อมที่ดีในการสร้างรถยนต์ มีทัศนียภาพที่งดงามรวมถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้ก็มีความสนใจในเร่ื่องของยานยนต์เป็นพิเศษ เพื่ิอลงมือทำงานวิจัยเกี่ยวกับการเลือกซื้อรถยนต์หรูหราของพวกอเมริกัน รวมถึงการเช่ารถระดับสูงมาทำการขับขี่เพื่อทดสอบและเก็บข้อมูล ทีมงานออกแบบและวิจัยของ Lexus ในยุคเริ่มต้น ประกอบด้วย Kumihiro Uchida หัวหน้าทีมออกแบบภายนอก Shigetoshi Odawara, Tadao Ohtsuki, Masahiko Kawazu และ Hisashi Seto ได้เริ่มงานที่ Calty ซึ่งเป็นสำนักงานดีไซน์ของ Toyota ในสหรัฐฯ ทั้งนี้ สำนักงานดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้กับ New Port Beach ทั้งหมดได้ร่วมทำงานกับ Michikazu Masu ดีไซน์เนอร์ที่ทำงานอยู่ก่อนแล้ว รวมถึง Dennis Campbell หัวหน้าทีมออกแบบของสำนักงาน Calty

...


Toyota's Calty design center

Kumihiro Uchida หัวหน้าทีมออกแบบได้ทบทวนความหลังขณะที่อยู่ในสหรัฐฯว่า รถยนต์ทุกคันจะดูแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ทีมงานไม่สามารถสร้างรถยนต์ Lexus เพื่อชาวญี่ปุ่นเพียงแห่งเดียว ทั้งยังไม่สามารถคาดหวังให้ตัวรถมีสภาพตามที่ต้องการในอเมริกาหรือในทุกๆ ที่บนโลกใบนี้ แต่มันจะมีการเชื่อมโยงกันในการใช้งานมากกว่ารถหรูยี่ห้ออื่น อาคารบ้านเรือน ความกว้างของถนน รถยนต์รุ่นอื่นๆ บนถนน แม้กระทั่งพืชพันธุ์ต่างมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรถยนต์ทั้งสิ้น จากการประเมินผลด้วยการนำเอาสิ่งแวดล้อมต่างๆเข้าด้วยกัน เมื่อถึงเวลาเดินทางกลับญี่ปุ่น ทีมออกแบบ Lexus ในยุดแรกเริ่มได้นำเอา Concept Design พร้อมแบบร่างและหุ่นจำลองย่อส่วนของรถยนต์ต้นแบบกลับไปด้วย สำนักงานที่ Calty ในสหรัฐอเมริกามีส่วนอย่างมากในการทำรถ Model ขนาดเต็มสัดส่วน พร้อมข้อเสนอแนะที่ดีในไลฟสไตล์ของอเมริกันชนที่นิยมเลือกซื้อรถหรูหรา


LS400 In Aerodynamic

แบบจำลองที่ Kumihiro Uchida หัวหน้าทีมออกแบบนำกลับมาญี่ปุ่นไม่ไช่แบบแรก มีการดำเนินงานก่อนหน้านี้หลายรูปแบบแล้ว และถึงแม้ว่ารถต้นแบบรุ่น LS400 รุ่นพื้นฐานจะได้รับการยอมรับจากผู้บริหาร แต่ก็ยังมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทีม Design ของ Lexus ต้องการจะทำให้ LS400 มีรูปทรงแอร์โรไดนามิกส์ที่เป็นหนึ่งในวงการยนตกรรม แต่ต้องคงความสง่างามตาม Concept เอาไว้อย่างเหนียวแน่น การทดสอบในอุโมงค์ลมหลายครั้งทำให้ดีไซน์สุดท้ายได้รับการยอมรับในเดือนพฤษภาคมปี ค.ศ. 1987 สองปีหลังจากขบวนการได้เริ่มต้นขึ้น สำหรับการขัดเกลารูปทรงของ LS400 ได้มีความพยายามที่จะทำให้รถ Lexus รุ่นแรกสุดคันนี้ออกมาดูดีและโดนใจผู้ใช้รถยนต์หรูหราราคาแพงทั่วโลก การก้าวเข้าสู่ความสำเร็จในแบรนด์ Lexus หลังจากนั้นเกิดจากการยึดมั่นในปรัชญาและเป้าหมายที่บริษัท Toyota ปฏิบัติกันมายาวนานกว่า 70 ปี นั่นคือปรัชญา "ลูกค้าคือคนสำคัญ" ความมั่งคั่งและมั่นคงของบริษัทเป็นผลผลิตจากความพึงพอใจของลูกค้าที่มีให้ เมื่อเลือกใช้สินค้าคุณภาพสูงในราคาที่สมเหตุผล รวมถึงความมั่นใจในการบริการหลังการขายที่ต้องมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Toyota บริษัทแม่ที่มียอดจำหน่ายรถยนต์สูงที่สุดในโลก


LS400 In Autubahn

ทีมทดสอบได้นำรถต้นแบบ Lexus คันแรกรุ่น LS400 ออกวิ่งในย่านความเร็วสูงบนถนน Autubahn ตลอดทั้งวัน ซึ่งบางช่วงของเส้นทางทดสอบทีมใช้ความเร็วในระดับท็อปสปีดเพื่อดูในเรื่องของการระบายความร้อนและการทรงตัวในสภาพอากาศที่แตกต่างกันจากเช้าจรดค่ำ หลังจากนั้นจึงกลับมาที่สหรัฐอเมริกาเพื่อให้พวกอเมริกันลองประเมินผลของการนั่งในตำแหน่งด้านหลัง วัสดุที่ใช้ตกแต่งภายใน ความสะดวกสบายในการขับ การบังคับควบคุม รวมถึงเสถียรภาพของการทรงตัว วิศวกรของ Lexus จะทำการประเมินผลต่างๆ เหล่านี้บนท้องถนนของอเมริกาไปอีก 10 เดือน หลังจากนั้นจะทำการปรับปรุงช่วงล่างจากข้อมูลที่ได้รับในการทดสอบอย่างหนักที่ยุโรป เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นลงแล้วทีมทดสอบจะย้ายตัวรถไปที่เยอรมัน เบลเยี่ยม และกลับมาที่อเมริกาอีกครั้ง เพื่อทำการปรับแต่งช่วงล่างครั้งสุดท้าย ซึ่งเป็นช่วงล่างแบบ Air Suspension ในขณะนั้นช่วงล่างแบบนี้ถือได้ว่ามีความทันสมัยไฮเทคและให้ความนิ่มนวลมากกว่าช่วงล่างแบบปกติ


Lexus LS400

ฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1987 ทีมวิศวกรด้านเครื่องเสียงติดรถยนต์ของ Lexus ได้ทำการติดตั้งชุดเครื่องเสียงลงในรถตัวอย่างของ Toyota รุ่น Cressida โดยมีการตกแต่งภายในห้องโดยสารให้เหมือนกับ LS400 ทุกอย่าง จุดประสงค์ในการทดลองครั้งนี้คือเป้าหมายในการพัฒนาระบบเสียงให้เหมาะกับรสนิยมของพวกอเมริกันซึ่งต้องเปรียบเทียบกับรถหรูจากค่ายอื่นๆ เช่น BMW 535i ใช้ชุดเครื่องเสียงของ Alpine รถสปอร์ต Corvette ใช้ชุดเครื่องเสียงและลำโพงของ Bose รถลีมูซีนคันโต Lincoln Continental ใช้เครื่องเสียง JBL แต่กับมาตรฐานของรถ Lexus คืออะไรก็ได้ที่ดีเยี่ยมและเหมาะสมกับรูปแบบของห้องโดยสารมากที่สุด หลังจากการประเมินผลอย่างหนักเพื่อทำให้เกิดมาตรฐานใหม่ในประสิทธิภาพของเครื่องเสียงติดรถยนต์ ช่วงปลายปี 1988 รถต้นแบบ LS400 ทั้ง 3 คันได้รับการติดตั้งเครื่องเสียงจาก Nakamichi โดยได้รับการตัดสินว่ามีความเหมาะสมของระดับเสียงอยู่ในขั้นดีเยี่ยม


LS400 In Sweden

ระหว่างการทดสอบการติดตั้งระบบเสียงให้กับ LS400 ในฤดูหนาวของปี ค.ศ. 1987-1988 ทีมงานทดสอบรถ Lexus ได้เดินทางพร้อมกับรถยนต์ต้นแบบไปที่ประเทศสวีเดนเพื่อทำการทดสอบการขับขี่ในสภาพเส้นทางที่เต็มไปด้วยหิมะกับการใช้งานระบบ Traction-Control พร้อมกับระบบป้องกันล้อล็อกในระหว่างการเบรค ABS ช่วงต้นเดือนมกราคม 1988 ทีมทดสอบย่อยอีกทีมหนึ่งกำลังวิ่งทดสอบในสภาพอากาศที่เย็นจัดของประเทศแคนาดา ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตยางที่นำยางของตนเองลงทดสอบบนทางที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะปกคลุม


Lexus LS400 The Opening

9 เดือนก่อนหน้าการผลิตจริงจะเริ่มต้นขึ้น รถ Lexus LS400 เปิดผ้าคลุมเป็นครั้งแรกที่ Los Angeles กับเมือง Westchester NewYork ฝ่าย PR ของ Lexusได้เชิญเจ้าของรถ Luxury ในสหรัฐให้ได้รับชมและทดลองนั่งก่อนใคร ซึ่งในบ็ูตของ Lexus ปราศจาก Logo ใดๆ ของแบรนด์ทั้งสิ้น ที่นี่เองแขกที่รับเชิญจะได้กรอกรายละเอียดแบบสอบถามเกี่ยวกับราคาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการให้ความเห็นเกี่ยวกับตัวรถอีกด้วย ขณะที่ทีมวิศวกรและดีไซน์เนอร์จะประเมินข้อมูลของลูกค้าเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อทำให้รถ LS400 ออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการบังคับควบคุม ความหรูหราของวัสดุและอุปกรณ์ ความปลอดภัยและสมรรถนะเพื่อลงรายละเอียดเป็นครั้งสุดท้ายในการที่จะผลิตออกขายจริง Mr. Nishizawa ผู้จัดการทั่วไปของแผนกบริหารโรงงาน Tahara กล่าวว่ารถ Lexus ทุกคันจากสายการผลิตจะต้องถูกสร้างขึ้นด้วยคุณภาพการประกอบในระดับสูงสุด โรงงานแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยบริษัท Toyota ในปี ค.ศ. 1979-1980 ด้วยอุปกรณ์การผลิตรถยนต์ที่ทันสมัยเพื่อรองรับการผลิตรถ Lexus ทุกรุ่นในยุคแรกเริ่มของการก่อตั้งบริษัท


Lexus IS 350 Convertible 2009


Lexus LS 460 2008


Lexus RX350 2009


Lexus LFA 2010


Lexus CT200h 2011

ด้วยความเพียรพยายามและการตั้งใจลงมือทำงานชิ้นใหญ่ของทีมวิศวกร Lexus ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมยานยนต์ นักออกแบบและช่างเครื่องทางเทคนิคกว่า 3,000 คน ผสานแรงบันดาลใจของประธานกิตติมศักดิ์จาก Toyota -Mr Mr.Eiji Toyoda รถ Lexus LS400 ซึ่งเป็นรถรุ่นแรกสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทหนึ่งเดียวจากเอเซียที่กล้าผลิตรถยนต์หรูหราราคาแพง จึงประสบความสำเร็จอย่างงดงาม หลังจากนั้นแบรนด์ Lexus ก็ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบรถหรูเทียบเท่ายนตกรรมชั้นนำจากยุโรปอย่าง BMW หรือ Mercedes Benz จนกลายเป็นที่ยอมรับทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป รวมถึงเอเซีย ในตลาดรถยนต์  Luxury ระดับโลก หลังจากนั้นการทำแบบสอบถามสำรวจความพึงพอใจในระหว่างการใช้งานของลูกค้าได้ปรากฏผลออกมาว่า รถ Lexus ได้รับคะแนนที่แสดงถึงความพึงพอใจในการใช้ (Car Satisfacrtion Identity) สูงสุดเหนือกว่ารถระดับเดียวกัน การสำรวจดังกล่าววัดจากความชอบของลูกค้าต่อสมรรถนะของตัวรถและเทคโนโลยีของระบบควบคุมต่างๆ รูปลักษณ์ที่งดงามหรูหรา รวมถึงการยอมรับในมาตรฐานของการบริการหลังการขายด้วยความเชี่ยวชาญและการเป็นเลิศในการให้บริการ

ความสำเร็จในแง่มุมของการยอมรับจากผู้ใช้รถยนต์ทั่วโลกเป็นเครื่องยืนยันว่าแบรนด์ Lexus ไม่เพียงแค่เป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบที่ใช้เทคโนโลยีไฮเทคเท่านั้น ตัวรถ Lexus ทุกรุ่นทุกคันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันยังมีระบบความปลอดภัยในระดับสูงสุดและความสะดวกสบายในการใช้งาน ในขณะเดียวกันยังเปี่ยมด้วยภาพลักษณ์ของความสง่างามที่นำความภาคภูมิใจให้กับผู้ที่ได้ครอบครอง.


Arcom Roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook http://www.facebook.com/chang.arcom