เราถามความรู้สึกจอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ กับแฮชแท็กที่ดังอยู่ช่วงหนึ่ง #ถามเอียงๆกับจอมขวัญ จอมขวัญไม่ตอบทันทีแต่ขำทันควัน "ดิฉันติดคู่กันเลยค่ะ #ถามตรงๆกับจอมขวัญ #ถามเอียงๆกับจอมขวัญ" แล้วจึงอธิบายความในมุมมองของตัวเอง อยากให้เปิดใจฟัง ตรงจริงไหม เอียงหรือไม่ เราให้คุณผู้ชมตัดสินเอง...
"การวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่กลาง เราพร้อมจะถกอย่างเป็นทางการกับทุกคนในเรื่องนี้ เพราะว่าสื่อไม่เคยคุยกันเลยตลอดมา 10 ปีว่า คำว่า 'เป็นกลาง' ที่คุณทิ่มแทงกันไปมาตอนนี้ คุณเข้าใจมันถูกรึเปล่า และการมองว่าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นเรื่องที่โดนอยู่แล้ว ดิฉันขอคนเดียว (หน้าจริงจัง) ขอชื่อเดียวที่จะไม่โดนว่าไม่เป็นกลางตอนนี้เลย ดิฉันว่าทุกคนโดน แล้วก็ไม่ว่าคุณจะโดนวิจารณ์อย่างไร แท้จริงจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ มัน มันไม่ได้อยู่กับสิ่งที่เราเป็นเท่านั้น มันขึ้นอยู่กับคนมอง
เราพูดเปรียบเทียบง่าย ๆ สมมติว่า เอาง่าย ๆ แบนๆ เลยนะ คือถ้าเรายืนตรงกลางเหมือนกัน แล้วเราเห็นกัน เราอาจจะพูดได้ว่าเราอยู่ตรงกลาง แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ต้องขอยกตัวอย่างว่า คนวิจารณ์ยืนเอียงไปข้างหนึ่ง คำถามคือคุณมีสิทธิ์จะวิจารณ์ดิฉันไหมว่า คุณกลาง
ดังนั้นแล้วคุณจะวิจารณ์ได้ไหมว่า ดิฉันเอียง ไม่ได้บอกว่าเราเป็นอย่างไร แต่บอกว่าตอนนี้ภาวะวิสัยมันมีเกลื่อนกลาดไปหมด ความคิดเห็นเต็มไปหมดเลยค่ะ”
...
Thairath Talk : หลายคู่เป็นมวยชกที่จอมขวัญทำแล้วเกิดกระแสมากมาย อย่างอุ๊กับไผ่, ดร.อานนท์ กับรุ้ง และน้องมายด์กับคุณปารีณา มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เยอะ อยากจะให้อธิบายเบื้องหลังทั้ง 3 เทป
คนมักนึกว่า มันเปิดด้วยคู่คุณปารีณากับมายด์ ซึ่งผิด จริง ๆ แล้วก่อนคู่นี้มันมีมาก่อนแล้ว แต่มันอาจจะไม่เป็นที่พูดถึง เพราะว่าคนที่อยู่ในคู่นั้น ไม่ได้ถูกพูดถึงขนาดตอนเป็นคุณปารีณา ทีนี้มาคู่คุณปารีณา อันนี้เรายอมรับคำวิจารณ์ จะมีคนบอกว่าจับคู่มวยไม่ถูกคู่ ยอมรับคำวิจารณ์ เพราะว่าคู่นี้ไม่ได้เกิดจากการเลือกโดยเรา เกิดจากการที่คุณปารีณา จะใช้คำว่าท้าก็ได้ แต่ว่าผ่านสื่อ เราก็เลยได้ลองถามคุณปารีณา ถ้าสมมติจัดได้จะตกลงมาออกรายการไหม แล้วปรากฏว่า 1 ในแกนนำ ขอใช้คำว่าแกนนำนะคะ ก็คือน้องมายด์ตอบรับ ไม่มีเงื่อนไขอะไร ก็เลยเกิดคู่นั้นขึ้น แต่ถ้าจะบอกว่าทำไมเราจับมากระดูกคนละเบอร์ แต่ว่าเราไม่เคยปฏิเสธที่จะบอกเงื่อนไข ทั้งหมดที่เขาจะเจอนะ เราไม่เซอร์ไพรส์แขกค่ะ บอกทั้งหมด คุณเจอใคร กติกาเป็นแบบไหน คุณจะเจอภาวะอะไรบ้าง บอกหมด ให้ตัดสินใจเอง ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นในกรณี เทปของอาจารย์อานนท์กับรุ้ง สำหรับดิฉันนะคะ ไม่เกินคาด
Thairath Talk : คุณกำลังจะบอกว่า เกิดจากความตั้งใจที่อยากจะให้ออกทีวี โดนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ให้ออกไปวิพากษ์วิจารณ์แบบนั้นหรอ
ดิฉันไม่ทราบว่าเจ้าตัวประเมินแบบไหน แต่ว่าในแง่ของทีมงานเราไม่ได้เพิ่งทำงานเป็นวันแรกนะคะเราประเมินได้ เอางี้ให้คำถามสุดได้แค่ไม่เกินคาด ถึงไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
Thairath Talk : คุณอุ๊กับคุณไผ่ล่ะ
อันนั้นเกินคาด
สังคมที่พูดได้ไม่เท่ากัน
"ประเด็นเรื่องของความความรู้สึกมากๆ มันไม่ใช่ความรู้สึกเวลาเราโดนวิจารณ์ แต่มันจะเป็นความรู้สึกที่เรา ในฐานะผู้ดำเนินรายการ รู้สึกต่อแขกรับเชิญ ซึ่งขวัญขอพูดแบบตรงไปตรงมา ขวัญรู้สึกต่อแขกรับเชิญฝ่ายเดียว เพราะกติกามันไม่ได้ถูกใช้อย่างเท่ากันของ 2 ฝั่ง ถ้าเป็นเรื่องเปราะบาง ซึ่งในรูปธรรมหมายถึง ข้อ 3 ของข้อเรียกร้องของฝั่งหนึ่ง ดิฉันใช้คำว่าฝั่งหนึ่งเพราะว่าทางฝั่งของคนที่ต้องการจะออกมาพูด ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องนี้ พูดได้เต็มที่นะคะ ในขนาดที่อีกฝั่งหนึ่งก็คือฝั่งที่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้อง เขาไม่สามารถพูดได้ เพราะอย่างที่เราบอก บางอย่างมันไม่ชิน ฟังแล้วมันระคายหู ดูแล้วมันไม่สบายใจ มันเป็นเรื่องที่ถูกนิยามว่าเปราะบางในสังคม มันก็เลยทำให้คนที่ยืนอยู่กับข้อเรียกร้องนี้ เขาพูดได้ไม่เต็มที่
...
ซึ่งตอนแรกเราตัดสินใจ ยังต้องการให้รายการเดินหน้าต่อไปไหม ถ้าเป็นขวัญ ขวัญเลือกที่จะไม่ ถ้าเราคนเดียวนะ แต่เมื่อเรามีคุยกับทีมงาน ทุกคนก็น้ำเสียงไปค่อนข้างห่วงว่าถ้าจัดไป มันไม่ดีหรอ"
Thairath Talk : สุ่มเสี่ยง?
ใช่ แต่ว่าสิ่งที่เราคิดว่าสำคัญที่สด คือว่าแขกเขาจะมาเหรอ สุดท้ายเราตกลงกันว่า เอาอย่างนี้ เราลองยื่นเงื่อนไขทั้งมด แบบไม่มีเซอร์ไพรส์แขก ทุกอย่างเขารู้ทั้งหมดไป แล้วถ้าเขาเลือกที่จะมา เราจัด แต่จุดสะดุดกับความรู้สึกคือ เรารู้สึกว่าเราทำไประยะหนึ่ง ไอ้ความเปิดเผยของทีมงานกติกาเรามาได้แค่นี้ ต่อแขกเขาตัดสินใจที่จะมาบนกติกาที่ไม่ชอบธรรมสำหรับเขา แต่ผลที่มันเกิดมันแรงกว่าที่เราจะปล่อยผ่าน
เราไม่ได้บอกใครถูกผิดนะ แต่คนกลุ่มหนึ่ง สู้เรื่องความชอบธรรม สู้เรื่องความเท่าเทียมอยู่ แต่เราดันยื่นขอเสนอเป็นกติกาซึ่งไม่เป็นธรรมให้เขา ต่อให้เรารู้ เขาตัดสินใจมาเองนะ ต่อให้เป็นอย่างนั้นก็ตาม แต่เราก็รู้สึกว่าแบบ คือเราเหมือนยัดเยียดให้เขาต้องตัดสินใจ สมมตินะ เราลองแทนใจของคนที่ตัดสินใจมา ตอนนั้นสื่อโดนวิจารณ์เยอะว่าเรื่องพวกนี้ทำไมไม่มีรายงานเลย ทำไมไม่มีสื่อวงกว้างพูดเรื่องนี้เลย เราก็เลยรู้สึกว่า เราต้องทำ พอเราหยิบยื่นโอกาสให้ผู้เรียกร้อง
"เราก็รู้สึกว่ามันยัดเยียดให้เขาต้องตัดสินใจว่าดีกว่าไม่มี ดีกว่าไม่มีพื้นที่ มันเหมือนเราเข้าใจได้ว่าเขาตัดสินใจเอง แต่เรารู้สึกว่าเราดันไปทำให้มันเกิดเงื่อนไขการตัดสินใจนี้รึเปล่า แต่เมื่อไปต่อ ก็ต้องระวังที่สุด นั่นอาจจะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ขวัญพูดถึงเรื่องนี้ชัดเจน แม้กระทั่งตอนดำเนินรายการสดอยู่ว่า เงื่อนไขมันมาแบบไหน แล้วก็เป้าหมายที่บอกก็คือ ขวัญต้องการให้รายการนี้ เป็นสิ่งแสดงออกว่าสังคมของเรามันเป็นอย่างไรอยู่ในตอนนี้"
...
ชมคลิปเพิ่มเติม