สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ หลายท่านอาจจะเคยเห็นเว็บไซต์ หรือ Facebook Pages หรือร้านจำหน่ายวัตถุมงคล ประเภทเครื่องราง บางแห่งนำชิ้นส่วนของศพ ซึ่งอ้างว่าผ่านพิธีกรรมทางไสยศาสตร์มาจำหน่าย เช่น กะโหลกศีรษะของมนุษย์ กระดูกของมนุษย์ อวัยวะ อัฐิ หรือเถ้าของศพ เป็นต้น ซึ่งแต่เดิมไม่มีกฎหมายออกมาบังคับใช้เกี่ยวกับศพอย่างชัดเจน หากมีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับศพ พนักงานสอบสวนก็มักจะแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 199 หรือ มาตรา 358 แห่งประมวลกฎหมายอาญา แล้วแต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนะครับ

การนำชิ้นส่วนของศพมาจัดสร้างเครื่องรางนั้น เป็นความเชื่อส่วนบุคคลครับ ผมไม่อาจจะก้าวล่วงความเชื่อส่วนบุคคลของผู้อื่นได้ บทความฉบับนี้ผมจะวิเคราะห์ตัวบทกฎหมาย ลักษณะความผิดเกี่ยวกับศพ ซึ่งเป็นกฎหมายที่แก้ไขใหม่ และประกาศใช้ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558

ตามประมวลกฎหมายอาญา แก้ไขเพิ่มเติมลักษณะความผิดเกี่ยวกับศพ และเพิ่มเติมมาตรา 366/1 (กระทำชำเราศพ) มาตรา 366/2 (กระทำอนาจารศพ) มาตรา 366/3 (ทำให้เสียหายเคลื่อนย้ายทำลายศพ) และมาตรา 366/4 (ดูหมิ่นเหยียดหยามศพ)

ดังนั้น การนำชิ้นส่วนของศพ ซึ่งอ้างว่าผ่านพิธีกรรมทางไสยศาสตร์มาจำหน่าย ถือว่าเป็นการทำให้เสียหายเคลื่อนย้ายทำลายศพ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 366/3 ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ทําให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทําลาย ทําให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพ ส่วนของศพ อัฐิ หรือเถ้าของศพ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือ ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (พระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2558)

...

ประเด็นปัญหาที่น่าสนใจ คือ ศพเด็ก หรือ ซากทารก จะแบ่งแยกกันอย่างไร เนื่องจากอาจจะมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน คำว่า "ศพเด็ก" จะใช้เรียกทารกที่คลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารก ซึ่งถือว่ามีสภาพบุคคลแล้ว แต่ต่อมาได้เสียชีวิตลง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 15 ซึ่งผู้ที่ครอบครอง "ศพเด็ก" โดยไม่มีเหตุอันสมควรอาจจะมีความผิดตามมาตรา 366 / 3 ข้างต้น

ส่วน "ซากทารก" จะใช้เรียกทารกที่อยู่ในครรภ์มารดา แต่ไม่ได้คลอดออกมา หรือคลอดออกมาแล้วแต่ไม่มีชีวิตรอด จึงไม่มีสภาพบุคคลตามกฎหมาย ผู้ที่ครอบครองอาจจะไม่มีความผิดตามมาตรา 336 / 3 ข้างต้น ซึ่งมีหลายสาเหตุ ที่ทำให้มีซากทารก เช่น แม่เจตนาทำแท้ง แม่เกิดภาวะแท้งอันเกิดจากสภาพร่างกายของแม่เอง หรือ อุบัติเหตุ เป็นต้น อย่างไรก็ตามผู้ที่ครอบครองซากทารกอาจจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ หรือลักทรัพย์ได้ เนื่องจากซากทารกถือว่าเป็นทรัพย์สินของทายาทโดยธรรมอย่างหนึ่งครับ ทั้งนี้ แล้วแต่ข้อเท็จจริงในแต่ละคดีนะครับ

ส่วนกรณีการครอบครอง ฟัน เส้นผม เล็บ หรือ อัฐิ ของบิดามารดาตนเอง หรือพระเกจิอาจารย์ที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนตัวมองว่าไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย เนื่องจากครอบครองโดยมีเหตุอันสมควรและเป็นความเชื่อทางศาสนาที่มีมานานแล้ว

สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ

Facebook: ทนายเจมส์ LK