โอกาสทอง “ซื้อหุ้น AI” กำลังลดราคาเกินจริง Goldman Sachs แนะรีบเข้าก่อนตลาดฟื้น มองธุรกิจยังโต

นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs มองผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในกลุ่ม AI ที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงอาจเป็น “โอกาสทอง” สำหรับนักลงทุนในการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มนี้ หลังจากที่ราคาปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2025 ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ การลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ถือเป็นเทรนด์ร้อนแรงที่ผลักดันตลาดหุ้นโดยรวมให้เติบโตมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ในปี 2025 นี้กลับต้องเผชิญแรงกดดันหลายด้าน ทั้งจากข่าวการพัฒนาโมเดล AI อย่าง DeepSeek ของจีน ที่ทำให้นักลงทุนตั้งคำถามว่า การทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ยังจำเป็นอยู่หรือไม่

นอกจากนี้ ความกังวลยังเพิ่มขึ้นจาก “สงครามการค้า” ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้จุดชนวนอีกครั้ง ด้วยการเก็บภาษีนำเข้ากับจีน ซึ่งสร้างความกังวลในเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย และอาจส่งผลให้บริษัทยักษ์ใหญ่ต้องลดงบลงทุนใน AI อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการทำลายห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีปัจจัยลบรุมเร้า แต่นักวิเคราะห์ Louis Miller เชื่อว่าความกังวลเหล่านี้จะกลับกลายเป็นโอกาสสำคัญ โดยเขาระบุในรายงานว่า “เรามองว่านี่คือโอกาสในการซื้อตอนราคาตก สำหรับกลุ่มหุ้น AI เพราะตอนนี้ตลาดมีความกังวลมากเกินไป”

จากรายงานผลประกอบการของบริษัทใหญ่ในกลุ่ม AI อย่างเช่น Alphabet (Google), Microsoft และ Meta ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในประเด็นที่บริษัทเหล่านี้สามารถควบคุมต้นทุนด้าน AI และยังสามารถดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งได้แม้จะกำลังอยู่ในภาวะไม่แน่นอน

นักวิเคราะห์จาก Goldman ระบุต่อว่า “หุ้นในธีม AI ทุกกลุ่ม ตอนนี้มีมูลค่าถูกกว่าช่วงต้นปี 2025 และปี 2024 และเมื่อดูจากการเติบโตของกำไรเทียบกับราคาหุ้นในกลุ่ม AI จะเห็นว่าหุ้นเหล่านี้ยังถูกมาก ขณะที่กำไรยังคงแข็งแกร่ง”

ในรายงานยังระบุอีกว่า ความเชื่อมั่นของตลาดโดยรวมปัจจุบันกำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะในเรื่องของภาษีนำเข้า ที่ตอนนี้เริ่มคลี่คลาย และจากข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนหน้าอาจแสดงให้เห็นว่าผลกระทบจากภาษีต่อเศรษฐกิจสหรัฐยังมีไม่มาก

นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ด้วยว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันจะยังคงใช้จ่ายต่อเนื่อง จนกว่าราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นมากเกินไป หรืออัตราการว่างงานจะเริ่มสูงขึ้น ซึ่งยังไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในระยะสั้นนี้

ที่มา: Bloomberg

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney