สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุเกาะพะงันอยู่ในเขตคุ้มครองสิ่งแวดล้อม แต่มีการไถหน้าดินบนภูเขาหลายจุด ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ เร่งหาแนวทางจัดการ...

จากกรณีดินจากพื้นที่เตรียมการก่อสร้างสนามบินเกาะพะงัน ในพื้นที่หมู่ 5 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ไหลลงสู่ทะเล ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในวงกว้าง จนทาง พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาค 4 เดินทางมาตรวจสอบบริเวณเตรียมการก่อสร้าง และพบว่ามีการไหลของหน้าดินจริง และสั่งการให้หน่วยงานปกครองในพื้นที่ดำเนินคดีกับเอกชนเจ้าของพื้นที่นั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 เม.ย. สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดย นางสุชารัตน์ มณีเศรษฐ์ ผอ.กลุ่มงานพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม พื้นที่เกาะพะงัน รวมถึงตรวจสอบการดำเนินงานตามมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม โดยจัดประชุมที่ห้องประชุม ร.ร.เกาะพะงันศึกษา อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้เข้าร่วมรับฟังประมาณ 50 คน

ทั้งนี้ ตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปี 2557 กำหนดให้พื้นที่ ต.ตลิ่งงาม ต.บ่อผุด ต.มะเร็ด ต.แม่น้ำ ต.หน้าเมือง ต.อ่างทอง ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย และ ต.เกาะพะงัน ต.บ้านใต้ ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ซึ่งประกาศดังกล่าวจะบังคับใช้ถึงปี 2564 จึงต้องรับทราบปัญหาเพื่อปรับปรุงแก้ไข และเตรียมประกาศใหม่อีกครั้ง

ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีการรายงานปัญหาการดำเนินงานของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมประจำ อ.เกาะพะงัน ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาหลายอย่างไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาการลักลอบปล่อยน้ำเสียของผู้ประกอบการในพื้นที่ลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ ปัญหาการขุดตักหน้าดินที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล การพัดพาของตะกอนจากการก่อสร้าง และขุดตักหน้าดิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อแหล่งหญ้าทะเล และแนวปะการัง การเหยียบย่ำทำลายแหล่งปะการังในจุดท่องเที่ยว

...

สำหรับปัญหาการขุดตักหน้าดิน ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบนิเวศล่าสุดคือกรณีดินจากพื้นที่เตรียมการก่อสร้างสนามบินของเอกชน บนภูเขาในพื้นที่หมู่ 5 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน ซึ่งมีการระเบิดหิน ปรับหน้าดินในเนื้อที่กว่า 160 ไร่ ส่งผลให้ดินไหลลงไปในทะเลกระทบต่อระบบนิเวศเป็นวงกว้าง ซึ่งทาง รองแม่ทัพ ภาค 4 สั่งให้หน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของพื้นที่นั้น ปรากฏว่ายังไม่มีการดำเนินการใดๆ ซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในระดับอำเภอ เองก็ไม่ได้รายงานเรื่องนี้ให้กับทาง สผ.รับทราบ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่บริเวณเขาแม่หาด หมู่ 7 ต.เกาะพะงัน ที่มีการขุดปรับหน้าดินโดยพื้นที่ดังกล่าวมีการอ้างเป็นที่ดินเอกสารสิทธิ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมป่าไม้ ถึงที่มาที่ไปของการออกเอกสารสิทธิ์ และพบว่าอาจจะเป็นการใช้ ส.ค.1 จากที่ดินแปลงอื่นมาครอบ เพื่อออกเป็นเอกสารสิทธิ์ น.ส.3

นางสุชารัตน์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าพื้นที่บนเกาะพะงันบางจุด มีการเข้าไปขุดปรับหน้าดินบริเวณเนินเขาที่มีความลาดชันเกิน 35 องศา ตามประกาศพื้นที่คุ้มครองฉบับนี้ ในข้อ 3 ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามไม่ให้มีการก่อสร้างสนามบินพาณิชย์ เว้นแต่เป็นนโยบายของรัฐตามมติ ครม. ทั้งนี้ พื้นที่ก่อสร้างจะต้องไม่ขัดกับมาตรการที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ และต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับดูแล และติดตามผลการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด รวมทั้งห้ามไม่ให้มีการขุดตัก กรวด ดิน ดินลูกรัง หรือทราย ในพื้นที่ที่มีความลาดชันเกินกว่าร้อยละ 35 เว้นแต่ การเกษตรกรรม และการขุด ที่เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการเพื่อการก่อสร้างโดยได้รับอนุญาตจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

ผอ.กลุ่มงานพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาทางกระทรวงฯ มีประกาศชัดเจนในเรื่องการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ กลับไม่บังคับใช้อย่างจริงจัง ทำให้เกิดการกระทำที่ขัดต่อประกาศดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาง สผ.จะนำเรื่องนี้เข้าไปกำหนดแนวทางในการดำเนินการต่อไป.