ดีลยักษ์หลักล้านล้าน OpenAI ใช้คลาวด์ AWS ไม่พึ่งแค่ Microsoft ขยายโครงสร้างพื้นฐาน ใช้ชิป Nvidia

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ดีลยักษ์หลักล้านล้าน OpenAI ใช้คลาวด์ AWS ไม่พึ่งแค่ Microsoft ขยายโครงสร้างพื้นฐาน ใช้ชิป Nvidia

Date Time: 4 พ.ย. 2568 12:36 น.

Video

อย่ากลัว! วิกฤติใหญ่ยังไม่เกิด หาโอกาสลงทุน กับ กวี ชูกิจเกษม | Thairath Money Night Stand EP.21

Summary

OpenAI ทุ่ม 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.2 ล้านล้านบาท จับมือ Amazon ขยายโครงสร้างพื้นฐานใช้คลาวด์ AWS ส่งสัญญาณชัดปล่อยมือจาก Microsoft ไม่ใช้คลาวด์ของเจ้าเดียวอีกต่อไป พร้อมเดินหน้าต่อจับมือกับบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกหลายเจ้า เพิ่มกำลังรองรับการใช้งาน AI ที่มากขึ้น

Latest


OpenAI ลงนามในข้อตกลงมูลค่ากว่า 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.2 ล้านล้านบาท จับมือ Amazon เตรียมใช้คลาวด์ของ Amazon Web Service หรือ AWS นับเป็นครั้งแรกที่ OpenAI มีดีลร่วมกับผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของโลก ส่งสัญญาณชัดว่าไม่ได้พึ่งแค่ Microsoft เจ้าเดียวอีกต่อไป

ในข้อตกลงครั้งนี้ที่ได้ประกาศออกมาเมื่อวันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา OpenAI จะเริ่มใช้งานโครงสร้างพื้นฐานของ AWS ทันที ซึ่งโครงสร้างนี้จะใช้พลังประมวลผลจากชิปของ Nvidia จำนวนหลายแสนตัว โดยในเฟสแรกของดีลนี้ OpenAI จะใช้งาน Data Center ที่ AWS มีอยู่แล้ว จากนั้น Amazon จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมเพื่อรองรับการใช้งานในอนาคต

หุ้น Amazon ปิดตลาดเมื่อวันจันทร์พุ่งขึ้น 4% ทำสถิติสูงสุดใหม่ เท่ากับว่าเพิ่มขึ้นรวม 14% ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเติบโตดีที่สุดในรอบกว่า 2 ปีนับจากพฤศจิกายน 2022

Dave Brown รองประธานฝ่าย Compute และ Machine Learning ของ AWS กล่าวว่า “นี่คือทรัพยากรแยกเฉพาะสำหรับ OpenAI บางส่วนพร้อมใช้งานแล้ว และ OpenAI ก็เริ่มใช้ทันที”


ปล่อยมือ Microsoft เดินหน้าทำดีลใหม่ไม่หยุด

ช่วงหลังมานี้ OpenAI ได้เดินหน้าทำข้อตกลงด้านโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่รวมกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ กับเจ้าใหญ่ของโลกหลายรายที่โลดแล่นอยู่ในตลาด AI ไม่ว่าจะเป็น Nvidia, Broadcom, Oracle และ Google ทำให้เกิดคำเตือนจากหลายฝ่ายว่าอาจเกิด “ฟองสบู่ AI” และตั้งคำถามว่าสหรัฐฯ มีทรัพยากรเพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้ข้อตกลงและแผนของบิ๊กเทคเหล่านี้เป็นจริง

ก่อนหน้านี้ OpenAI มีข้อตกลงด้านคลาวด์แบบพิเศษกับ Microsoft ซึ่งเริ่มสนับสนุนบริษัทตั้งแต่ปี 2019 โดยมีการลงทุนรวมไปแล้วกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Microsoft ได้ยุติสถานะนั้น และเดินหน้าข้อตกลงใหม่กับ OpenAI โดยจะไม่ผูกขาดอีกต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อตกลงที่ทำเมื่อต้นปีก็สิ้นสุดลงอีกครั้ง โดย Microsoft ได้เปิดทางให้ OpenAI สามารถจับมือกับผู้ให้บริการคลาวด์รายอื่นได้อย่างอิสระ 

แม้ว่าก่อนหน้านี้ OpenAI จะได้ทำดีลกับ Oracle และ Google ที่เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ด้วยแล้ว แต่ AWS ก็ยังคงเป็นผู้นำตลาดรายใหญ่ที่สุด

Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI กล่าวว่า “การพัฒนา AI ระดับล้ำสมัยต้องการกำลังประมวลผลขนาดมหาศาลและเชื่อถือได้ ความร่วมมือกับ AWS จะช่วยเสริมระบบนิเวศด้าน Compute และนำ AI ขั้นสูงสู่ผู้คนทั่วโลก”

อย่างไรก็ตาม OpenAI ยังจะใช้งบกับ Microsoft จำนวนมาก โดยเพิ่งยืนยันว่าจะซื้อบริการ Azure เพิ่มอีก 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


ดีลใหม่กับ AWS จะทำอะไรบ้าง?

สำหรับ Amazon ดีลนี้มีความสำคัญมาก ทั้งจากมูลค่าดีลและในแง่ของการแข่งขัน เพราะ Amazon เองก็ลงทุนไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ใน Anthropic คู่แข่งของ OpenAI โดย Amazon ได้เดินหน้าก่อสร้าง Data Center มูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรัฐอินเดียนาเพื่อรองรับงานของ Anthropic โดยเฉพาะ

ยอดขายของ AWS ไตรมาสล่าสุดเติบโตมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงกว่าคาดการณ์นักวิเคราะห์ แม้ว่า Microsoft และ Google ยังเติบโตเร็วกว่าที่ 40% และ 34% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ภายใต้ข้อตกลงนี้ OpenAI จะใช้งานเฉพาะชิปของ Nvidia ซึ่งรวมถึงรุ่น Blackwell สองรุ่น แต่อนาคตอาจเพิ่มการใช้ชิปอื่น เช่น Trainium ซึ่ง Amazon พัฒนาเองและที่ Anthropic ใช้งานอยู่

โครงสร้างพื้นฐานนี้จะรองรับทั้งงาน Inference เช่น การตอบแบบเรียลไทม์ของ ChatGPT และการฝึกโมเดลรุ่นใหม่ในอนาคต โดย OpenAI สามารถขยายการใช้งานกับ AWS ได้ในช่วง 7 ปีข้างหน้า แต่แผนหลังปี 2026 ยังไม่สรุป

โมเดลหลักของ OpenAI รวมถึงโมเดล Open-Weight สามารถใช้งานบน AWS Bedrock อยู่แล้ว โดยบริษัทต่าง ๆ เช่น Peloton, Thomson Reuters, Comscore และ Triomics ใช้โมเดลของ OpenAI บน AWS สำหรับงานโค้ดดิ้ง คำนวณ วิเคราะห์วิทยาศาสตร์ และระบบ agent

ประกาศครั้งนี้ทำให้ OpenAI กลายเป็นลูกค้าโดยตรงของ AWS อย่างเป็นทางการ และสำหรับ OpenAI ดีลนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งเพื่อเตรียมเข้าสู่ตลาดหุ้น ผ่านการกระจายผู้ให้บริการคลาวด์และดึงทรัพยากรระยะยาวจากหลายราย เพื่อแสดงออกว่าบริษัทมีความเป็นอิสระและมีความพร้อมในการดำเนินงาน


ที่มา: CNBC


ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ