
ศาลสหรัฐฯ เผยแพร่คำตัดสินที่ระบุว่า “ผลงานศิลปะที่สร้างขึ้นโดย AI ไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ได้” หลังจากสำนักงานลิขสิทธิ์แห่งสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธการมอบลิขสิทธิ์ให้กับเจ้าของภาพด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ขาดการสร้างสรรค์โดยมนุษย์’ ซึ่งคำตัดสินดังกล่าว อาจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับประเด็น Genetive AI-generated images ที่กำลังเป็นข้อถกเถียงในวงการอาร์ตและเทคโนโลยีในตอนนี้
สตีเฟน ธาเลอร์ (Stephen Thaler) ผู้เป็นโจทก์ฟ้องร้องคดีที่ได้พยายามยื่นขอจดลิขสิทธิ์ผลงาน ในฐานะผู้สร้างสรรค์ผลงานและเจ้าของบริษัทชื่อ Imagination Engines ผู้พัฒนา AI เจเนอเรตภาพที่ชื่อว่า ‘Creativity Machine’ โดย ธาเลอร์ พร้อมทนาย นำคดีฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ โต้แย้งต่อญัตติที่ว่า ผลงานศิลปะที่สร้างขึ้นทั้งหมดด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งขาดการมีส่วนร่วมของมนุษย์ ควรได้รับลิขสิทธิ์หรือไม่ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการตีความกฎหมายลิขสิทธิ์ของศาล
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ประจำเขตโคลัมเบีย เบอริล เอ.ฮาเวลล์ (Beryl A. Howell) เห็นด้วยกับคำตัดสินของสำนักงานลิขสิทธิ์สหรัฐฯ โดยรายละเอียดคำพิพากษา ระบุว่า งานศิลปะที่สร้างขึ้นโดย AI ไม่มีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ เนื่องจากขาดการสร้างสรรค์ของมนุษย์ ซึ่งการผลิตโดยมนุษย์นับเป็นข้อกำหนดพื้นฐานของลิขสิทธิ์
ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ อีกกรณีตัวอย่าง “Zarya of the Dawn” โดย คริส แคชทาโนวา (Kris Kashtanova) นิยายภาพที่มีการนำ Midjourney มาช่วยสร้างสรรค์ภาพตามข้อความที่ได้รับ ก็ถูกปฏิเสธเรื่องลิขสิทธิ์ด้วยคำตัดสินที่ว่า “ไม่ถูกสร้างสรรค์โดยมนุษย์” แม้ว่าแคชทาโนวาจะเป็นผู้ Prompt หรือป้อนคำสั่งในการสร้างภาพและจัดเลย์เอาต์ภาพก็ตาม
ปัจจุบันเราคุ้นชินกับเครื่องมือ Generative AI เจเนอเรตภาพจำนวนมากอย่าง DALL-E, Midjourney และ Stable Diffusion ที่ได้เปิดโอกาสให้คนทั่วไปใช้เปลี่ยนไอเดียเป็นผลงานได้ง่ายขึ้น เพิ่มทางเลือกให้ศิลปินสร้างผลงานใหม่ๆ ที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงย้อนกลับไปยังกระบวนการป้อนข้อมูลเพื่อเทรนด์ AI โดยมีต้นทางของข้อมูลสำหรับโมเดล AI เหล่านี้ ได้รับการเทรนด์จากชุดข้อมูล ซึ่งในที่นี้คือ ‘ภาพ’ ที่มีอยู่แล้ว
ประเด็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการเข้าใกล้พรมแดนใหม่ในด้านลิขสิทธิ์มากยิ่งขึ้น หน่วยงานรัฐบาล รวมถึงศาลเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสร้างมาตรฐานและรักษาสมดุลเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา การใช้เทคโนโลยีในการผลิต ขอบเขตของลิขสิทธิ์ และมากไปกว่านั้นที่ผลงานศิลปะเหล่านี้ ถูกนำไปต่อยอดต่อในเชิงพาณิชย์
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ธาเลอร์ยื่นอุทธรณ์คดีต่อ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการตีความกฎหมายลิขสิทธิ์ของศาล แม้ในกรณีนี้ ธาเลอร์จะยอมรับว่าเขาไม่มีบทบาทในการสร้างสรรค์ผลงานจริงก็ตาม.
อ้างอิง HollywoodReporter, Bloomberglaw, Artnews, Itsartlaw