คืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ด่านฯ เมียวดี ทำบ้านเรือนเสียหายหนัก ส่งผลทำให้บรรยากาศฝั่ง อ.แม่สอด ที่อยู่ตรงข้ามเงียบเหงา ร้านค้ายังคงเปิดปกติ แต่ไร้นักท่องเที่ยว ขณะที่ยังไม่มีฝ่ายใดอ้างความรับผิดชอบ

จากกรณีเมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา (24 เม.ย.) ได้เกิดเหตุระเบิดในรถยนต์ซึ่งติดตั้งระเบิดแสวงเครื่องไม่ทราบน้ำหนัก หรือคาร์บอมบ์ โดยกลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่ายได้ขับรถยนต์เก๋งจำนวน 1 คันมาจอดที่บริเวณหน้าประตูด่านพรมแดนถาวรเมียวดี ประเทศเมียนมา ก่อนคนขับรถคันติดตั้งระเบิดจะรีบหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นอีกไม่กี่นาทีได้เกิดระเบิดอย่างรุนแรงจำนวน 1 ครั้ง เสียงระเบิดดังไปทั่วแนวชายแดนทั้งฝั่งจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา และฝั่งอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และทำให้รถยนต์เก๋งหน้าด่านพรมแดนถาวรเมียวดีจำนวน 2 คันเกิดเพลิงไหม้ทั้งคัน และบ้านเรือนประชาชนที่สร้างใกล้กับจุดเกิดระเบิดในฝั่งเมียวดีต่างได้รับความเสียหายหลายหลัง

ขณะที่มีรายงานเบื้องต้นว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยอยู่ที่ด่านพรมแดนถาวรเมียวดีได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดจำนวน 2 นาย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ช่วงวินาทีระเบิดกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งใกล้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ฝั่งแม่สอด สามารถจับภาพนาทีระเบิด โดยเห็นแสงไฟจากการระเบิดอย่างรุนแรงและตามด้วยเสียงระเบิดขนาดใหญ่ได้ยินอย่างอย่างชัดเจนทั้งสองฝั่งแนวชายแดนไทย-เมียนมา

...

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 เม.ย. 65 สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ช่วงเช้าโดยที่เชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 พบว่าบรรยากาศที่ทำการด่านพรมแดนถาวรเมียวดี พบมีความเสียหายยับเยิน และชาวบ้านหลายคนในพื้นที่เกิดเหตุต่างไม่กล้าออกจากบ้านพัก เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัยโดยมีทหารเมียนมาและกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือบีจีเอฟ พร้อมอาวุธครบมือเข้ามาคุมเข้มในรอบพื้นที่จุดเกิดเหตุใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 อย่างเข้มงวด จนทำให้ย่านการค้าของเมืองเมียวดีที่เคยมีการค้าการขายในพื้นโซนเศรษฐกิจหน้าด่านพรมแดนเมียวดีต่างเงียบเหงา

ขณะเดียวกันที่หน้าด่านพรมแดนถาวรแม่สอด จ.ตาก ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับด่านพรมแดนถาวรเมียวดีก็มีสภาพเงียบเหงา แต่ร้านค้าทั้งในตลาดริมเมยและร้านค้าทั่วไปรอบด่านพรมแดนถาวรแม่สอดเช้าวันนี้ทุกร้านค้ายังคงเปิดทำการค้าขายตามปกติ แต่บรรยากาศเงียบเหงาหลังเกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา

ด้านนายคำอ้าย ทองคำ อายุ 62 ปี พ่อค้าร้านน้ำผลไม้ซึ่งเปิดร้านค้าติดกับด่านพรมแดนถาวรแม่สอดติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา มานานกว่าสิบกว่าปี กล่าวว่า เมื่อคืนตนเองนอนเฝ้าร้านตามปกติ จู่ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องอย่างรุนแรง 1 ครั้งจนบ้านพักสั่นสะเทือน และมีแสงไฟสีแดงสว่างเต็มท้องฟ้าฝั่งประตูด่านเมียวดี จากนั้นก็มีไฟไหม้ตามมาและมีเสียงไซเรนรถกู้ภัยและรถดับเพลิงดังไปทั่วบริเวณที่ทำการด่านพรมแดนถาวรเมียวดี

...

สำหรับเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงอีกครั้งหนึ่ง และส่งผลทำให้การค้าขายแนวชายแดนซึ่งเงียบเหงามาหลายปีจากโรคโควิด-19 ต่างได้รับผลกระทบในระเบิดในครั้งนี้ ล่าสุดยังไม่มีกองกำลังฝ่ายใดอ้างความรับผิดชอบในการก่อเหตุในครั้งนี้ และส่งผลทำให้สถานการณ์การสู้รบแนวชายแดนในฝั่งประเทศเมียนมาฝั่งตรงข้ามอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กลับมาตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สอดได้จับตาติดตามสถานการณ์ล่าสุดนี้อย่างใกล้ชิด.