ผู้เชี่ยวชาญอีคอมเมิร์ซ ชี้ ปีนี้ภาระจะตกที่ “ผู้ขาย” รับศึกหนัก Temu บีบคนไทยจัดโปรฯ แข่งกันเอง

Tech & Innovation

Startup

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ผู้เชี่ยวชาญอีคอมเมิร์ซ ชี้ ปีนี้ภาระจะตกที่ “ผู้ขาย” รับศึกหนัก Temu บีบคนไทยจัดโปรฯ แข่งกันเอง

Date Time: 27 ส.ค. 2567 13:52 น.

Video

บิทคอยน์ VS เงินในกระเป๋าเกี่ยวกันยังไง ? | Digital Frontiers

Summary

  • E-commerce ปีหน้า การแข่งขันด้วยโค้ดลดราคาใน Marketplace จะลดลง ผู้ขายต้องรับภาระจัดโปรโมชันเอง AI Automation และ AI Live และ Cross Border E-commerce จะมีบทบาทมากขึ้น AI จะถูกนำมาใช้มากขึ้นใน Marketplace เทรนด์ Cross Border E-commerce จะมีผลกับผู้ประกอบการในประเทศไทยมากขึ้น

Latest


ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดออนไลน์ ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2558 ธุรกิจออนไลน์ในประเทศไทยมีการเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่การค้าขายผ่านช่องทาง E-commerce ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายสวภพ ท้วมแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) แพลตฟอร์มจัดการร้านค้าออนไลน์ครบวงจรไทย ฉายภาพให้เห็นว่า แม้ “ตลาด E-commerce ยังมีโอกาสโตอีกมาก” และประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายการเข้ามาทำตลาดของต่างชาติ แต่ผู้ประกอบการไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการเข้ามาของ Temu แพลตฟอร์ม E-commerce จากจีน 

ในส่วนนี้นอกจากการช่วยเหลือระดับนโยบายของภาครัฐแล้ว สิ่งที่ภาคธุรกิจทำได้ คือ การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า จะช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถก้าวข้ามอุปสรรคและเติบโตได้ในระยะยาว 

ด้านเทรนด์ E-commerce ปีหน้า การแข่งขันด้วยโค้ดลดราคาใน Marketplace จะลดลง โดยภาระจะตกที่ผู้ขายที่ต้องจัดโปรโมชันเพื่อแข่งขัน และ AI จะถูกนำมาใช้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็น AI Automation และ AI Live ส่งผลให้การเติบโตของเทคโนโลยี AI จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาด E-commerce ในปีหน้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของธุรกิจออนไลน์ ตั้งแต่การจัดการคำสั่งซื้อไปจนถึงการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร

นอกจากนี้ Cross Border E-commerce หรือการทำธุรกิจซื้อขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ระหว่างประเทศ หรือการขนส่งสินค้าจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง จะมีผลกระทบกับตลาด E-commerce ของไทยมากขึ้น จนผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง

ZORT กับกลยุทธ์ก้าวสู่ปีที่ 10

ZORT ในฐานะสตาร์ทอัพไทยผู้แพลตฟอร์มจัดการร้านค้าออนไลน์ครบวงจรมามาเป็นเวลาต่อเนื่อง 9 ปี ประกาศ “กลยุทธ์ก้าวสู่ปีที่ 10” มุ่งพัฒนาระบบจัดการหลังบ้าน E-commerce ดันผู้ประกอบการไทยเติบโตยั่งยืนบนสังเวียนอีคอมเมิร์ซต่างประเทศ

ปี 67 ตั้งเป้ารายได้ 100 ล้านบาท พร้อมโตต่อเนื่องอีก 3 ปีแตะ 200 ล้านบาท มุ่งสร้างความเชื่อมั่นให้ธุรกิจไทย คาดปีนี้ผู้ใช้งานระบบเพิ่มขึ้น 55% และอีก 3 ปีตั้งเป้าผู้ใช้งานทะลุ 10,000 ราย  ลูกค้าของ ZORT มีมูลค่าการเติบโต 30% ในปี 2567 โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ถึง 100 ล้านบาท และมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 55% เมื่อเทียบกับปี 2566

สิ่งที่ทำให้ ZORT โดดเด่น คือ การเป็นระบบหลังบ้านที่สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม E-commerce และ Social Commerce ชั้นนำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการได้ง่ายขึ้นและมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยท่ีผ่านมา ZORT มุ่งมั่นพัฒนาระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่ใช้งานง่าย ครอบคลุมทั้งการจัดการสต๊อก การประมวลผลคำสั่งซื้อ การออกเอกสารบัญชี และการรายงานผลการดำเนินงานอย่างครบวงจร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจออนไลน์ 

ปัจจัยความสำเร็จของ ZORT คือ วิสัยทัศน์ "Fast-Tracking Business Success with Ultimate Services and Intelligent Solutions" ด้วยจุดเด่นของระบบครบวงจรที่ธุรกิจต้องการ ร่วมมือกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญ ด้วยบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์ลูกค้าและสร้างการเติบโตให้ลูกค้าในระยะยาว ตัวอย่างเช่น ลูกค้าในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางขยายไปยังช่องทางออนไลน์ใหม่และออฟไลน์ ยอดขายเติบโต 4 เท่า และลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มขยายจากออฟไลน์ไปออนไลน์ ยอดขายเติบโตเท่าตัว 

ที่ผ่านมา ZORT ได้จับมือกับ 2 พันธมิตรสำคัญ ได้แก่ Microsoft Azure และ BUZZEBEES โดยร่วมมือกับ Microsoft ผ่านการนำแพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azure ที่มีความเสถียรมาใช้ ทำให้ข้อมูลธุรกิจในระบบมีความปลอดภัยสูง ด้วยการรักษาความปลอดภัยจากทีมงาน Microsoft Security ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลถูกป้องกันไว้อย่างดี และความร่วมมือกับ BUZZEBEES แพลตฟอร์มช่วยบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management) ของไทย เพื่อนำเสนอ CRM PLUS ระบบสมาชิกและสะสมแต้ม ที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจดูแลลูกค้าของตัวเองได้อย่างง่ายดายและเพิ่มยอดขายได้จริง จัดการทุกงาน E-commerce ครบจบที่เดียว 

กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปีที่ 10 ประกอบด้วย 

  1. นำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมทัพระบบจัดการร้านค้า เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การปรับปรุงกระบวนการทำงาน หรือการพัฒนาบริการใหม่ๆ ให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด
  2. ขยายตลาดต่างประเทศเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ และเพิ่มฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ปัจจุบันเริ่มเข้าไปทำการตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ และมีแผนจะขยายไปยังประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  3. เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยออกตีตลาดต่างประเทศ เมื่อฐานการให้บริการในต่างประเทศของ ZORT แข็งแรงในประเทศนั้นๆ ZORT จะดำเนินตามเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ด้วยการสนับสนุนเสมือนประตูเชื่อมโอกาสการขยายธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทยไปต่อยอดในต่างประเทศได้
  4. ยึดมั่นความถูกต้องและโปร่งใส ผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเติบโตอย่างเป็นระบบ ตรวจสอบได้ นำมาซึ่งการขยายธุรกิจที่สะดวกและไร้กังวลในทุกๆ ด้าน
  5. วิเคราะห์ด้านการตลาดที่แม่นยำขึ้น ด้วยการเก็บข้อมูลลูกค้า สินค้า ยอดขาย ช่วยให้มีข้อมูลมากพอที่จะวางแผนการตลาดได้ง่ายขึ้น เมื่อข้อมูลในระบบ ZORT มีมากขึ้น ข้อมูลที่ถูกประมวลผลหรือแสดงออกมาจะทำให้เห็นภาพกว้างของธุรกิจได้มากขึ้น

"ปี 2567 ถือเป็นปีที่สำคัญสำหรับ ZORT แพลตฟอร์มจัดการร้านค้าออนไลน์ครบวงจรที่เปิดให้บริการครบรอบ 9 ปี ถือเป็นความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านระบบจัดการหลังบ้านที่ตอบโจทย์ธุรกิจ E-commerce ในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจแบรนด์ชั้นนำและแบรนด์ขนาดเล็กให้เติบโตอย่างมั่นคง" 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ