"เนวิน" โร่ขึ้นโรงพักแจ้งความ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ลั่นเอาผิดจนที่สุด เหล่านักเลงคีย์บอร์ด หลังพบมีการโพสต์ข้อความทางโซเชียล เป็นเจ้าของบ่อนการพนันติดชายแดนไทย-กัมพูชา ลั่นไม่เคยทำธุรกิจในเขมร มีหุ้นในกาสิโน หรือบ่อนทั้งในและต่างประเทศ...
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 มี.ค.60 นายเนวิน ชิดชอบ อายุ 58 ปี ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อดีตนักการเมืองชื่อดัง เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นปลักฐานกับ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ฤทธิ์ไธสง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด หลังมีผู้นำข้อความซึ่งเป็นการใส่ความตนเองให้ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง โดยกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของบ่อนการพนันติดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ติดกับช่องจุ๊บโกกี อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง
นายเนวิน เปิดเผยว่า ที่ต้องเข้าแจ้งความกับตำรวจครั้งนี้ เพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่เผยแพร่ภาพบ่อนการพนันในประเทศกัมพูชา และเขียนข้อความว่าตนเป็นเจ้าของ โดยมีการดำเนินการเป็นขบวนการ มีการจัดทำภาพ และข้อความผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีเจตนาพาดพิงถึงตน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และทำให้ตนได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
“เรื่องนี้เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด ผมไม่เคยทำธุรกิจใดๆ ในกัมพูชา และไม่เคยทำธุรกิจ หรือมีหุ้นส่วนในกาสิโนใดๆ หรือบ่อนการพนันทั้งในและนอกประเทศ” นายเนวินกล่าว และเชื่อว่าตำรวจจะสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดได้ และเรื่องนี้เป็นการกระทำความผิดคดีอาญา ผมในฐานะผู้เสียหายจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งทางคดีอาญาและคดีแพ่ง เพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง และเป็นบทเรียนแก่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในทางที่ผิด
...
ด้าน พ.ต.ท.สิริพงษ์ กล่าวว่า หากผู้ใดได้รับข้อความดังกล่าว เผยแพร่หรือมีการส่งต่อซึ่งข้อความ ที่ตนเองทราบอยู่แล้วว่าเป็นข้อความ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นเท็จ จะต้องถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ฐานเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งยังอาจจะต้องถูกดำเนินคดีในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นจึงขอประชาสัมพันธ์งดการส่งต่อ เผยแพร่ แชร์ หรือกดไลค์ข้อความดังกล่าวด้วย.