
Google เข้ารับฟังการพิจารณาคดีหลังถูกฟ้องร้องว่าละเมิดสิทธิบัตรโปรเซสเซอร์ที่ใช้ขับเคลื่อน AI ในผลิตภัณฑ์ของ Google และอาจต้องจ่ายค่าปรับกว่า 1.67 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 5.85 หมื่นล้านบาท)
Singular Computing บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับการประมวลผลขั้นสูง ยื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ ว่า Google ลอกเลียนเทคโนโลยีของนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ผู้ก่อตั้งบริษัท และใช้เทคโนโลยีนั้นในการขับเคลื่อนฟีเจอร์ AI ที่อยู่ใน Google Search, Gmail, Google Translate รวมถึงบริการอื่นๆ ของ Google
โดยทนายความของ Singular Computing ระบุกับคณะลูกขุนว่า Google ได้คัดลอกเทคโนโลยีของ Joseph Bates ผู้ก่อตั้งบริษัท หลังจากการพบปะเพื่อพูดคุยกันอยู่หลายครั้งถึงแนวทางที่เขาใช้ในการแก้ปัญหาสำคัญของการพัฒนา AI
นอกจากนี้ทนายความฝั่งโจทก์ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากที่ Bates แบ่งปันนวัตกรรมการประมวลผลคอมพิวเตอร์ของเขากับ Google นับตั้งแต่ปี 2010-2014 บริษัทเทคยักษ์ใหญ่ก็ได้คัดลอกเทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของเขาไปโดยที่ไม่รู้ตัว
ด้านทนายความของ Google แย้งว่าทีมงาน Google ที่เป็นผู้ออกแบบชิปไม่เคยพบกับ Bates ตามที่กล่าวอ้างและออกแบบโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับใคร ทั้งยังเรียกเขาว่าเป็น "นักประดิษฐ์ที่สิ้นหวัง" ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวบริษัทต่างๆ ตั้งแต่ Meta, Microsoft, Amazon และ OpenAI ให้ใช้เทคโนโลยีของตัวเอง
นอกจากนี้ก่อนหน้าการพิจารณาคดี Google ยังระบุว่าบริษัท Singular Computing ได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินสูงถึง 7 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.45 แสนล้านบาท) และในระหว่างการพิจารณาคดีทนายของ Singular Computing ได้เรียกร้อง Google ว่าสมควรจ่ายที่ 1.67 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 5.85 หมื่นล้านบาท)
ขณะเดียวกัน Google ก็ได้ยื่นอุทธรณ์เรียกร้องให้สิทธิบัตรของ Singular Computing เป็นโมฆะซึ่งศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ จะตัดสินเป็นอีกกรณีหนึ่ง
อ้างอิง