กรุงไทย พาบุกบ้าน Alipay ต่อยอดธุรกิจ Digital Bank เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย

Ant Group เป็นอีกหนึ่งหน่วยธุรกิจในเครืออาลีบาบา และเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีต้นกำเนิดมาจาก Alipay ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2547 ด้วยความมุ่งหวังสร้างแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตระดับโลก เพื่อเชื่อมผู้ขายและผู้ซื้อออนไลน์ มอบบริการทางการเงินและดิจิทัลที่ครอบคลุม สะดวกสบายแก่ผู้บริโภคและผู้ค้ากลุ่ม SMEs ให้สามารถชำระเงิน รับเงิน โอนเงินได้สะดวกทั่วโลก

ขณะที่ ธนาคารกรุงไทย ที่มีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือ FIDF ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 55.07% ปรับกระบวนการเปลี่ยนวิธีการทำงานจากแบงก์รัฐเดิมๆ สู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในระบบการทำงานและการบริการทางการเงิน

ล่าสุด สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ประธานผู้บริหาร Retail Banking ธนาคารกรุงไทย และ ธวัชชัย ชีวานนท์ ประธานผู้บริหาร Product & Business Solutions ธนาคารกรุงไทย พาคณะสื่อมวลชนไทยเยือนสำนักงานใหญ่ Ant Group ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของสาธารณรัฐประชาชนจีน

เป็นอีกหนึ่งการสร้างประสบการณ์เพื่อศึกษาการเติบโตจากธุรกิจ FinTech สู่การเป็น Tech Company ที่ครอบคลุมชีวิตผู้คนหลายมิติ

ส่วนกรณีธนาคารกรุงไทย หากย้อนไปเมื่อปี 2563 ได้ปรับเปลี่ยนองค์กรและ Portfolio จากถนัดการดูแลลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ เอสเอ็มอี มาสู่การเป็น Retail Business เป็นหนึ่งในธุรกิจหลักมากขึ้น ภายใต้กลยุทธ์ Digital Transformation และการยกระดับแอปพลิเคชั่น “Krungthai NEXT” ตอบโจทย์การให้บริการทางการเงินรายย่อย และยิ่งหลังโควิด-19 ยิ่งมีภาพชัดเจน ในเรื่องของ “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ซึ่งเป็น Open Platform ที่ประชาชนเข้าถึงการใช้บริการในกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น

สุริพงษ์ บอกว่า ภารกิจสำคัญของธนาคารกรุงไทยในปัจจุบันอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Better Life for All Thais ซึ่งหมายถึงการเชื่อมโยงการดำเนินการของธนาคารกรุงไทยเพื่อให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น เช่น ในแอปฯ เป๋าตัง คุณสามารถเช็กสิทธิการเข้าถึงยารักษาโรคที่รัฐให้บริการได้ รายย่อยสามารถลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลด้วยเงิน 1 บาทได้ ลงทุนออมทองได้ เป็นต้น

วันนี้ธนาคารกรุงไทยมีจุดให้บริการทั้งในรูปแบบสาขา 960 แห่ง มีผู้ใช้บริการบนแอปฯ Krungthai NEXT 21 ล้านราย แอปฯ เป๋าตัง 40 ล้านราย Krungthai LINE Connect 23 ล้านราย พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยใช้บริการผ่าน “ถุงเงิน” 2 ล้านราย และมีลูกค้าธุรกิจในพอร์ต 73,000 ราย

ส่วนในปี 2569 ภายใต้การได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ Virtual Bank ร่วมกับพันธมิตร 2 ราย คือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟเซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR จัดตั้งบริษัท ธนาคารคลิกซ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อประกอบธุรกิจ Virtual Bank

จะเป็นอีกก้าวสำคัญของธนาคารกรุงไทย เพื่อให้บริการทางการเงินกับประชาชนในวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินแบบเดิมๆ

ด้าน สิทธิพงษ์ กิตติประภาพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป ด้าน Global Merchant Partnership ประจำประเทศไทย บริษัท แอนท์กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน Ant Group ให้บริการประชากรโลกกว่า 1.8 ล้านราย ผ่าน 40 Wallet ครอบคลุม 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่

1.Alipay+ ธุรกิจวอลเลทเกตเวย์ของรายย่อยทั่วไป

2.Antom ระบบรับโอนเงินชำระเงินของผู้ประกอบการรายย่อย

3.Bettr บริการการเงินผ่าน AI และ Blockchain เพื่อการจัดการสินเชื่อ

4.WorldFirst โซลูชั่นการเงินสำหรับ SMEs

ตัวอย่างการเชื่อมผู้บริโภคกับผู้ค้า เช่น ล่าสุด วอลเล็ต Alipay+ ภายใต้ Ant International ร่วมกับ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (NITMX) ผู้ให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินแห่งชาติ ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขยายความร่วมมือบริการ Cross-Border QR Payment (การชำระเงินข้ามพรมแดนด้วย QR Code) เชื่อมโยงระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างไทยและจีนอย่างเต็มรูปแบบเต็มรูปแบบ โดย Alipay+ เป็น 1 ใน 3 ผู้ให้บริการชำระเงินรายใหญ่ของจีน ที่ดำเนินการโครงการนี้ร่วมกับ NITMX เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถสแกนจ่ายผ่าน QR PromptPay ได้โดยตรงตามร้านค้าทั่วประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม เมื่อธุรกิจเทคโนโลยีกับสถาบันการเงินเป็นเนื้อเดียวกัน การให้บริการและทำให้ชีวิตผู้ใช้บริการทางการเงินสะดวกสบายขึ้น จะยิ่งมีให้เห็นเพิ่มขึ้น และสิ่งสำคัญคือ “ความปลอดภัย” ในการให้บริการซึ่งจะเป็นอีกหัวข้อใหญ่ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องหาวิธีสร้างสมดุล

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney