จับตา Spotify หลัง CEO ลาออกเปิดทางผู้บริหารรุ่นใหม่ พลิกโฉมสตรีมมิงเพลงมูลค่า 1.5 แสนล้าน

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จับตา Spotify หลัง CEO ลาออกเปิดทางผู้บริหารรุ่นใหม่ พลิกโฉมสตรีมมิงเพลงมูลค่า 1.5 แสนล้าน

Date Time: 1 ต.ค. 2568 14:07 น.

Video

อธิบายทีเดียวว่า ทำไมฟองสบู่ AI จะไม่แตกซ้ำรอยดอทคอม? | Digital Frontiers EP.51

Summary

จับตาการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญหลัง 20 ปี ของ Spotify สตาร์ตอัพสตอกโฮล์มสู่แพลตฟอร์มสตรีมมิงดนตรีมูลค่า 1.5 แสนล้าดอลลาร์สหรัฐ วางแผนปรับโฉมจากทีมผู้บริหารรุ่นใหม่

Latest


Daniel Ek ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Spotify ประกาศก้าวลงจากตำแหน่ง หลังนั่งเก้าอี้บริหารมานานเกือบ 20 ปี โดยจะเปลี่ยนบทบาทไปเป็น Executive Chairman ขณะที่ Alex Norström (Chief Business Officer) และ Gustav Söderström (Chief Product & Technology Officer) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานร่วมจะก้าวขึ้นเป็น Co-CEOs ของบริษัท โดยเริ่มมีผลวันที่ 1 มกราคม 2026 เป็นต้นไป

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องฉับพลัน แต่เป็นแผนที่ Spotify เตรียมไว้หลายปีแล้ว โดยตั้งแต่ปี 2023 Ek ได้โปรโมต Norström ที่ดูแลด้านธุรกิจการตลาด และ Söderström วิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ ขึ้นมาเป็นประธานร่วมเพื่อเพิ่มบทบาทและเสริมประสบการณ์ด้านภาวะผู้นำ ก่อนส่งไม้ต่ออย่างเป็นทางการในปีหน้า

แม้จะก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอแต่ Ek จะยังคงมีบทบาทสำคัญในระยะยาว โดยมุ่งทำงานด้านกลยุทธ์ การจัดสรรเงินทุนและการลงทุนขนาดใหญ่ โดย Co-CEOs ทั้งสองคนจะเป็นผู้บริหารและตัดสินใจทางธุรกิจ โดย Ek เองแม้จะถอยจากบทบาท CEO แต่ยังคงเดินหน้าเส้นทางผู้ประกอบการและนักลงทุน ผ่านบริษัทลงทุน Prima Materia ที่เขาร่วมก่อตั้งในปี 2021 ซึ่งเน้นลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เทคโนโลยีสายสุขภาพและป้องกันประเทศ

ความท้าทายใหม่ Spotify 

การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมเพลง โดยเฉพาะการเติบโตของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่เริ่มชะลอตัวในตลาดหลัก ขณะเดียวกันกระแสเพลงที่สร้างโดย AI ที่ทำให้วงการเพลงต้องเร่งหากลไกควบคุมและสร้างมูลค่าเพิ่ม กดดันให้ค่ายเพลงและผู้ถือลิขสิทธิ์ รวมถึง Spotify ต้องพัฒนาบริการแบบพรีเมียมใหม่ที่ตั้งราคาสูงขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มแฟนพันธุ์แท้และพยายามผลักดันผู้ใช้ฟรีให้กลายเป็นผู้สมัครสมาชิก

นอกจากนี้ Spotify ยังเผชิญกับแรงกดดันด้านลิขสิทธิ์ เช่น คดีความเกี่ยวกับแพ็กเกจรวมเพลงกับออดิโอบุ๊กที่ช่วยลดค่าลิขสิทธิ์เพลง และการต่อต้านจากผู้บริโภคที่ไม่เห็นด้วยต่อเงื่อนไขในการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ศิลปิน ซึ่งอาจส่งผลต่อรายได้ของศิลปิน รวมถึงการเปรียบเทียบเรื่องคุณภาพเสียงกับบริการอื่นๆ ที่มีคุณภาพมากกว่า

จากสตาร์ตอัพสตอกโฮล์ม สู่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งดนตรีอันดับหนึ่ง

เกือบยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา Spotify ได้เปลี่ยนโฉมหน้าการฟังเพลงของโลก จากวันที่ Daniel Ek และ Martin Lorentzon ก่อตั้งสตาร์ตอัพที่สตอกโฮล์มในปี 2006 เพื่อแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงและวิกฤตยอดขายซีดีและเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งอย่างเป็นทางการในยุโรปราว โดยหลังจากนั้นในปี 2011 ที่เปิดตัวในตลาดสหรัฐฯ ได้กลายจุดเปลี่ยนใหญ่ที่ทำให้ Spotify ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

แม้ต้องเผชิญการแข่งขันจากสตรีมมิ่งรุ่นเก๋าอย่าง Apple Music รวมถึงยักษ์ใหญ่แพลตฟอร์มที่ให้บริการวิดีโอคอนเทนต์อย่าง Youtube แต่ Spotify สามารถเพิ่มผู้ใช้งานจนทะลุ 75 ล้านรายในปี 2015 และสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กด้วยวิธี Direct Listing ที่แหวกแนว ไม่ใช้ธนาคารลงทุนกำหนดราคา IPO และทำให้ Spotify ได้ทุนในการขยายธุรกิจสู่ Podcast และ Audio Content ในเวลาต่อมา

จนถึงปัจจุบัน Spotify กลายเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลงยอดนิยมทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้และส่วนแบ่งตลาดโดยรวม โดยตัวเลขล่าสุดปี 2025 มูลค่าตลาดพุ่งเกิน 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 4.8 ล้านล้านบาท ขณะที่ผู้ใช้งานอยู่ที่เกือบ 700 ล้านรายต่อเดือน และผู้สมัครสมาชิกแบบพรีเมียมกว่า 276 ล้านราย

โดยตลอดปี 2025 หุ้น Spotify พุ่งขึ้นกว่า 50% นักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อมาตรการรัดเข็มขัดในช่วงสองปีที่ผ่านมา ทั้งการปรับโครงสร้างธุรกิจพอดแคสต์ ลดพนักงาน และสร้างรายได้ใหม่ ๆ เช่น บันเดิล แพ็กเกจฟังเพลง+ออดิโอบุ๊ก ที่ช่วยประหยัดค่าลิขสิทธิ์เพลงนับสิบล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะเผชิญการฟ้องร้องจากผู้แต่งเพลงอยู่ในปัจจุบัน

การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ไม่ใช่การถอยออกของ Ek แต่คือการปรับบทบาทเพื่อให้ Spotify ได้ทั้ง พลังของผู้ก่อตั้งและความสดใหม่จากทีมผู้บริหารรุ่นใหม่

โดย Co-CEOs ทั้งสองประกาศชัดว่า Spotify ยังคงมีภารกิจไม่เปลี่ยน การเป็นแพลตฟอร์มที่ปฏิวัติการฟัง และเชื่อมผู้ฟังเข้ากับเสียงดนตรีและคอนเทนต์จากทั่วโลก โดยมีการตั้งเป้าขยายตลาดสู่ภูมิภาคแอฟริกาและเอเชีย พร้อมทั้งมองโอกาสจากเทคโนโลยี AI ที่จะเปลี่ยนแปลงการฟังเพลง และสร้างรูปแบบการบริโภคคอนเทนต์ใหม่ๆ โดยเฉพาะวิดีโอคอนเทนต์ เช่น มิวสิกวิดีโอและพอดแคสต์



ที่มาข้อมูล CNBC , Forbes  , Bloomberg 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ