จับตา Strategy กำไรดีแต่มีกังวล นักวิเคราะห์หั่นเป้า ชี้พรีเมียมหด มูลค่าบริษัทเริ่มสั่นคลอน

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จับตา Strategy กำไรดีแต่มีกังวล นักวิเคราะห์หั่นเป้า ชี้พรีเมียมหด มูลค่าบริษัทเริ่มสั่นคลอน

Date Time: 3 พ.ย. 2568 16:32 น.

Video

SAWAKAMI บลจ.ญี่ปุ่นบุกไทย | BrandStory Exclusive EP.26

Summary

Strategy บริษัทที่ถือบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรอง เผยผลประกอบการ Q3/2025 ดีเกินคาด แต่นักวิเคราะห์กังวล หลังมูลค่าบิตคอยน์ลดลงต่อเนื่อง เล็งหั่นเป้า เนื่องจากพรีเมียมเริ่มหดตัวลง อาจส่งผลกระทบกับมูลค่าบริษัท

Strategy Inc. บริษัทที่ถือบิตคอยน์ (Bitcoin) เป็นสินทรัพย์สำรอง ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2025 กำไรสุทธิสูงกว่าคาด อยู่ที่ 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ลดลงมาจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ที่ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุมาจากมูลค่าบิตคอยน์ที่เคยพุ่งจนทำสถิติใหม่ในช่วงก่อนเริ่มชะลอตัว ส่งผลให้มูลค่าพรีเมียม (Valuation Premium) ของบริษัทเริ่มหดตัวลง

Strategy หรือชื่อเดิม Microstrategy เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก ก่อตั้งโดย Michael Saylor เป็นหัวเรือใหญ่ที่ปรับรูปแบบบริษัทมาถือบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรองในปี 2020 จนทำให้ทั้งวอลสตรีทต้องจับตามอง เนื่องจากการปรับทิศทางครั้งนั้น Strategy กลายมาเป็นผู้ถือบิตคอยน์รายใหญ่ที่สุดของโลก และราคาหุ้นของบริษัทก็ไม่ได้สะท้อนกำไรบริษัทเป็นหลักอีกต่อไป แต่จะไปขึ้นอยู่กับมูลค่าบิตคอยน์ที่ถืออยู่ ผ่านตัวชี้วัดที่เรียกว่า mNAV (Market-Adjusted Net Asset Value)


ผลประกอบการ Q3/2025 ดีเกินคาด

ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทระบุว่า มีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 3,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรสุทธิที่ 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

โดยระหว่างวันที่ 20-26 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทได้ซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 390 BTC ทำให้ถือบิตคอยน์ทั้งหมดอยู่ที่ 640,808 BTC รวมมูลค่าเป็น 47,440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 74,032 ต่อบิตคอยน์ โดยในปี 2025 ที่ผ่านมาถึงปัจจุบันผลตอบแทนจากบิตคอยน์อยู่ที่ 26% และกำไรจากบิตคอยน์ตั้งแต่ต้นปีถึงตอนนี้อยู่ที่ 12,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ถึงแม้กำไรจะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ตัวเลขก็ยังออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด โดยบริษัททำกำไรต่อหุ้นแบบ Diluted ได้ 8.42 ดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าเป้าที่คาดไว้ที่ 8.15 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ไตรมาสนี้ถือว่าเป็นไตรมาสที่ผลประกอบการอ่อนที่สุดนับตั้งแต่บริษัทเริ่มใช้มาตรฐานบัญชีแบบบันทึกตามมูลค่ายุติธรรมของบิตคอยน์ (Fair-Value Accounting)ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ราคาหุ้น Strategy ปิดตลาดวันพุธสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับประมาณ 254 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือน แต่หลังประกาศงบหุ้นก็ดีดขึ้นประมาณ 4% ในการซื้อขายหลังตลาดปิด ขณะที่ราคาบิตคอยน์อยู่ใกล้ระดับ 107,000 ดอลลาร์ หรือลดลงราว 15% จากจุด All-Time High เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม

การร่วงของราคาบิตคอยน์ทำให้ตัวคูณ mNAV ของ Strategy ลดลงมาเหลือประมาณ 1.2 เท่า ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 และต่ำมากเมื่อเทียบกับระดับจุดสูงสุด 3.9 เท่าเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ตอนที่บิตคอยน์พุ่งจากต่ำกว่า 70,000 ดอลลาร์สหรัฐไปใกล้ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐหลัง Donald Trump ชนะเลือกตั้ง จนทำให้มูลค่าหุ้น Strategy พุ่งขึ้นแรง


นักวิเคราะห์ปรับลด Price Target

แต่แม้ตัวเลขผลประกอบการจะออกมาดี ก็ยังไม่สามารถทำให้นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทบางรายคลายกังวลได้ โดยมีนักวิเคราะห์จากค่ายต่าง ๆ อย่างเช่น Cantor Fitzgerald, TD Cowen และ Maxim Group ได้ออกมาปรับลดราคาเป้าหมาย (Price Target) ของบริษัทลง สาเหตุหลักมาจากความกังวลต่อแนวโน้มช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะประเด็น พรีเมียมหุ้น (Premium) ของ Strategy ที่เมื่อเทียบกับมูลค่าบิตคอยน์ยังคงหดตัวลงเรื่อย ๆ

Lance Vitanza นักวิเคราะห์จาก TD Cowen ระบุในรายงานว่า “หลังจากทำผลงานดีมาก 3 ไตรมาสติดกัน ไตรมาส 4 กลับเริ่มต้นแบบช้า ๆ ราคาบิตคอยน์ขึ้นไม่แรงเหมือนเดิม และส่วนต่างพรีเมียมของบริษัทก็ลดลงแรง ทำให้บริษัทระดมทุนช้าลง และผลตอบแทนจากบิตคอยน์ตั้งแต่ต้นไตรมาสจนถึงตอนนี้อยู่ในระดับแค่ ‘หน่วย basis points’ ไม่ใช่ ‘เปอร์เซ็นต์’ เหมือนก่อนหน้า”

ด้าน Brett Knoblauch นักวิเคราะห์จาก Cantor Fitzgerald ระบุว่า “พรีเมียม mNAV ที่ลดลง ทำให้ความสามารถในการสร้างผลตอบแทนจากตลาดทุนของ Strategy ลดลง และส่งผลให้มูลค่าบริษัทลดลงด้วย ทั้งนี้ตัวเลข mNAV เคยต่ำกว่า 1 มาก่อนแล้ว ตอนช่วงวิกฤติ Terra-Luna ก่อนจะฟื้นตัวกลับขึ้นมา”

อย่างไรก็ตาม Strategy ยังคงใช้หุ้นบุริมสิทธิที่ให้ผลตอบแทนสูงเป็นช่องทางหลักในการระดมทุนซื้อบิตคอยน์เพิ่ม โดยไม่ต้องออกหุ้นสามัญเพิ่ม หุ้นเหล่านี้อยู่ภายใต้ชื่อย่อย เช่น STRC, STRF, STRK และ STRD ซึ่งให้เงินปันผลแบบคงที่หรือแบบปรับตามอัตราดอกเบี้ย และซื้อขายแยกจากหุ้นสามัญ

บริษัทประกาศว่าจะเพิ่มอัตราเงินปันผลของหุ้น STRC แบบอัตราลอยตัวเป็น 10.5% ในเดือนพฤศจิกายน จากระดับ 10.25% เดือนก่อน

การเพิ่มผลตอบแทนช่วยดึงดูดนักลงทุนในช่วงที่ราคาหุ้นอ่อนตัว โดยเงินปันผลส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากกระแสเงินสดของบริษัท แต่เป็นเงินทุนจากการออกหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นใหม่ ซึ่งทำให้ Strategy สามารถซื้อบิตคอยน์เพิ่มต่อไปได้ แม้ราคาหุ้นและค่าพรีเมียม mNAV จะลดลงก็ตาม


ถูกตั้งคำถาม ผลประกอบการ “ต้มตุ๋น” หรือไม่?

Peter Schiff โบรกเกอร์ผู้สนับสนุนทองคำตัวยง ออกมาโพสต์ผ่าน X กล่าวโจมตีว่าบริษัท Strategy พึ่งพาการพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์มากเกินไป และมองว่าผลประกอบการที่ประกาศออกมานั้นเป็น “การฉ้อโกง” (Fraud) โดยอ้างว่าตัวเลขกำไรสุทธิ 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรต่อหุ้นแบบ Diluted ที่บริษัทประกาศนั้นสะท้อนกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นของบิตคอยน์

หรือพูดง่าย ๆ คือ Peter Schiff กล่าวหาว่าบริษัทที่นำโดย Michael Saylor รายงานผลประกอบการไม่ตรงกับความเป็นจริง

Peter Schiff ยังมองอีกด้วยว่า “ประมาณการผลประกอบการทั้งปี 2025 ของ Strategy เป็นเพียงการคาดหวังว่าราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นต่อไปจนถึงสิ้นปี” 

ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ Brett Knoblauch มองว่า “หาก Strategy ต้องการทำรายได้จากการดำเนินงานไตรมาส 4 ได้ตามเป้าประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ราคาบิตคอยน์จะต้องขึ้นไปถึง 150,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี แต่ตอนนี้ราคายังอยู่เพียงระดับกว่า 110,000 ดอลลาร์สหรัฐ และยังไม่เคยขึ้นไปเกิน 127,000 ดอลลาร์สหรัฐเลย”




ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ