
สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวเข้ามา ผู้นำ ผู้บริหาร ตลอดจนมหาเศรษฐีในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แห่เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่นักธุรกิจกลุ่มนี้แห่กันหันมาสนับสนุนประธานาธิบดีคนใหม่
ภายในงานพิธี ณ Capitol Rotunda ประกอบไปด้วย Elon Musk คนสนิทของทรัมป์ ซีอีโอ Tesla และ SpaceX ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับเลือกให้มาร่วมงานกับรัฐบาลของทรัมป์อีกด้วย Jeff Bezos มหาเศรษฐี และอดีตซีอีโอของ Amazon ตลอดจน Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta, Tim Cook ซีอีโอ Apple, Sundar Pichai ซีอีโอ Alphabet หรือ Google, Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และยังรวมไปถึง Shou Zi Chew ซีอีโอของ TikTok
โดยทรัมป์มีท่าทีที่ชัดเจนมาโดยตลอดว่าจะมีการสนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยีหลายด้าน ส่งผลให้ผู้นำเหล่าบิ๊กเทคต่างหันมาเข้าร่วม
ในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทำการยกเลิกคำสั่งบริหารปี 2023 ที่ลงนามโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งมุ่งลดความเสี่ยงที่ AI อาจก่อให้เกิดต่อผู้บริโภค แรงงาน และความมั่นคงของชาติ
คำสั่งบริหารของไบเดนได้สั่งให้สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ NIST ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ จัดทำแนวทางช่วยบริษัทต่าง ๆ ระบุและแก้ไขข้อบกพร่องในโมเดล AI รวมถึงอคติ (Bias) ที่อาจมีอยู่ คำสั่งดังกล่าวยังบังคับให้ผู้พัฒนาระบบ AI ต้องแชร์ผลการทดสอบด้านความปลอดภัยให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อนที่จะเผยแพร่สู่สาธารณะ
ส่งผลให้ผู้ที่สนับสนุนทรัมป์แย้งว่า ข้อกำหนดในการรายงานของคำสั่งบริหารนี้เป็นภาระเกินไป และบีบบังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยความลับทางการค้า ในช่วงการหาเสียงทรัมป์จึงได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนนโยบายที่ส่งเสริมการพัฒนา AI โดยเน้นเสรีภาพในการแสดงออกและการพัฒนามนุษย์
ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้เผยถึงความต้องการในการสนับสนุนให้ก่อตั้ง Department of Government Efficiency หรือ DOGE ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาที่นำโดยมหาเศรษฐี Elon Musk และแนะนำให้มีการตัดลดงบประมาณอย่างหนักในหน่วยงานรัฐบาลกลาง
และในวันรับตำแหน่งทรัมป์ก็ได้ลงนามในคำสั่ง เปลี่ยนชื่อ U.S. Digital Service (USDS) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดยอดีตประธานาธิบดี Barack Obama เพื่อ “เปลี่ยนแปลงแนวทางของรัฐบาลต่อเทคโนโลยี” เป็น U.S. DOGE Service (USDS) (สังเกตได้ว่าตัวย่อยังคงเหมือนเดิม)
ซึ่งคำสั่งบริหารดังกล่าวได้กำหนดแผนในการปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้ทันสมัย พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายและระบบ IT ของรัฐบาล รวมถึงให้สิทธิ์ USDS เข้าถึงบันทึก ซอฟต์แวร์หน่วยงาน และระบบ IT ที่ “ไม่ได้เป็นความลับ” โดยจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ Musk เคยเสนอว่า DOGE อาจช่วยลดงบประมาณรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ได้มากถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยมาตรการต่าง ๆ อย่างเช่น การยกเลิกหน่วยงานบางแห่งที่ทำงานซ้ำซ้อน หรือการลดขนาดกำลังคนของรัฐบาลกลาง
อีกหนึ่งคำสั่งพิเศษที่สำคัญ คือ การลงนามสั่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดของสหรัฐฯ ไม่ดำเนินการใด ๆ เป็นระยะเวลา 75 วันในการบังคับใช้กฎหมาย Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act (PAFACA) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีผลให้ TikTok ถูกแบนในสหรัฐฯ
คำสั่งดังกล่าวกำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องต้องแสวงหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เป็นไปได้ พร้อมกับปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษา TikTok ไว้ด้วย
จะเห็นว่ามีหลายคำสั่งที่ออกมาและเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทเทคโนโลยี โดยที่ก่อนหน้านี้มีการรายงานออกมาว่าบิ๊กเทคหลายรายได้มีการร่วมสมทบทุนในกองทุน Inauguration Fund ของโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็น
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีการลงนามในคำสั่งบริหารที่ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางละเมิดสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของพลเมืองอเมริกัน คำสั่งดังกล่าวยังสั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมดำเนินการสอบสวนกรณีการละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่อาจเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้
ตลอดจนแสดงความคิดเห็นถึงการสนับสนุนอุตสาหกรรมอวกาศ ที่พร้อมจะส่งอเมริกาไปสู่ดาวอังคาร (เห็นตรงกันกับความต้องการและความพยายามของ Elon Musk ที่มีมาโดยตลอด) แต่กลับไม่มีการพูดถึงเรื่องคริปโตเคอร์เรนซีที่เคยย้ำว่าสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และแม้ว่าจะมีการออกเหรียญมีมมา 1 วันก่อนสาบานตนก็ตาม
การเข้าออฟฟิศทำงานวันแรกของทรัมป์ ก็ได้มีการลงนามในคำสั่งบริหารพิเศษไปหลายฉบับ จนเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของทรัมป์ ที่เมื่อสมัยแรกของการรับตำแหน่ง ก็ออกคำสั่งพิเศษมาเป็นว่าเล่น ซึ่งหากย้อนไปในสมัยของผู้นำคนอื่น ๆ การออกคำสั่งพิเศษจะทำเฉพาะช่วงที่จำเป็นเท่านั้น
นอกจากผู้นำในวงการเทคแล้ว ยังมีนักธุรกิจในแวดวงอื่น ๆ และบุคคลสำคัญมาเข้าร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น Bernard Arnault ซีอีโอ LVMH และบุคคลที่รวยที่สุดของฝรั่งเศส, Miriam Adelson เจ้าของ Las Vegas Sands แบรนด์คาสิโนเจ้าใหญ่
ในขณะที่แวดวงการเมืองก็มี อดีตประธานาธิบดี Joe Biden, Barack Obama, George W. Bush, Bill Clinton และยังมีอดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร Boris Johnson ตลอดจน Hilary Clinton และ Kamala Harris
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney