GWM ชูคุณภาพเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T แข็งแกร่งผ่านการวิจัยพัฒนากว่า 30 ปี การันตีด้วยผู้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเกือบ 2 ล้านคน ใน 170 ประเทศและทุกภูมิภาคทั่วโลก

เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า เราในฐานะผู้นำตลาดรถกระบะและรถเอสยูวีออฟโรดจากจีน GWM ที่เริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่ปี 2527 และก้าวเข้าสู่วงการรถกระบะอย่างเต็มตัวในปี 2539 ด้วยการเปิดตัวรุ่น Deer ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่ทำให้ GWM ครองแชมป์ยอดขายรถกระบะอันดับ 1 ในประเทศจีนมาอย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อปี 2545 เราจึงขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งนำมาสู่การเปิดตัว GWM POER ในปี 2562 รถกระบะยุคใหม่ที่สร้างปรากฏการณ์ด้วยยอดขายถล่มทลาย โดยเป็นรถกระบะเรือธงที่ครองความนิยมในประเทศจีนมาอย่างยาวนานถึง 26 ปี ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้น ความทนทานสูง และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยรถกระบะยุคใหม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในหลากหลายตลาดทั่วโลก ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และอเมริกาใต้ จนก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในจีน และติด 1 ใน 3 แบรนด์รถกระบะยอดนิยมของโลก

...

จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่การเป็นผู้นำระดับโลก ความสำเร็จของ GWM สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่มองไกล และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลที่ได้พัฒนาและสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สะท้อนแนวคิด GWM Go With More ที่ GWM ยึดถือ ไม่ใช่เพียงแค่การผลิตรถยนต์คุณภาพ แต่คือส่งการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในทุกมิติ ทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และความเชื่อมั่นในการเป็นแบรนด์ระดับโลก

เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ของ GWM

สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชั่นใหม่ ของ GWM เป็นผลงานจากศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ลงทุนไปแล้วกว่า 500 ล้านหยวน (ประมาณ 2,300 ล้านบาท) ซึ่งเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ได้รับการพัฒนาโดยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด โดยมีคุณสมบัติเด่นที่พิสูจน์แล้วในตลาดจริง ซึ่งมีจุดเด่น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่

1. ด้านสมรรถนะเหนือระดับ มอบพละกำลังสูงสุดถึง 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดที่สูงถึง 260 นิวตันเมตร ในรอบเครื่องต่ำ และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตรแบบต่อเนื่องหรือแฟลตทอร์คที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ทำให้การออกตัวและการขับขี่ในพื้นที่ที่มีความท้าทายเป็นไปได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งในเมืองและออฟโรด

2. ด้านประหยัดพลังงาน เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ใหม่นี้ถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้ที่ดีกว่า ทำให้การใช้พลังงานจากน้ำมันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลดการสูญเสียพลังงานที่ไม่จำเป็น โดยอัตราการบริโภคน้ำมันของ NEW GWM TANK 300 DIESEL อยู่ที่ 14 กิโลเมตรต่อลิตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ Eco sticker ในประเทศไทย) สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งน้ำมันหนึ่งถัง (ดีเซล B7) สามารถขับขี่ได้ระยะทางไกลมากกว่า 1,000 กิโลเมตร

...

3. ด้านความเงียบและนุ่มนวลเหนือชั้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์และการพัฒนาเทคโนโลยีในการลดเสียงรบกวน NVH (Noise, Vibration, Harshness) ที่ยอดเยี่ยม จึงทำให้ห้องโดยสารมีระดับเสียงต่ำกว่า 68 เดซิเบลในช่วง idle speed ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ นิ่ง ไม่สั่น เทียบเคียงได้กับเครื่องยนต์เบนซิน

4. ด้านความทนทานรับประกันคุณภาพยาวนานถึง 1 ล้านกิโลเมตร GWM มั่นใจในคุณภาพของเครื่องยนต์เซ็ตนี้ จึงกล้าสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้งานด้วยการมอบการรับประกันคุณภาพเครื่องยนต์ที่ยาวนานและครอบคลุมมากขึ้นถึง 1 ล้านกิโลเมตร (หรือ 8 ปี) สำหรับรถยนต์รุ่น NEW GWM TANK 300 DIESEL ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพของเครื่องยนต์ 

เวย์น โจว กล่าวอีกว่า จากความสำเร็จของการเปิดตัว NEW GWM TANK 300 DIESEL GWM (Thailand) ยังคงเดินหน้าส่งมอบเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้ให้กับแฟน ๆ ชาวไทย เราเชื่อมั่นว่าขุมพลังดีเซล 2.4T เจอเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ มอบการขับขี่ที่เงียบและนุ่ม

...

พร้อมมสมรรถนะ การประหยัดพลังงาน และความทนทาน ฉีกกฏของเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิม ๆ เรามุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำเครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้เข้ามาให้ชาวไทยได้สัมผัสเป็นประเทศแรก ๆ ในโลก ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของตลาดในประเทศไทยและการนำผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของคนไทยมาให้คนไทยได้เป็นเจ้าของ

โดยในปี 68 นี้เราจะมีรถยนต์รุ่นใหม่ของ GWM อีกหลากหลายรุ่นที่จะเข้าสร้างมาตรฐานใหม่แห่งสมรรถนะการขับขี่ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ความเอนกประสงค์ และความคุ้มค่าที่เหนือความคาดหมาย พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของ GWM ในการเป็นแบรนด์ระดับโลกที่พัฒนายานยนต์เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างแท้จริง