
Anthropic ผู้พัฒนาโมเดล AI ชื่อดัง “Claude” คู่แข่ง OpenAI ประกาศขยายความร่วมมือกับ Google Cloud มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะทำให้ Anthropic เข้าถึงหน่วยประมวลผลเฉพาะทาง Tensor Processing Units (TPUs) ของ Google ได้มากถึง 1 ล้านตัว ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับ Anthropic ในการวิจัยและพัฒนา AI พร้อมทั้งเพิ่มกำลังประมวลผลรวมกว่า 1 กิกะวัตต์ภายในปี 2026
การเดินเกมของ Anthropic ครั้งนี้ถือเป็นการขยับอย่างเงียบๆ แต่ทรงพลัง ด้วยยุทธศาสตร์ที่เน้นประสิทธิภาพ ความหลากหลาย และการเติบโตในตลาดลูกค้าองค์กร มากกว่าการสร้างกระแส ขณะเดียวกันที่คู่แข่งอย่าง OpenAI กำลังเดิมพันใหญ่กับโครงการ “Stargate” ขนาด 33 กิกะวัตต์เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
Anthropic เป็นหนึ่งในบริษัทผู้พัฒนา AI ที่เลือกใช้แนวทาง Multi-Cloud Architecture เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพ โดยโมเดลตระกูล Claude ของบริษัทจะรันอยู่บนหลายแพลตฟอร์ม ได้แก่
แนวทางนี้ช่วยให้ Anthropic ปรับสมดุลทั้งเรื่อง ต้นทุน-ประสิทธิภาพ-การใช้พลังงาน ได้อย่างเหมาะสม และยังทำให้ Anthropic สร้างพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์กับทั้งสามผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมคลาวด์ ซึ่งผู้ใกล้ชิดกับกลยุทธ์โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทเผยว่า ทุก ๆ 1 ดอลลาร์ของการประมวลผลของ Anthropic ให้ผลตอบแทนสูงกว่าบริษัทที่ใช้ระบบผู้ให้บริการรายเดียว
Thomas Kurian ซีอีโอของ Google Cloud กล่าวยืนยันถึงประสิทธิภาพของดีลนี้ว่า การที่ Anthropic เลือกขยายการใช้ TPU อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้เห็นถึงความคุ้มค่าด้านราคาและประสิทธิภาพที่ทีมของพวกเขาได้รับมาตลอดหลายปี โดยดีลนี้ยังถือเป็นข้อตกลงด้าน TPU ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทจนถึงปัจจุบันอีกด้วย
ทั้งนี้แม้ Google จะกลายมาเป็นผู้ขับเคลื่อนการขยายกำลังประมวลผล AI ครั้งใหญ่ของ Anthropic แต่ AWS ยังคงเป็นพันธมิตรเชิงโครงสร้างหลักของบริษัท โดยได้ลงทุนใน Anthropic แล้วกว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าที่ Google ลงทุนไว้ (3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ถึงสองเท่า อย่างไรก็ตาม Google ยังมีหุ้นที่ถืออยู่ราว 10%
โดย AWS จะยังเป็นคลาวด์หลักของ Anthropic และพัฒนา Project Rainier ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เฉพาะทางสำหรับ Claude ที่ใช้ชิป Trainium 2 ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มพลังประมวลผลต่อดอลลาร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นักวิเคราะห์จาก Rothschild & Co Redburn ได้มีการประเมินไว้ว่า Anthropic มีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตของ AWS ราว 1-2% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา และอาจเพิ่มขึ้นถึงกว่า 5% ในครึ่งหลังของปี 2025 ด้าน Scott Devitt จาก Wedbush เสริมว่า เมื่อ Claude กลายเป็นเครื่องมือหลักของนักพัฒนาองค์กร รายได้ที่เกิดจากการใช้งานจะไหลตรงเข้าสู่ AWS ซึ่งจะผลักดันการเติบโตของ AWS ต่อเนื่องอีกหลายปีข้างหน้า
Anthropic ยังคงยืนยันว่าแม้จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ Google และ AWS แต่บริษัทไม่ได้มีพันธสัญญาผูกขาดกับผู้ให้บริการคลาวด์รายใด และยังคงควบคุมโมเดล ข้อมูลลูกค้า และการกำหนดราคาด้วยตนเอง
แนวทางการบริหารทรัพยากรคอมพิวต์ของบริษัทอาศัยโครงสร้างแบบ Multi-Platform Approach ได้กลายเป็นจุดแข็งสำคัญของ Anthropic สะท้อนจากสถานการณ์ครั้งล่าสุดที่ AWS ล่มทั่วโลกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งบริการของ Claude ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากเหตุการณ์นั้น ระบบยังคงทำงานได้ปกติ
กลยุทธ์เป็นกลางแต่ยืดหยุ่นนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญของ Anthropic รวมถึงผู้พัฒนา AI เจ้าอื่นในยุคที่การแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการคลาวด์ยักษ์ใหญ่ร้อนแรงไม่แพ้กันในขณะนี้
ที่ผ่านมาความต้องการใช้ทรัพยากรประมวลผลของ Anthropic เพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปัจจุบันบริษัทมีรายได้ต่อปีในอัตรา (Run Rate) ใกล้แตะ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และโมเดล Claude ถูกใช้งานโดยกว่า 300,000 ธุรกิจทั่วโลก เพิ่มขึ้นกว่า 300 เท่าในรอบ 2 ปี
จำนวนลูกค้ารายใหญ่ที่มีรายได้ต่อปีเกิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่าในปีที่ผ่านมา ขณะที่ผลิตภัณฑ์ “Claude Code” ซึ่งเป็นผู้ช่วยด้านโค้ดดิ้งแบบอัตโนมัติ ทำรายได้ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีภายในเพียง 2 เดือนหลังเปิดตัว ซึ่ง Anthropic ยกให้เป็น “ผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์”
Krishna Rao ซีเอฟโอของ Anthropic ระบุว่า Anthropic และ Google มีความร่วมมือที่ยาวนาน การขยายครั้งนี้จะช่วยให้เรามีกำลังคอมพิวต์เพียงพอในการนิยาม ‘แนวหน้าของ AI’ ต่อไป ลูกค้าของเราตั้งแต่บริษัท Fortune 500 ไปจนถึงสตาร์ทอัพ AI-Native ต่างพึ่งพา Claude สำหรับงานที่สำคัญที่สุดของพวกเขา
Anthropic จะลงทุนต่อเนื่องในโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ Claude และโมเดลในอนาคตสามารถทำงานได้อย่างล้ำสมัยและตอบสนองต่อความต้องการที่เติบโตแบบทวีคูณ พร้อมรักษาความล้ำหน้าของโมเดลไว้ได้ต่อไป
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -