สังคมไทยบางส่วนนิยมอ้างคำว่ายังไม่พร้อม ยังไม่ได้ไทม์มิ่ง มักปล่อยปละ ละเลยจนบางเหตุการณ์นั้น...สายเกินแก้!!
นิทานเรื่องเมฆน้อยกับต้นไม้แก่ น่าจะเป็นข้อคิดที่น่าสนใจ
เมฆน้อยลอยผ่านมา เห็นต้นไม้แก่ยืนต้นรอน้ำฝน ก็เข้าไปทัก ต้นไม้แก่ไม่ขออะไร ขอจากเมฆน้อยเพียงว่า...ขอน้ำฝนจากเมฆเพียงนิดจะได้ไหม?
เพื่อที่ต้นไม้แก่จะได้น้ำพอประทังชีวิตให้รอดไปวันๆ
เมฆน้อยก็ผัดผ่อน บอกไม้แก่ว่าน้ำ
ในเมฆ...ยังน้อยอยู่ รอสะสมให้มากอีกนิด มากเมื่อไหร่ จะมาโปรยปรายให้ และผัดผ่อนเช่นนั้นไปอีกหลายวัน...
จนในที่สุด ก็ถึงวันที่เมฆน้อยคิดว่า ตนนั้นสะสมน้ำในก้อนเมฆมากพอที่จะให้แก่ต้นไม้ชราต้นนั้น จึงพัดหวนกลับมา เพื่อจะให้น้ำต่อไม้แก่ “ผู้รอคอย”
แต่ภาพที่ได้เห็นคือ...ต้นไม้แก่ผู้น่าสงสารได้ยืนต้นแห้งตายไปก่อนนั้นเสียแล้ว
ย้อนดูเมฆน้อยอย่าง กสทช.และต้นไม้แก่อย่างผู้ประกอบการธุรกิจทีวีดิจิตอลใน
วันนี้บ้าง สภาพและตรรกะไม่ผิดอะไรกับนิทานเรื่องเมฆน้อยกับต้นไม้แก่
การผัดวันประกันพรุ่ง ความไม่ชัดเจนในนโยบายและภาคปฏิบัติ และประเด็นสำคัญคือการแจกกล่องทีวีดิจิตอลยังเดินทางไปไม่ถึงไหน
การแจก การรับ ยังประพฤติปฏิบัติตามธรรมเนียมราชการอันคร่ำครึเข้มงวด!!
อันที่จริงแล้ว...กล่องเหล่านั้นควรตกถึงมือผู้ชมให้เร็วที่สุด ใครเป็นผู้รับคงไม่ใช่สาระ หากรับแล้วนำไปเปิดชม นั่นคือสิ่งที่ปรารถนา
บางครั้งเราติดในรูปแบบพิธีการจนลืมไปในข้อเท็จจริงว่า ฮาร์ดแวร์ตัวนั้น
เรามีจุดประสงค์อะไร เพื่ออะไร??
ฝากให้คิดอีกครั้งครับ
ธุรกิจทีวีและสื่อสารมวลชนทุกประเภท ในวันนี้ กำลังจะเป็นต้นไม้แก่กับเมฆน้อยเข้าไปทุกขณะ!!
“สันติพงษ์ นาคประดา”
...
"แจ๋วริมจอ"