มัดรวมโปรดักต์ใหม่ VISA ที่บอกให้รู้ว่าระบบชำระเงินระดับโลกกำลังก้าวไปอีกขั้น

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

มัดรวมโปรดักต์ใหม่ VISA ที่บอกให้รู้ว่าระบบชำระเงินระดับโลกกำลังก้าวไปอีกขั้น

Date Time: 2 มิ.ย. 2568 17:39 น.

Video

พลิกวิกฤติ "หนี้บัตรเครดิต" ยอดเหยียบล้านให้เหลือศูนย์ สไตล์ "มาดามฟินนี่" l Money Secret EP.4

Summary

Visa ขนทัพนวัตกรรมการเงินใหม่ยกระดับ ทลายขอบเขตการชำระเงินให้ผู้บริโภคเข้าถึง Visa ได้ แม้ไม่มีบัตร พร้อมยกระดับการเข้าถึงระบบชำระเงินที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้ในเอเชียแปซิฟิก นำโดย “Visa Intelligent Commerce” ระบบ Agentic Commerce เพื่อนคู่คิดจับจ่ายใช้สอย บริการ Visa Pay เชื่อมกระเป๋าเงินดิจิทัลท้องถิ่น ไปจนถึง Stablecoin-Backed Card

Latest


จากบทบาทผู้ให้บริการเครือข่ายการชำระเงินที่แข็งแกร่งที่สุดรายหนึ่งของโลก วันนี้ Visa กำลังก้าวไปอีกขั้นสู่การเป็น “โครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต” ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีและการเงินระดับโลก

Thairath Money ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน “Visa Asia Pacific Media Showcase 2025” พร้อมเยี่ยมชมนวัตกรรมการเงินล่าสุดที่จัดขึ้น ณ VISA Innovation Center สำนักงานใหญ่ประเทศสิงคโปร์ ที่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และความร่วมมือใหม่ ๆ ที่ทำลายกรอบเดิมของระบบชำระเงินแบบเดิมที่เราเคยรู้จัก ไปจนถึงความสำเร็จในการพัฒนา AI ของ Visa ที่มีบทบาทในการช่วยให้การชำระเงินเกิดขึ้นจริง นำโดยผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม AI อย่าง OpenAI, Anthropic, Perplexity รวมถึงองค์กรธุรกิจ สถาบันการเงิน และผู้ให้บริการชำระเงินดิจิทัลทั่วเอเชีย

“Visa Intelligent Commerce” ดึง AI สู่ระบบนิเวศของ Visa

ภายในงาน Visa เริ่มต้นนำเสนอระบบปฏิบัติการ Agentic Commerce ที่ชื่อว่า “Visa Intelligent Commerce” พร้อมฉายภาพให้เห็นถึงก้าวต่อไปของ “AI-powered commerce” ระบบชำระเงินซึ่งขับเคลื่อนด้วยผู้ช่วย AI ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการค้นหาและซื้อสินค้าของผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก

พร้อมสาธิตให้เห็นว่า AI Agent ในแบบฉบับของ Visa จะเข้ามาช่วยให้การซื้อ-ขายสินค้าในโลกออนไลน์สะดวกมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การค้นหาข้อมูล เลือก เปรียบเทียบ และทำธุรกรรมแทนผู้ใช้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งสร้างความไว้วางใจให้กับทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย รวมถึงธนาคาร ได้มากกว่าที่เคยมีมา

Jack Forestell, Chief Product and Strategy Officer ของ Visa เปิดเผยว่า “Visa กำลังรวมพลังของเครือข่ายระดับโลกเข้ากับความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการชำระเงินในเอเชียแปซิฟิก เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ ๆ ที่จะพลิกโฉมการค้าขายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบชำระเงินด้วย AI ทั่วทั้งภูมิภาค”

Visa Intelligent Commerce ถูกพัฒนาขึ้นมาในรูปแบบของ API ที่จะถูกนำไปใช้บนแพลตฟอร์มพันธมิตรของ Visa เพื่อให้บริการลูกค้าได้ในอีกระดับ จากการพัฒนา Visa’s payments network ร่วมกับพาร์ทเนอร์นักพัฒนาระดับโลก อาทิ Microsoft, OpenAI, Perplexity, Anthropic และ Mistral AI

โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพูดคุยและทดลองร่วมกับสถาบันการเงินและผู้ให้บริการชำระเงินดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหลายเจ้า เพื่อผลักดันใช้งานระบบดังกล่าว โดยมุ่งเน้นการชำระเงินที่ปลอดภัยและไร้รอยต่อ ได้แก่ Ant International ผู้นำระดับโลกด้านการชำระเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีการเงิน, Grab ซูเปอร์แอปชั้นนำของอาเซียน และ Tencent ยักษ์ใหญ่จากจีนผู้พัฒนาแอป Weixin และ WeChat

T.R. Ramachandran, Head of Products and Solutions, Asia Pacific ของ Visa กล่าวเพิ่มเติมว่า Visa ยังคงเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรมการเงินที่จะผลักดันอนาคตของการค้าขายในเอเชียแปซิฟิก โดยเชื่อว่า AI จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ทั้งในการสั่งอาหาร ซื้อบัตรคอนเสิร์ต หรือจองตั๋วเดินทาง

“Visa กำลังก้าวสู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของการค้าด้วย AI ผ่านการผสานระบบ Agentic Commerce เข้ากับแอปที่ทุกคนคุ้นเคยและสามารถใช้บัตร Visa กว่า 4.8 พันล้านใบในการชำระเงินทั่วโลก และเมื่อเรารวมความสามารถของ AI เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่เชื่อถือได้ของ Visa เราจะสามารถมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ไร้รอยต่อ ปลอดภัย และน่าพึงพอใจยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน”

ทลายขอบเขตการชำระเงิน เข้าถึง Visa ได้ แม้ไม่มีบัตร

นอกจากนี้ Visa ยังได้เปิดตัวกองทัพผลิตภัณฑ์ โซลูชัน และความสามารถใหม่ ๆ ที่เพิ่มช่องทางการชำระเงิน เพื่อยกระดับการเข้าถึงระบบชำระเงินที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้ในเอเชียแปซิฟิก โดยเตรียมตัวให้บริการอย่างครบถ้วนเร็ว ๆ นี้ ได้แก่

  • Visa Flex Credential

บัตรแบบใหม่ที่ให้ผู้ใช้ผูกกับหลายบัญชีเพื่อเลือกเข้าถึงแหล่งเงินหรือบัญชีที่หลากหลาย โดยผู้ใช้สามารถสลับโหมดระหว่างเดบิต เครดิต หรืออาจแลกเปลี่ยนคะแนนสะสมระหว่างบัญชีได้ในบัตรเดียว โดยบริการนี้ได้เปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่นกับธนาคาร SMBC และบริษัทย่อย SMCC ในนาม "Olive” ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานแล้วกว่า 5 ล้านราย รวมถึงในเวียดนามที่ร่วมมือกับธนาคารใหญ่ เช่น ACB, VIB, VP Bank นอกจากนี้ยังเล็งขยายการให้บริการที่ครอบคลุมถึงบัญชีสกุลเงินดิจิทัลอีกด้วย

  • Visa Pay

บริการที่จะเชื่อมกระเป๋าเงินดิจิทัลท้องถิ่นใด ๆ กับร้านค้าที่รองรับ Visa เปิดทางให้ผู้ใช้สามารถใช้แอปฯ วอลเล็ตที่มีจ่ายเงินในร้านที่รองรับ Visa ทั่วโลก ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยปัจจุบันกำลังร่วมมือกับ LINE Pay (ไต้หวัน), Maya (ฟิลิปปินส์), OpenRice (ฮ่องกง) และ Woori Card (เกาหลีใต้)

  • Visa Accept

โซลูชันเปิดทางให้ผู้ค้ารายย่อย ทั้งพ่อค้าแม่ค้า ฟรีแลนซ์ ครีเอเตอร์ โดยเปลี่ยนสมาร์ทโฟน (รองรับ NFC) ของผู้ค้ารายย่อยให้กลายเป็นเครื่องรับชำระด้วยบัตรแบบง่าย ๆ ผ่านแอปฯ ของธนาคารที่ร่วมรายการ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ POS โดยลูกค้าสามารถแตะบัตร สแกน QR หรือรับลิงก์ชำระเงิน และผู้ค้าจะได้เงินเข้าบัญชีทันทีผ่าน Visa Direct

  • Stablecoin-Backed Card

ขยายการให้บริการบัตรที่รองรับเงินดิจิทัลประเภท Stablecoin เพื่อให้ผู้บริโภคใช้ stablecoin จ่ายค่าสินค้าและบริการทั่วโลกได้ง่ายเหมือนใช้สกุลเงินปกติ ลดขั้นตอนยุ่งยากในการแปลงเหรียญ และสามารถชำระเป็นสกุลท้องถิ่นได้ทันที โดยบัตรจะรองรับการแปลงสกุลเงินแบบ On/Off-Ramp เชื่อมกับยอดเงินในบัญชีที่ผูกไว้และแปลงค่าเงินแบบเรียลไทม์ พร้อมรองรับการชำระบัญชีตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ โดยปัจจุบันกำลังร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในเอเชีย ได้แก่ DCS Singapore, DTC Pay และ StraitsX เพื่อเปิดใช้งานการซื้อและใช้จ่ายด้วย Stablecoin ผ่านบัตร Visa

  • Digital Identity

โซลูชันการตรวจสอบการยืนยันตัวตนดิจิทัลของผู้ใช้หลายขั้นตอน เช่น Visa Payment Passkeys และ Tap to Confirm พร้อมฟีเจอร์ป้องกันการฉ้อโกงขั้นสูงที่ต้องยืนยันตัวตนก่อนทุกธุรกรรม รวมถึงการเพิ่มการยืนยันตัวผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจากเทคโนโลยีชีวมิติหรือ Bio-Metric เช่น การจ่ายเงินด้วยฝ่ามือ (Palm-to-Pay) ที่กำลังนำร่องทดลองใช้งานที่ประเทศสิงคโปร์ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีโซลูชันที่เคยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ที่มีอยู่ เช่น Tokenisation และ Authentication ที่ใช้โครงสร้างการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยให้ผู้บริโภคควบคุมสิทธิการให้ข้อมูลและการใช้งาน Tokenisation ได้ตลอดเวลาบนแพลตฟอร์ม Visa Tokenized Asset Platform (VTAP) ที่ยังให้บริการออกและจัดการโทเคนดิจิทัลที่รองรับการโอนเงินข้ามพรมแดนอีกด้วย

ในครั้งนี้ Visa ไม่เพียงแค่เปิดตัวกองทัพโซลูชันและผลิตภัณฑ์ใหม่เท่านั้น แต่ยังประกาศพันธกิจระยะยาวในการเป็น “ตัวกลาง" ของโลกการค้ายุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สะท้อนให้เห็นถึงก้าวย่างที่สำคัญของ Visa ในการที่ไม่ได้เป็นเพียงเครือข่ายบัตรอีกต่อไป แต่กำลังก้าวสู่การเป็น โครงสร้างพื้นฐานหลักของโลกการเงินดิจิทัลในอนาคตที่เปิดกว้าง เข้าถึงได้ ปลอดภัย และตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในโลกยุค AI ได้อย่างแท้จริง

อ่านเพิ่มเติม 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ