โลกนี้จำเป็นต้องมีiPhone “Made in US” จริงๆ หรอ? เจาะแผน Tim Cook หลบภาษีชิป-รักษาผลประโยชน์ Apple

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

โลกนี้จำเป็นต้องมีiPhone “Made in US” จริงๆ หรอ? เจาะแผน Tim Cook หลบภาษีชิป-รักษาผลประโยชน์ Apple

Date Time: 8 ส.ค. 2568 15:18 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

เจาะเบื้องหลังกลยุทธ์หลบภาษีชิปและรักษาผลประโยชน์ให้ Apple ของ Tim Cook ซีอีโอ การลงทุนนี้ใหม่แค่ไหน? เชื่อมโยงอย่างไรกับเป้าหมายสร้างห่วงโซ่ผลิต “ชิปเซมิคอนดักเตอร์” แบบครบวงจรในสหรัฐอเมริกาและแผนย้ายการผลิต iPhone Made in US

Latest


ท่ามกลางแรงกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้ Apple ย้ายกำลังผลิต iPhone กลับมาในสหรัฐอเมริกา Tim Cook ซีอีโอของ Apple เลือกใช้วิธีเดินเกมสมดุล เยือนทำเนียบขาวจับมือผู้นำประเทศ พร้อมประกาศแผนลงทุน “Apple American Manufacturing Program” มูลค่ารวมแล้ว 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในระยะเวลา 4 ปีต่อจากนี้ เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานแบบครบวงจรในสหรัฐอเมริกา

นักวิเคราะห์มองว่าการประกาศครั้งนี้เป็น “กลยุทธ์หลีกเลี่ยงภาษี” ของ Apple เพื่อลดแรงกดดันจากนโยบายการค้าของทรัมป์ เช่น กรณีล่าสุดที่ทรัมป์ประกาศเตรียมเก็บภาษีชิปในอัตรากว่า 100% สำหรับบริษัทที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ แต่ Apple คือหนึ่งในผู้ที่ได้รับการยกเว้น ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสินค้าที่ต้องใช้ชิปหลายร้อยชนิด 

เบื้องหลังกลยุทธ์หลบภาษีชิปและรักษาผลประโยชน์ให้ Apple 

6 สิงหาคมที่ผ่านมา Tim Cook ซีอีโอ Apple ได้ประกาศลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มอีก 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อเนื่องจากแผนใช้จ่ายมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐที่ประกาศไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ รวมแล้วเป็นมูลค่ากว่า 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Apple จะยังคงพึ่งพาผู้ผลิตเดิม เช่น TSMC, Broadcom และ Texas Instruments ที่ล้วนแล้วแต่มีโรงงานผลิตในสหรัฐฯ 

หัวใจของแผนนี้ คือ “Apple American Manufacturing Program” ที่ดูเผินๆ คือ วิสัยทัศน์ในการสนับสนุนบริษัทอเมริกันในการผลิตชิ้นส่วนชิปและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  อย่างไรก็ตามการลงทุนในรอบนี้ยังเน้นไปที่การสร้างห่วงโซ่การผลิต “ชิปเซมิคอนดักเตอร์” แบบครบวงจรในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเกี่ยวข้องกับแผนย้ายการผลิต iPhone ในประเทศ 

โดย Apple ระบุว่า ปีนี้ Apple จะมีการผลิตชิป 1.9 หมื่นล้านตัวใน 24 โรงงาน ครอบคลุม 12 รัฐ แม้ไม่ได้ระบุตัวเลขเฉพาะของงบชิปโดยตรง พร้อมย้ำว่า “การประกอบขั้นสุดท้าย” ของ iPhone จะยังไม่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ในเร็ววัน ซึ่งทรัมป์ก็ยอมรับว่าการผลิต iPhone ในสหรัฐอเมริกาไม่ใช่แผนระยะสั้น 

คำมั่นดังกล่าวครอบคลุม ทั้งการจัดซื้อจากซัพพลายเออร์ในประเทศ การทำงานกับ Texas Instruments, Applied Materials, Samsung Electronics, GlobalFoundries และ GlobalWafers America ในสายการผลิตชิป การขยายการลงทุนในศูนย์ข้อมูลใน North Carolina, Iowa, Nevada และ Oregon การวิจัยและการจ้างงาน ตลอดจนการผลิตคอนเทนต์ Apple TV+ ใน 20 รัฐ 

อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้ไม่รวมการซื้อหุ้นคืนหรือการเข้าซื้อกิจการ เช่น การลงทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน Corning ผู้ผลิตกระจกสำหรับ iPhone และ Apple Watch และการทำสัญญาหลายปีร่วมกับ Coherent ผู้ผลิตเลเซอร์ ซึ่งทั้งคู่เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของ Apple อยู่แล้ว 

การลงทุนนี้ใหม่แค่ไหน? 

นักวิเคราะห์บางรายอย่าง Jefferies และ Gartner บอกว่ามันยากที่จะเชื่อว่า Apple ลงเงินจริงถึง 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะรวมค่าใช้จ่ายประจำและการซื้อจากซัพพลายเออร์ที่มีอยู่แล้ว และไม่ได้แก้ปัญหาซัพพลายเชนจริง คำว่า “ครบวงจร” ของ Apple ยังคลุมเครือ และการย้ายห่วงโซ่อุปทานชิปทั้งหมดมายังสหรัฐฯ ภายใน 4 ปี เป็นไปไม่ได้ เพราะขั้นตอนสำคัญหลายอย่างยังอยู่เอเชีย 

ด้านนักวิเคราะห์จาก HSBC มองว่าแผนนี้ช่วยให้ Apple เอาชนะใจทรัมป์ได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างซัพพลายเชนมากนัก และยังรักษาผลกำไรไม่ให้กระทบ นอกจากนี้หากคู่แข่งถูกเก็บภาษี แต่ iPhone ได้รับการยกเว้น Apple อาจเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนในสหรัฐฯ ได้ 

จากการประกาศล่าสุด พบว่า หลายโครงการในแผนนี้ เช่น กับ TSMC, Corning, Samsung หรือดาต้าเซ็นเตอร์ เป็นสิ่งที่ Apple ทำอยู่แล้ว เพียงแต่รวมตัวเลขมานำเสนอเป็นแพ็กเกจเดียว ทำให้ได้เครดิตเต็มๆ โดยไม่ต้องใช้เงินเพิ่มมากนัก Apple ยังคงต้องพึ่งพาการลงทุนเดิมของผู้ผลิตชิปต่างชาติ เช่น TSMC ซึ่งแทบผูกขาดการผลิตชิปขั้นสูงทั่วโลก และได้เริ่มผลิตชิปหลายสิบล้านตัวให้กับ Apple จากโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนา ซึ่ง Apple เป็นลูกค้ารายแรกและรายใหญ่ที่สุดของโรงงานนี้ 

แผนลงทุนครั้งนี้สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทเทคยักษ์ใหญ่กับรัฐบาลและวิธีการเจรจาลดแรงกดดันทางการค้า ซึ่งถูกมองว่าจะช่วย Tim Cook ได้ในระยะสั้นถึงกลาง เพราะทำให้ Apple รักษาซัพพลายเชนเดิม ลดโอกาสโดนภาษี และสร้างความพอใจให้ทั้งทรัมป์และนักลงทุนจากตัวเลขลงทุนมหาศาล แต่ในระยะยาว ถ้าสถานการณ์การเมืองหรือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนรุนแรงขึ้น การพึ่งพาเอเชียก็ยังเป็นจุดอ่อนใหญ่ที่แผนนี้ไม่ได้แก้อย่างแท้จริง


อ่านเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล CNBC     , Financial Times  

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ