
Netflix เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พบว่า รายได้เติบโตขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับ 11,080 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ตลอดทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 44,800 - 45,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 43,500 - 44,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการเติบโตของสมาชิกและยอดขายโฆษณาที่แข็งแกร่ง
ที่น่าสังเกตคือ นี่นับเป็นไตรมาสที่สองแล้วที่ Netflix เลือกที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลจำนวนสมาชิกรายไตรมาส โดยระบุในแถลงการณ์ว่า “การเติบโตของรายได้เมื่อเทียบปีต่อปีมีปัจจัยหลักมาจากทั้งการมีสมาชิกมากขึ้น การปรับขึ้นราคาค่าบริการ และรายได้จากโฆษณาที่เพิ่มขึ้น”
โดยตัวเลขผลประกอบการที่น่าสนใจของ Netflix มีดังนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ผลประกอบการจะออกมาแข็งแกร่ง แต่ Netflix ได้ส่งสัญญาณเตือนว่า “อัตรากำไรจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะลดต่ำลงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการตัดจำหน่ายคอนเทนต์ (Content Amortization) และต้นทุนด้านการขายและการตลาดที่สูงขึ้น” เพื่อโปรโมตไลน์อัพคอนเทนต์ฟอร์มยักษ์ที่จะเข้าฉายในช่วงครึ่งปีหลัง
ปัจจัยนี้เองคาดว่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาหุ้น Netflix ปรับตัวลดลงราว 1% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ
สำหรับคอนเทนต์ใหญ่ที่จ่อคิวเข้าฉายในช่วงที่เหลือของปีนี้ ประกอบด้วยซีรีส์และภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอย อย่างเช่น ซีรีส์ Wednesday ซีซั่น 2 ซีซั่นอวสานของซีรีส์ Stranger Things ภาพยนตร์เรื่อง Happy Gilmore 2 และ Frankenstein ของผู้กำกับ Guillermo del Toro
ที่มา: CNBC
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney