โซเชียลแชร์ข้อความผู้ใหญ่ให้หลานกินกล้วยบด จนติดเชื้อในลำไส้ก่อนเสียชีวิต ด้าน หมอเด็ก เผย แม้กล้วยสารอาหารเยอะ แต่ไม่ควรป้อนกล้วยหรือสารอาหารอื่นก่อนอายุ 6 เดือน นอกจากนมแม่ เด็กเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต...

จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์แชร์ข้อความระบุว่า มีญาติผู้ใหญ่ให้หลานกินกล้วยบด ข้าวบด จนทำให้เด็กติดเชื้อในลำไส้ต้องเข้าโรงพยาบาล กระทั่งสุดท้ายเด็กได้เสียชีวิตลงในที่สุด โดยอ้างว่าเป็นความเชื่อสมัยโบราณนั้น

พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด หมอเด็กชื่อดังได้อธิบายกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า คุณพ่อคุณแม่หลายครอบครัวอาจจะเคยเผชิญความขัดแย้งของความรู้ที่ได้รับจากโรงพยาบาลที่สนับสนุนนมแม่ กับความรู้หรือภูมิปัญญาจากรุ่นคุณปู่ย่าตายาย ซึ่งมองว่าความขัดแย้งนี้เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากความรู้ที่ญาติผู้ใหญ่ได้รับมาจากหมอรุ่นก่อน ตอนที่ความรู้เรื่องนมแม่ยังมีไม่มาก ย่อมไม่เหมือนกับความรู้ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ คำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ให้เริ่มอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมหลังเด็กอายุ 6 เดือน เนื่องจากก่อน 6 เดือนเด็กยังมีกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่แข็งแรงเต็มที่ ระบบการย่อยยังไม่สมบูรณ์ หากกินอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมเข้าไป อาจมีความผิดปกติได้ เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย แพ้อาหารเนื่องจากเยื่อบุลำไส้ยังอยู่กันหลวมๆ ทำให้โปรตีนแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด ไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารต่อต้านโปรตีนแปลกปลอม แล้วนำไปสู่การเกิดโรคภูมิแพ้ได้ในอนาคต

...

null

นอกจากนี้ หากเริ่มให้อาหารอื่นก่อนอายุ 6 เดือน เด็กจะเป็นอะไรหรือไม่นั้น พญ.สุธีรา เผยว่า มีทั้งเด็กที่เป็นอันตรายและไม่ได้เป็นอันตราย อย่างล่าสุดมีกรณีที่ผู้ใหญ่เอากล้วยป้อนเด็กอายุเพียงไม่กี่เดือน จนเด็กมีอาการตาเขียวคาดว่าน่าจะสำลัก เพราะว่าเด็กยังมีการเคี้ยวการกลืนได้ไม่ดี และก้อนกล้วยไปติดลมหายใจ หลอดลม เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็อยู่ได้เพียง 2 วัน ก่อนจะเสียชีวิต ส่วนเด็กที่กินกล้วยก่อนอายุ 6 เดือน แล้วปกติดี ไม่เป็นอะไร ก็ถือว่าโชคดี น่าจะเป็นเพราะไม่ได้ป้อนเยอะเกินไปจนเกิดปัญหา แต่เวลาที่ให้เด็กกินกล้วย อยากให้สังเกตด้วยว่า ระบบขับถ่ายเป็นอย่างไร เพราะ เด็กบางคนกินกล้วยแล้วท้องผูก แต่เด็กบางคนกินกล้วยแล้วถ่ายง่ายนิ่มเป็นปกติดี

“ธรรมชาติบอกเป็นนัยมาอยู่แล้วค่อ ว่า ฟันของเด็กจะขึ้นช่วงอายุ 6 เดือน ดังนั้น ตอนที่ฟันของเด็กยังไม่ขึ้น พ่อแม่ก็ยังไม่ควรจะป้อนอาหารอื่นๆ ให้เด็กนอกเสียจากนมแม่ และถึงแม้ว่า สารอาหารในกล้วยจะมีอยู่ประมาณ 20 กว่าชนิด ขณะที่สารอาหารในนมแม่มีมากกว่า 200 ชนิด ซึ่งเทียบกันไม่ได้เลย และเหตุใดพ่อแม่จึงต้องรีบให้ลูกสละการกินอาหารที่มีสารอาหารมากกว่า ไปกินอาหารที่มีสารอาหารน้อยกว่า” กุมารแพทย์ชื่อดัง ให้ความรู้.