เกือบ 50 ปีแล้วบนตำนานแห่งการทำความเร็วของ Ferrari ที่มีชื่อต่อท้ายรถยนต์ในค่ายบางรุ่นด้วยคำว่า GTO จักรกลพลังสูงที่ส่งถ่ายสายพันธุ์อมตะของเจ้าม้าป่าจากมาราเนลโลบนตัวเลข 661 แรงม้า...
รถ Ferrari GTO คันสุดท้ายของค่ายม้าลำพองออกวิ่งบนถนนเมื่อกว่า 48 ปีก่อน จากรุ่นแรกสุดคือ Ferrari 250 GTO 1962 มาจนถึงรุ่นสุดท้ายนั่นก็คือ Ferrari 288 GTO 1984 ช่วงเวลาที่ขาดหายไปของประวัติศาสตร์การทำความเร็วของตัวรถรุ่นนี้ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการแข่งขันถูกสานต่อด้วย DNA และอนุกรมของความแรงในปี 2010 ด้วยตัวรถรุ่น 599 GTO การรักษาวิศวกรรมทางยนตกรรมในโมเดล GTO ซึ่งมีตัวถัง เบรค ล้อ เครื่องยนต์ ระบบรองรับอยู่ในระดับเหนือกว่าจิตนาการ
Ferrari 599 GTO จะถูกผลิตในรูปแบบลิมิเตท อิดิชั่น เพียง 599 คันตามใบสั่งจองของลูกค้าผู้จงรักภักดีในแบนรด์ Ferrari บนราคาค่าตัวที่สูงถึงคันละกว่า 300,000 ปอนด์ สิ่งที่จะได้กลับมาจากพวกอิตาเลี่ยนในการควักกระเป๋าจ่ายเงินจำนวนมหาศาลคือ ตัวถังอลูมิเนียมผสมคาร์บอนไฟเบอร์ เครื่องยนต์ 6.0 ลิตร V12 กับสภาพการขับขี่ควบคุมในระดับสุดขั้ว รถ 599 GTO ทุกคันจะมีลูกสูบและก้านสูบที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษ ท่อไอดีแบบล่าสุดที่ตอบสนองได้ดีขึ้น จานเบรคคาร์บอนเซรามิกพร้อมผ้าเบรคเซรามิกจาก Brembo ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วและยาง Michelin ที่มีเนื้อยางกับแก้มด้านข้างที่แข็งเป็นพิเศษ ส่วนระบบส่งกำลังยังคงเป็นแบบ Semi-automatic ทำงานได้เร็วขึ้น การรีดน้ำหนักตัวอย่างสุดฤทธิของทีมวิศวกร Ferrari ในการเลือกใช้วัสดุน้ำหนักเบาส่งผลให้เจ้า 599 GTO เบากว่ารุ่นปกติถึง 100 กิโลกรัม พลังขับเคลื่อนจึงเพิ่มขึ้นอีก 57 แรงม้า เทียบเท่าความแรงในระดับ 661 แรงม้าของรุ่น Enzo ได้อย่างสบายๆ
เครื่องยนต์ของ 599 GTO เป็นเครื่อง V12 สูบ 5999 ซี.ซี. 6.0 ลิตร ใช้ชิ้นส่วนร่วมกันกับรุ่น 599 XX ชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ตัวนี้ มีค่าแรงเสียดทานต่ำกว่ารุ่นปกติ 12 เปอร์เซนต์จากสารเคลือบพิเศษที่กระโปรงลูกสูบทั้ง 12 ชิ้น เพลาลูกเบี้ยวแบบปัดเงา พร้อมสารเคลือบเพชรที่ตัวกดวาว์ลไฮดรอลิก ก้านสูบ ลูกสูบทุกชิ้นถูกออกแบบใหม่หมด ระบบท่อร่วมไอดีแบบใหม่ที่มีความยาวสั้นลงกว่าของเดิมเพื่อการตอบสนองในรอบสูงสุด แรงบิดรอบต่ำที่ 369 ปอนด์/ฟุตในรอบเครื่องที่ 2000 รอบต่อนาที กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นอีก 57 แรงม้าเป็น 661 แรงม้า
...
ล้ออัลลอยพิเศษขนาด 20 นิ้ว มีขนาดของยางใหญ่โตกว่ารุ่น 599 GTB ด้านหน้า 305/35/ZR 20 วงล้อกว้าง 11.5 นิ้ว ส่วนล้อคู่หลังขนาด 315/35/ZR 20 กว้าง 11.5 นิ้วเท่ากันแต่ขนาดของยางหลังจะใหญ่กว่าเล็กน้อยเนื่องจากเป็นล้อขับเคลื่อน ยางพิเศษ Michelin รุ่น Pilot Sport สูตรผสมเนื้อยางชนิดพิเศษที่ทำให้แก้มยางรุ่นนี้แข็งแกร่งมากกว่าปกติเพื่อรับแรงบิดในระหว่างการขับเข้าโค้ง ช่วยในเรื่องของการลดอาการย้วยในขณะที่ตัวรถกำลังถ่ายเทน้ำหนักจากการวิ่งเข้า-ออกโค้งด้วยความเร็วสูง
ระบบระบายไอเสียใช้เฮดเดอร์ 6-1 ที่ยกมาทั้งยวงจากรถแข่งรุ่น 599 XX ท่อทั้งสองเส้นแบบเครื่องยนต์รูปตัว V จะมีตัวฟอกอากาศแคตตาไลติกคอนเวอร์เตอร์ฝั่งละใบ มาตรฐานการควบคุมไอเสียระดับ Euro5 ท่อระบายไอเสียของมันผลิตจากกรรมวิธี Hydroforming ด้วยขั้นตอนการรีดให้ตัวท่อมีความบางมากกว่าปกติ ช่วยลดทอนน้ำหนักและจำนวนของตำแหน่งเชื่อมต่อ ชุดท่อแบบใหม่ล่าสุดใน Ferrari 599 GTO มีน้ำหนักลดลงถึง 13 กิโลกรัม
ระบบส่งกำลังหรือเกียร์ของเจ้า GTO 2010 ยังคงเป็นเกียร์กึ่งอัตโนมัติ 6 สปีด โดนปรับอัตราทดให้สั้นลงอีก 6 เปอร์เซนต์ เพิ่มประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนอัตราทดขึ้น-ลงอีก 3 เปอร์เซนต์ การเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วว่องไวขึ้นกว่ารถรุ่นปกติถึง 60 ส่วน 100 ของวินาที การยกแป้น Paddle-shift หลังพวงมาลัยค้างไว้ในขณะที่เหยียบเบรค ระบบจะสั่งการให้ลดอัตราทดเกียร์ลงต่ำไปตามรอบเครื่องยนต์แบบอัตโนมัติ แป้น Paddle-shift ทำจากคาร์บอนมีขนาดของความยาวตัวก้านมากขึ้น ช่วยให้การใช้นิ้วแตะเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ ทำได้ทันทีแม้จะอยู่ในระหว่างการหักเลี้ยวแบบสุดๆ
กระจกรอบคันของ Ferrari 599 GTO บางลงเพื่อลดน้ำหนัก ซึ่งสามารถรีดได้ถึง 5.5 กิโลกรัม ตัวถังอลูมิเนียมบวกหลังคาเคฟล่าห์มีความเบาขึ้นอีก 4 กิโลกรัม สปอยเลอร์หน้ารุ่นใหม่ เบาลงอีก 2 กิโลกรัม บันไดและแผ่นรีดอากาศด้านหลังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ฝากระโปรงหลังเป็นชิ้นงานอลูมิเนียมและมีความเบากว่ารุ่น GTB ถึงกว่า 40 เปอร์เซนต์
แผ่นกันลมหมุนวนบริเวณจานเบรคเซรามิก ช่วยจัดเรียงกระแสลมและป้องกันการหมุนวนของลมที่เข้ามาปะทะ เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในด้านอากาศพลศาสตร์ สปอยเลอร์์หน้า-หลังที่กว้างขึ้นรวมถึงสเกิร์ตข้างของชายล่างมีผลต่อการทรงตัวที่ดีขึ้นแทบทั้งสิ้น แผ่นปิดใต้ท้องกันลมหมุนวนหรือยกตัวใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทดแทนอลูมินัมอัลลอยในรถ 288 GTO รุ่นปี 1987 แผ่นปิดใต้ท้องดังกล่าวยกมาทั้งชิ้นจากรถแข่ง 599 XX และมีตัวเลขความสูงลดลงกว่ารุ่นปกติ 10 มิลลิเมตร ที่ความเร็ว 125 ไมล์/ชั่วโมง มันจะสร้างแรงกดได้ถึง 144 กิโลกรัมเพื่อความมั่นคงแน่วแน่ในการวิ่งบนความเร็วสูง.
รับชมความแรงระดับทะลุมิติได้ที่
Arcom Roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairaht.co.th
Facebook http://www.facebook.com/chang.arcom