หมดยุค 7 นางฟ้า? นักลงทุนเสนอ “หุ้นชุดใหม่” ดัน Oracle-Palantir-Broadcom เข้ากลุ่มผู้นำ

Bloomberg รายงานว่า ยุคของ Magnificent Seven หรือหุ้น 7 นางฟ้าที่ครองตลาดหุ้นมายาวนานกำลังสั่นคลอน เนื่องจากนักลงทุนใน Wall Street กำลังเสนอปรับรายชื่อชุดใหม่ ๆ อย่างเช่น Great Eight (8 หุ้นชั้นยอด) Golden Dozen (12 หุ้นทองคำ) หรือ TenAI of GenAI (10 หุ้นแห่งยุค Generative AI) เข้ามาแทนที่

ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัว โลกก็ก้าวเข้าสู่ยุคที่มีการแข่งขันด้าน AI อย่างเต็มตัว โดยมีหนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่ฮิตที่สุดก็คือ “การซื้อหุ้น Mag Seven” หรือหุ้นของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่โดดเด่น 7 ราย ประกอบด้วย Nvidia, Microsoft, Apple, Alphabet (Google), Amazon, Meta และ Tesla ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของอนาคตเทคโนโลยีและสามารถสร้างผลตอบแทนมหาศาล

แต่เรื่องกลับไม่ได้เป็นไปตามสูตรเดิมทั้งหมด เพราะเทรนด์ AI ได้ขยายไปไกลกว่าบิ๊กเทค 7 ตัวนี้แล้ว ทำให้เกิดหุ้นดาวรุ่งหน้าใหม่ อย่างเช่น Broadcom, Oracle และ Palantir ที่เริ่มเข้ามาแย่งซีน ทำให้นักลงทุนที่ยึดติดกับ Mag Seven เพียงอย่างเดียวอาจพลาดโอกาสใหม่ ๆ ไป

ไม่ใช่ผู้ชนะตลอดไป

ตามรายงานของ Bloomberg ได้ไปพูดคุยกับ Chris Smith ผู้จัดการพอร์ตมูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐของ Artisan Partners เขาอธิบายว่า “แค่ Mag Seven เคยชนะในรอบเทคโนโลยีเก่า ๆ อย่างยุคมือถือ อินเทอร์เน็ต และอีคอมเมิร์ซ ก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะชนะในรอบ AI นี้”

เขามองว่า ผู้ชนะใหม่คือบริษัทที่สามารถบุกตลาดขนาดใหญ่แบบไร้ขีดจำกัดผ่าน AI และอาจกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่กว่า Mag Seven ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า Mag Seven ก็ยังคงเป็นยักษ์ใหญ่ของตลาด เพราะยังคงครองสัดส่วนกว่า 35% ใน S&P 500 และยังมีคาดการณ์จาก Bloomberg ด้วยว่า กำไรของกลุ่มนี้ยังโตต่อได้ 15% ในปี 2026 พร้อมรายได้เพิ่มอีก 13%

แต่ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมา ผลตอบแทนหุ้น 7 นางฟ้าจะเห็นการแตกขั้วอย่างชัดเจน ในขณะที่หุ้นของ Nvidia, Alphabet, Meta และ Microsoft พุ่งขึ้น 21%-33%ในปีนี้ ฝั่งของ Apple, Amazon และ Tesla กลับย่ำแย่และถูกตั้งคำถามเรื่องศักยภาพในยุค AI

“ตอนนี้ Mag Seven ไม่ใช่ตัวแทนที่ดีที่สุดของ AI อีกต่อไป” Chris Smith กล่าว

Wall Street เสนอชื่อกลุ่มใหม่

เพื่อจับทิศทางผู้ชนะตัวจริง นักวิเคราะห์หลายสำนักเริ่มตั้งชื่อใหม่ ๆ อย่างเช่น

• Fab Four: ให้เหลือแค่ Nvidia, Microsoft, Meta และ Amazon
• Big Six: ตัด Tesla ทิ้ง
• Elite 8: ดึง Broadcom เข้าร่วมใน Mag Seven เพราะตอนนี้ขึ้นเป็นบริษัทใหญ่อันดับ 7 ของสหรัฐฯ แล้ว (ตามข้อมูลของ Bloomberg)

แต่ไม่ว่าชื่อไหนก็ยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด เนื่องจากยังมีหุ้นเด่น ๆ ในวงการเทคอยู่อีก นั่นคือ Oracle ที่ปีนี้หุ้นพุ่งกว่า 75% จากธุรกิจคลาวด์ด้าน AI และ Palantir กลายเป็นหุ้นแชมป์ของ Nasdaq 100 ด้วยการพุ่งแรง 135% ในปี 2025

Jurrien Timmer ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐศาสตร์มหภาคระดับโลกจาก Fidelity กล่าวว่า “บริษัทบางแห่งอาจใหญ่เกินกว่าที่จะมองข้ามได้ เมื่อ AI กำลังพัฒนาไป ผู้ชนะรายใหม่อาจเข้ามาแทนที่ผู้ชนะรายเก่า แม้ว่ารายเก่าจะยังทำผลงานได้ดีอยู่ก็ตาม”

ทั้งนี้ แนวคิดเรื่องการจัดกลุ่มหุ้นอย่าง Magnificent Seven ไม่ใช่เรื่องใหม่ใน Wall Street ซึ่งมักจะสร้างคอลเลกชันหุ้นที่กำลังเป็นกระแสเพื่อทำให้นักลงทุนเข้าใจตลาดได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Nifty Fifty ในยุค 1960, Four Horsemen ในยุคดอทคอม ไปจนถึงกลุ่ม FAANG ที่ครองตลาดในยุคระหว่างสมาร์ทโฟนและ AI ซึ่งสุดท้ายแล้วหุ้นเหล่านี้ก็ต้องเสียตำแหน่งให้กับชื่อใหม่ ๆ ในยุค AI เช่นกัน

นอกจากนี้ เพื่อรับกระแสนี้ Cboe Global Markets ได้ประกาศเปิดตัวฟิวเจอร์สและออปชันบนดัชนีใหม่ ชื่อว่า “Magnificent 10” ที่รวม 7 นางฟ้าตัวเดิม บวกกับ Broadcom, Palantir และ AMD เข้าไปด้วย

โดยหุ้นที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุดในยุค AI รุ่นใหม่ ได้แก่ TSMC, Oracle, Broadcom, Palantir แต่ฝั่งที่เริ่มถูกตีตกไป นั่นคือ Apple และ Tesla แต่ท้ายที่สุดแล้วหุ้น 2 ตัวนี้ก็ยังคงมีลูกค้าที่เหนียวแน่นและกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างยุค AI

ที่มา: Bloomberg

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney