Visa ขนทัพนวัตกรรมการเงินใหม่ยกระดับ ทลายขอบเขตการชำระเงินให้ผู้บริโภคเข้าถึง Visa ได้ แม้ไม่มีบัตร พร้อมยกระดับการเข้าถึงระบบชำระเงินที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้ในเอเชียแปซิฟิก นำโดย “Visa Intelligent Commerce” ระบบ Agentic Commerce เพื่อนคู่คิดจับจ่ายใช้สอย บริการ Visa Pay เชื่อมกระเป๋าเงินดิจิทัลท้องถิ่น ไปจนถึง Stablecoin-Backed Card
จากบทบาทผู้ให้บริการเครือข่ายการชำระเงินที่แข็งแกร่งที่สุดรายหนึ่งของโลก วันนี้ Visa กำลังก้าวไปอีกขั้นสู่การเป็น “โครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต” ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีและการเงินระดับโลก
Thairath Money ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน “Visa Asia Pacific Media Showcase 2025” พร้อมเยี่ยมชมนวัตกรรมการเงินล่าสุดที่จัดขึ้น ณ VISA Innovation Center สำนักงานใหญ่ประเทศสิงคโปร์ ที่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และความร่วมมือใหม่ ๆ ที่ทำลายกรอบเดิมของระบบชำระเงินแบบเดิมที่เราเคยรู้จัก ไปจนถึงความสำเร็จในการพัฒนา AI ของ Visa ที่มีบทบาทในการช่วยให้การชำระเงินเกิดขึ้นจริง นำโดยผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม AI อย่าง OpenAI, Anthropic, Perplexity รวมถึงองค์กรธุรกิจ สถาบันการเงิน และผู้ให้บริการชำระเงินดิจิทัลทั่วเอเชีย
ภายในงาน Visa เริ่มต้นนำเสนอระบบปฏิบัติการ Agentic Commerce ที่ชื่อว่า “Visa Intelligent Commerce” พร้อมฉายภาพให้เห็นถึงก้าวต่อไปของ “AI-powered commerce” ระบบชำระเงินซึ่งขับเคลื่อนด้วยผู้ช่วย AI ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการค้นหาและซื้อสินค้าของผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก
พร้อมสาธิตให้เห็นว่า AI Agent ในแบบฉบับของ Visa จะเข้ามาช่วยให้การซื้อ-ขายสินค้าในโลกออนไลน์สะดวกมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การค้นหาข้อมูล เลือก เปรียบเทียบ และทำธุรกรรมแทนผู้ใช้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งสร้างความไว้วางใจให้กับทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย รวมถึงธนาคาร ได้มากกว่าที่เคยมีมา
Jack Forestell, Chief Product and Strategy Officer ของ Visa เปิดเผยว่า “Visa กำลังรวมพลังของเครือข่ายระดับโลกเข้ากับความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการชำระเงินในเอเชียแปซิฟิก เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ ๆ ที่จะพลิกโฉมการค้าขายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบชำระเงินด้วย AI ทั่วทั้งภูมิภาค”
Visa Intelligent Commerce ถูกพัฒนาขึ้นมาในรูปแบบของ API ที่จะถูกนำไปใช้บนแพลตฟอร์มพันธมิตรของ Visa เพื่อให้บริการลูกค้าได้ในอีกระดับ จากการพัฒนา Visa’s payments network ร่วมกับพาร์ทเนอร์นักพัฒนาระดับโลก อาทิ Microsoft, OpenAI, Perplexity, Anthropic และ Mistral AI
โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพูดคุยและทดลองร่วมกับสถาบันการเงินและผู้ให้บริการชำระเงินดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหลายเจ้า เพื่อผลักดันใช้งานระบบดังกล่าว โดยมุ่งเน้นการชำระเงินที่ปลอดภัยและไร้รอยต่อ ได้แก่ Ant International ผู้นำระดับโลกด้านการชำระเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีการเงิน, Grab ซูเปอร์แอปชั้นนำของอาเซียน และ Tencent ยักษ์ใหญ่จากจีนผู้พัฒนาแอป Weixin และ WeChat
T.R. Ramachandran, Head of Products and Solutions, Asia Pacific ของ Visa กล่าวเพิ่มเติมว่า Visa ยังคงเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรมการเงินที่จะผลักดันอนาคตของการค้าขายในเอเชียแปซิฟิก โดยเชื่อว่า AI จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ทั้งในการสั่งอาหาร ซื้อบัตรคอนเสิร์ต หรือจองตั๋วเดินทาง
“Visa กำลังก้าวสู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของการค้าด้วย AI ผ่านการผสานระบบ Agentic Commerce เข้ากับแอปที่ทุกคนคุ้นเคยและสามารถใช้บัตร Visa กว่า 4.8 พันล้านใบในการชำระเงินทั่วโลก และเมื่อเรารวมความสามารถของ AI เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่เชื่อถือได้ของ Visa เราจะสามารถมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ไร้รอยต่อ ปลอดภัย และน่าพึงพอใจยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน”
นอกจากนี้ Visa ยังได้เปิดตัวกองทัพผลิตภัณฑ์ โซลูชัน และความสามารถใหม่ ๆ ที่เพิ่มช่องทางการชำระเงิน เพื่อยกระดับการเข้าถึงระบบชำระเงินที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้ในเอเชียแปซิฟิก โดยเตรียมตัวให้บริการอย่างครบถ้วนเร็ว ๆ นี้ ได้แก่
บัตรแบบใหม่ที่ให้ผู้ใช้ผูกกับหลายบัญชีเพื่อเลือกเข้าถึงแหล่งเงินหรือบัญชีที่หลากหลาย โดยผู้ใช้สามารถสลับโหมดระหว่างเดบิต เครดิต หรืออาจแลกเปลี่ยนคะแนนสะสมระหว่างบัญชีได้ในบัตรเดียว โดยบริการนี้ได้เปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่นกับธนาคาร SMBC และบริษัทย่อย SMCC ในนาม "Olive” ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานแล้วกว่า 5 ล้านราย รวมถึงในเวียดนามที่ร่วมมือกับธนาคารใหญ่ เช่น ACB, VIB, VP Bank นอกจากนี้ยังเล็งขยายการให้บริการที่ครอบคลุมถึงบัญชีสกุลเงินดิจิทัลอีกด้วย
บริการที่จะเชื่อมกระเป๋าเงินดิจิทัลท้องถิ่นใด ๆ กับร้านค้าที่รองรับ Visa เปิดทางให้ผู้ใช้สามารถใช้แอปฯ วอลเล็ตที่มีจ่ายเงินในร้านที่รองรับ Visa ทั่วโลก ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยปัจจุบันกำลังร่วมมือกับ LINE Pay (ไต้หวัน), Maya (ฟิลิปปินส์), OpenRice (ฮ่องกง) และ Woori Card (เกาหลีใต้)
โซลูชันเปิดทางให้ผู้ค้ารายย่อย ทั้งพ่อค้าแม่ค้า ฟรีแลนซ์ ครีเอเตอร์ โดยเปลี่ยนสมาร์ทโฟน (รองรับ NFC) ของผู้ค้ารายย่อยให้กลายเป็นเครื่องรับชำระด้วยบัตรแบบง่าย ๆ ผ่านแอปฯ ของธนาคารที่ร่วมรายการ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ POS โดยลูกค้าสามารถแตะบัตร สแกน QR หรือรับลิงก์ชำระเงิน และผู้ค้าจะได้เงินเข้าบัญชีทันทีผ่าน Visa Direct
ขยายการให้บริการบัตรที่รองรับเงินดิจิทัลประเภท Stablecoin เพื่อให้ผู้บริโภคใช้ stablecoin จ่ายค่าสินค้าและบริการทั่วโลกได้ง่ายเหมือนใช้สกุลเงินปกติ ลดขั้นตอนยุ่งยากในการแปลงเหรียญ และสามารถชำระเป็นสกุลท้องถิ่นได้ทันที โดยบัตรจะรองรับการแปลงสกุลเงินแบบ On/Off-Ramp เชื่อมกับยอดเงินในบัญชีที่ผูกไว้และแปลงค่าเงินแบบเรียลไทม์ พร้อมรองรับการชำระบัญชีตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ โดยปัจจุบันกำลังร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในเอเชีย ได้แก่ DCS Singapore, DTC Pay และ StraitsX เพื่อเปิดใช้งานการซื้อและใช้จ่ายด้วย Stablecoin ผ่านบัตร Visa
โซลูชันการตรวจสอบการยืนยันตัวตนดิจิทัลของผู้ใช้หลายขั้นตอน เช่น Visa Payment Passkeys และ Tap to Confirm พร้อมฟีเจอร์ป้องกันการฉ้อโกงขั้นสูงที่ต้องยืนยันตัวตนก่อนทุกธุรกรรม รวมถึงการเพิ่มการยืนยันตัวผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจากเทคโนโลยีชีวมิติหรือ Bio-Metric เช่น การจ่ายเงินด้วยฝ่ามือ (Palm-to-Pay) ที่กำลังนำร่องทดลองใช้งานที่ประเทศสิงคโปร์ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีโซลูชันที่เคยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ที่มีอยู่ เช่น Tokenisation และ Authentication ที่ใช้โครงสร้างการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยให้ผู้บริโภคควบคุมสิทธิการให้ข้อมูลและการใช้งาน Tokenisation ได้ตลอดเวลาบนแพลตฟอร์ม Visa Tokenized Asset Platform (VTAP) ที่ยังให้บริการออกและจัดการโทเคนดิจิทัลที่รองรับการโอนเงินข้ามพรมแดนอีกด้วย
ในครั้งนี้ Visa ไม่เพียงแค่เปิดตัวกองทัพโซลูชันและผลิตภัณฑ์ใหม่เท่านั้น แต่ยังประกาศพันธกิจระยะยาวในการเป็น “ตัวกลาง" ของโลกการค้ายุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สะท้อนให้เห็นถึงก้าวย่างที่สำคัญของ Visa ในการที่ไม่ได้เป็นเพียงเครือข่ายบัตรอีกต่อไป แต่กำลังก้าวสู่การเป็น โครงสร้างพื้นฐานหลักของโลกการเงินดิจิทัลในอนาคตที่เปิดกว้าง เข้าถึงได้ ปลอดภัย และตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในโลกยุค AI ได้อย่างแท้จริง
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -