Microsoft เผยธุรกิจคลาวด์โตช้า Data Center ไม่พอ นักลงทุนหวั่นลงทุนมหาศาล แต่ออกผลไม่ทันกิน

Microsoft เปิดเผยว่าธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งของบริษัทจะยังคงเติบโตในอัตราที่ช้าลง เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาการสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งานผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) 

ด้านธุรกิจ Azure cloud ซึ่งเป็นบริการหลักของบริษัท คาดว่าจะเติบโตได้สูงสุด 32% ในไตรมาสที่ 3 ของปีการเงิน ซึ่งไม่ได้เร็วกว่าการเติบโตในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2023 มากนัก แม้ว่าบริการ Azure AI จะมีอัตราการเติบโตสูงถึง 157% ก็ตาม

สำหรับ Microsoft เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นผู้นำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI จากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT

โดยในปีที่ผ่านมา Microsoft ได้ทุ่มเทเปิดตัวผู้ช่วย AI ภายใต้แบรนด์ Copilot หลากหลายรูปแบบ แต่การสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์เหล่านี้กลับใช้เวลานานกว่าที่นักลงทุนหลายรายคาดหวังไว้

Amy Hood ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Microsoft เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ว่า ยอดขายโดยรวมในหน่วยธุรกิจคลาวด์หลักได้รับผลกระทบจากการที่บริษัทยังมีกำลังการผลิตของศูนย์ข้อมูลไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า

ในด้านการเติบโตของธุรกิจ ปัจจุบันบริษัทมีสัญญาบริการเชิงพาณิชย์มูลค่ามหาศาลเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์ที่จะต้องให้บริการในอนาคต โดยยังไม่ได้รับรู้เป็นรายได้ ขณะที่ความต้องการยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดการสั่งซื้อเชิงพาณิชย์ซึ่งเป็นตัวชี้วัดรายได้ในอนาคตที่เพิ่มขึ้นถึง 67% สูงกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้มาก โดยส่วนหนึ่งมาจากข้อผูกพันการใช้บริการ Azure จาก OpenAI

อย่างไรก็ตาม Microsoft มีการลงทุนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท เช่นเดียวกับคู่แข่งอย่าง Google และ Amazon โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในชิปและศูนย์ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับบริการ AI ที่ต้องใช้พลังงานสูง บริษัทคาดว่าจะใช้งบประมาณ 80,000 ล้านดอลลาร์ในปีการเงินนี้สำหรับศูนย์ข้อมูล AI  ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทมีค่าใช้จ่ายด้านทุนสูงถึง 22,600 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 21,000 ล้านดอลลาร์

ความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนจำนวนมหาศาลนี้เริ่มปรากฏในหมู่นักลงทุนใน Wall Street โดยเฉพาะหลังจากที่บริษัท DeepSeek จากจีนได้เปิดตัวโมเดล AI แบบ Open Source ใหม่ ซึ่งอ้างว่ามีความสามารถทัดเทียมกับเทคโนโลยีของสหรัฐฯ แต่ใช้ต้นทุนเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น

สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นไตรมาสที่ 2 ของปีการเงิน Microsoft รายงานรายได้รวมเพิ่มขึ้น 12% เป็น 69,600 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ยอดขาย 68,900 ล้านดอลลาร์

อ้างอิง Bloomberg