มีประเด็นต่อเนื่อง ซึ่งผมเห็นว่านักนิยมพระกริ่ง ควรได้รับรู้เพื่อการพิจารณาร่วมกัน อันเนื่องมาจากเรื่องพระกริ่งสมเด็จสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ ที่ผมเขียนลงไทยรัฐฉบับ 2 เม.ย.60 ว่า
กริ่ง 83 ชุดนี้ อาจารย์หนูแต่งสวยพิเศษ คนสกุลวัฒนายากร ได้ไปสององค์ แต่เปลี่ยนมือไปอยู่กับจ่าดุลย์ ตชด.สงขลา...
คุณภิยวัฒน์ วัฒนายากร กรุณาเขียนจดหมายบอกมาว่า ข้อความนี้ ผิดพลาด
เพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง...พระกริ่ง 83 แต่งพิเศษ ฝีมืออาจารย์หนู...อยู่ที่ตระกูลวัฒนายากร...จริง และวันนี้ก็ยังอยู่กับตระกูลวัฒนายากร
ส่วนกริ่ง 83 องค์จ่าดุลย์ ซึ่งผมมีภาพให้ดู (องค์ผิวสีเข้ม) ในคอลัมน์วันนี้ คุณภิยวัฒน์บอกว่า จ่าดุลย์ได้จากจ่าช้วน นักเลงพระรุ่นเก่าของสงขลา เอกลักษณ์ไว้หนวดแบบ “ท่านขุนพันธุ์” จ่าช้วนจะได้จากใคร คุณภิยวัฒน์ ไม่ทราบ
ผมเคารพในข้อมูลคนในสกุลวัฒนายากร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักนิยมพระเครื่องตัวจริงเสียงจริง...มีพระเครื่องชั้นดี องค์ครูมากมายเป็นที่นับถือของคนในวงการ...จึงขอให้เข้าใจ...ตามนี้
คุณภิยวัฒน์ยังบอกอีกว่า กริ่ง 83 องค์จ่าดุลย์นั้น...เปลี่ยนมือไป เมื่อราว 20 ปีที่แล้ว จ่าดุลย์ขึ้นโรงพักแจ้งตำรวจว่า ถูกผู้หญิงมอมยาสลบ ฉกเอาพระเครื่องในสร้อยคอและในกระเป๋าถือ...ไป
ตอนที่ผมได้ข่าวนี้ ผมก็เสียใจไปกับจ่าดุลย์ เพราะคุ้นกันมานาน
ราวปี 2529-2530 จ่าดุลย์เอาพระกริ่ง 83 แต่งพิเศษ สวยเนี้ยบถึง 2 องค์ ได้รางวัลที่ 1 และที่ 2 จากงานประกวดพระเครื่อง ของกองบัญชาการ ตชด.มาให้ดูถึงไทยรัฐ
องค์ที่ 1 นั้น ตอกตาเฉียงขึ้น ตอนนั้น (ดูในภาพ) ยังอยู่ในสภาพเดิม กระแสแดงคล้ำสนิมน้ำตาลเข้มเป็นปื้นๆ องค์ที่สอง ฟอร์มพระอ้วนล่ำกว่า ผิวเหลืองออกขาว ตอกตาเป็นเส้นตรง
...
จนผมสงสัย จะใช่ 83 หรือเปล่า แต่ก็ต้องจดจำ เพราะเชื่อสายตากรรมการตัดสิน
เคยตามไปขอดูถึงบ้านพักที่สงขลา...ราวสามสี่ปีต่อมา...เสียดาย จ่าดุลย์ล้างผิวเดิม...ออกไปแล้ว อีกไม่กี่ปีต่อมา สององค์นี้เคยขึ้นปก นิตยสารสนามพระ ของคุณอรรถภูมิ บุญยเกียรติ
เจอกันครั้งที่สาม ที่ร้านทองเสี่ยหลงสงขลา พระก็ยังอยู่ในกระเป๋าถือแบบผู้ชาย
ประเด็นใหม่ที่ผมนำเสนอให้คุณภิยวัฒน์ ช่วยพิจารณา กริ่ง 83 องค์ที่จ่าดุลย์ ได้จากจ่าช้วนนั้น...องค์ไหน องค์รางวัลที่ 1 หรือองค์รางวัลที่ 2
องค์รางวัลที่ 1 ที่คุณภิยวัฒน์ว่า ไม่ได้จากคนสกุลวัฒนายากรแน่ๆนั้น จ่าดุลย์บอกเองว่า เอานาฬิกาเก่ายี่ห้อลองยินส์...แลกมาจากผู้ใหญ่ในสกุลดัง...ชื่อสกุล ฐานะตำแหน่ง ตอนนั้น ผมก็ยังจำได้ดี
หลังได้ข่าว จ่าดุลย์ถูกฉกพระกริ่ง 83 สององค์ไป ผมก็พยายามจับตาดูความ เคลื่อนไหว ...การซื้อขายในวงการ
คิดว่าถ้าเห็นเมื่อไหร่ หากมีเรื่องต้องการพยาน ผมพร้อมจะเป็นพยาน... เพราะได้จับ ส่อง คลำ สามครั้งสามครา แต่ละครั้งดูด้วยใจศรัทธา เป็นเวลานาน
เขียนถึงตรงนี้ ต้องขอขอบคุณ คุณภิยวัฒน์ ที่ส่งหนังสือพระกริ่ง และพระชัยวัฒน์ ในสมเด็จสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนเทพวราราม... พิมพ์เป็นบรรณาการเนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ นายภิญโญ วัฒนายากร ณ เมรุวัดแหลมทราย เมื่อ 5 ก.ย.2556 มาให้
พระกริ่ง 83...2 องค์ (ผมขออนุญาตเอาองค์หนึ่งมาเทียบเคียง) และพระกริ่ง 84 ...1 องค์ ฝีมืออาจารย์หนูแต่งพิเศษ ในหนังสือเล่มนี้ แน่ใจได้ ฝีมือเดียวกับองค์จ่าดุลย์
แม้จะเหมือนกันมาก แต่ก็มีข้อต่าง จนแน่ใจได้ว่า เป็นคนละองค์.
พลายชุมพล