
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (25 กันยายน) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารว่าด้วยเรื่อง “แผนการลงทุนใน TikTok” ที่จะเปิดทางให้นักลงทุนอเมริกัน (American Investors) สามารถเข้าร่วมลงทุนเพื่อให้ TikTok สามารถดำเนินการต่อในสหรัฐอเมริกาได้ และเพื่อให้แยกการทำงานออกมาจากการดูแลของ ByteDance บริษัทแม่จากจีน
ด้าน เจดี แวนซ์ (JD Vance) รองประธานาธิบดีฯ ได้ออกมายืนยันอีกเสียงว่า ดีลนี้อาจทำให้ TikTok สหรัฐฯ มีมูลค่าที่ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะช่วยร่างเรื่องความปลอดภัยใหม่ให้กับแอปฯ วิดีโอสั้นนี้ได้
ข้อมูลในคำสั่งบริหาร ทรัมป์ประกาศว่า ดีลนี้จะยังคงดำเนินไปตามระเบียบเมื่อปี 2024 ที่เรียกร้องให้ ByteDance ของจีนต้องขาย TikTok ออก มิฉะนั้นแอปฯ จะต้องถูกแบนไม่ให้ดำเนินงานในสหรัฐฯ
ทรัมป์ยืนยันว่าได้พูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนแล้ว “ผมได้หารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแล้ว เราคุยกันเรื่อง TikTok และเขาก็ตอบรับว่า ‘เอาเลย’” ทรัมป์กล่าวกับสื่อมวลชนในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว
ภายใต้ดีลสำคัญนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ได้ปักธงแล้วว่า TikTok ในสหรัฐอเมริกาจะต้องแยกธุรกิจออกมาเป็น “กิจการร่วมค้าในสหรัฐ” หรือ US-based Venture โดยจะมีนักลงทุนอเมริกัน (American Investors) เข้าลงทุนเป็นหลัก และ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok จากจีนจะสามารถถือหุ้นได้ไม่เกิน 20% ตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ
แม้ว่ารายชื่อของผู้ที่สนใจจะเข้าลงทุนจะยังไม่ชัดเจน แต่จากรายงานของ CNBC ระบุว่า Oracle บริษัทเทคโนโลยีสำหรับองค์กร หนึ่งในบิ๊กเทคของสหรัฐฯ ร่วมกับ Silver Lake บริษัทด้านการลงทุน และ MGX กองทุนจาดอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทั้ง 3 จะเป็นผู้ลงทุนหลักใน TikTok โดยจะถือหุ้นรวมกันราว 45% และจะเข้าไปนั่งในเก้าอี้บอร์ดบริหารอีกด้วย
ในขณะที่ ByteDance จะได้ถือหุ้นไม่เกิน 20% ส่วนอีก 35% ที่เหลือจะเปิดทางให้บริษัทหรือนักลงทุนอเมริกันที่สนใจเข้าลงทุน
ดีลนี้ยังช่วยลดความกังวลให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ เพราะจากข้อตกลง ข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันจะปลอดภัยขึ้นภายใต้การใช้งานคลาวด์ของ Oracle และคาดว่าจะมีการป้องกันการแทรกแซงของซอฟต์แวร์จากต่างชาติ นอกจากนี้ยังช่วยลดความกดดันระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับจีนลงได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Washington Post รายงานว่า ยังไม่ชัดเจนว่าผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน TikTok ใหม่หรือไม่ แต่ระบบอัลกอริทึมแนะนำเนื้อหาจะยังคงดำเนินการโดย ByteDance ส่วนบริษัทอเมริกันอาจจะต้องเช่าอัลกอริทึมนั้นจาก ByteDance เพื่อนำมาปรับกับ Data ของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ต่อไป และผู้ใช้จะยังคงเข้าถึงเนื้อหาอื่น ๆ จากรอบโลกตามเดิม
ทั้งนี้ ดีลทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จภายใน 120 วัน (นับว่าเป็นการขยายดีลรอบที่ 5 แล้ว) โดยทุกอย่างจะต้องจบก่อนสิ้นเดือนมกราคม ปี 2026
ที่มา: Bloomberg, CNBC, Washington Post
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney