สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้หลายท่านคงจะกำลังเตรียมตัวเพื่อฉลองเทศกาลสงกรานต์นะครับ หนึ่งปัญหาสำหรับการไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ส่วนมากคือทรัพย์สินหายระหว่างการท่องเที่ยว

ในกรณีที่ท่านเก็บทรัพย์สินของผู้อื่นได้ ท่านจะสามารถเรียกร้องรางวัลจากผู้เป็นเจ้าของได้ หรืออาจจะยึดของนั้นเป็นของท่านได้ด้วย แต่ในขณะเดียวกันหากไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ท่านอาจตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาได้เช่นกัน

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้กำหนดขั้นตอนเกี่ยวกับการเก็บทรัพย์สินหายไว้ 3 วิธี คือ ส่งมอบคืนเจ้าของ หรือ แจ้งเจ้าของ หรือ ส่งมอบแก่เจ้าพนักงานตำรวจภายในสามวัน ตามมาตรา 1323 บุคคลเก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหาย ต้องทำอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้

(1) ส่งมอบทรัพย์สินนั้นแก่ผู้ของหายหรือเจ้าของ หรือบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้น หรือ
(2) แจ้งแก่ผู้ของหายหรือเจ้าของ หรือบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้นโดยมิชักช้า หรือ
(3) ส่งมอบทรัพย์สินนั้นแก่เจ้าพนักงานตำรวจ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่นภายในสามวันและแจ้งพฤติการณ์ตามที่ทราบอันอาจเป็นเครื่องช่วยในการสืบหาตัวบุคคลผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้น

แต่ถ้าไม่ทราบตัวผู้ของหาย เจ้าของ หรือบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินก็ดีหรือบุคคลดั่งระบุนั้นไม่รับมอบทรัพย์สินก็ดี ท่านให้ดำเนินตามวิธีอันบัญญัติไว้ในอนุมาตรา (3)

ทั้งนี้ ท่านว่าผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายต้องรักษาทรัพย์สินนั้นไว้ด้วยความระมัดระวังอันสมควรจนกว่าจะส่งมอบ

ผู้ที่เก็บทรัพย์สินของผู้อื่นได้นั้นมีสิทธิ์ได้รับรางวัลในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ไม่เกิน 30,000 บาท หากทรัพย์สินหายนั้นมีมูลค่าเกินให้คิดร้อยละ 5 ของส่วนที่เกิน แต่ทั้งนี้ ผู้ที่เก็บทรัพย์สินได้นั้น จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 1323 ด้วย จึงจะมีสิทธิ์ได้รับรางวัล ตามมาตรา 1324

...

ในกรณีที่ผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติมาตรา 1323 แล้ว และผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้นมิได้เรียกเอาภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่เก็บได้ไซร้ ท่านว่ากรรมสิทธิ์ตกแก่ผู้เก็บได้ ตามมาตรา 1325

หากผู้ที่เก็บทรัพย์สินได้ มีเจตนาเบียดบังทรัพย์สินหายนั้นเป็นของตน อาจจะมีความผิดในข้อหายักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าทรัพย์นั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสำคัญผิดไปด้วยประการใด หรือเป็นทรัพย์สินหาย ซึ่งผู้กระทำความผิดเก็บได้ ผู้กระทำต้องระวางโทษแต่เพียงกึ่งหนึ่ง

บางกรณี ผู้เก็บทรัพย์สินหายยังเรียกเงิน เพื่อแลกกับการคืนทรัพย์สินหาย หากมีลักษณะการข่มขืนใจเจ้าของให้ยอมให้หรือยอมจะให้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน อาจจะมีความผิดข้อหากรรโชกทรัพย์เพิ่มเติม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานกรรโชก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

เทศกาลสงกรานต์นี้ หากท่านเก็บทรัพย์สินของผู้อื่นได้ ก็ขอให้คืนแก่เจ้าของ แจ้งเจ้าของ หรือส่งมอบแก่เจ้าพนักงานตำรวจนะครับ เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจจะตามมาในอนาคต ขอให้ทุกท่านโชคดี เดินทางปลอดภัยทุกท่านครับ

สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ

Facebook: ทนายเจมส์ LK