ธนาคารกรุงเทพ จัดสัมมนา AI in Action ปลดล็อกศักยภาพธุรกิจไทย ด้วย AI สู่การเติบโตที่ยั่งยืน

การมาถึงของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งไม่ใช่แค่เทรนด์ทางเทคโนโลยี แต่คือรากฐานใหม่ของการทำธุรกิจ ที่กำลังยกระดับขีดความสามารถขององค์กรอย่างก้าวกระโดด

สำหรับผู้ประกอบการ SMEs การปรับตัวโดยการเรียนรู้และนำ AI มาใช้ ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือ “ทางรอด” ในสนามแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นทุกวัน การรวมพลังระหว่างมนุษย์กับประสิทธิภาพของ AI จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความยั่งยืนและการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจได้

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนา “AI in Action : Practical Tools & Roadmap for SMEs” ที่จัดโดย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะ “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” ว่า โลกกำลังเข้าสู่ “ยุคที่สามของการปฏิวัติ” ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่แค่การพัฒนาของซอฟต์แวร์หรือ Big Data Analytics แบบเดิมๆ แต่เป็นการก้าวกระโดดที่ขับเคลื่อนด้วยปัจจัยสำคัญสองประการที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

พลังขับเคลื่อนแห่งยุค AI

ปัจจัยแรก คือ ความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะการผลิตชิป ที่ทรงพลัง แม้จะมีขนาดเล็กแต่สามารถประมวลผลเทียบเท่ากับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งก่อให้เกิด Processing Power หรือพลังการประมวลผลมหาศาล ทำให้สามารถดึงและประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลจากทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและเป็นจริง ยกตัวอย่างบริษัทชั้นนำอย่าง NVIDIA, Oracle, Microsoft, และ Google

ปัจจัยที่สอง คือ การพัฒนา Natural Language Processing (NLP) หรือการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ทำให้ระบบ AI สามารถเข้าใจและโต้ตอบด้วย ภาษาพูดของมนุษย์ปกติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเกิดเป็น Machine Learning ด้วยเหตุนี้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถกลายเป็น “โปรแกรมเมอร์” ได้ทันที โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด เพียงแค่พิมพ์คำถามหรือคำสั่ง เช่นเดียวกับการใช้งาน ChatGPT เพื่อให้ AI ค้นคว้าและประมวลผลคำตอบที่เหมาะสมกลับมาภายในไม่กี่เสี้ยววินาที

โอกาสและความท้าทายสำหรับ SMEs

ดร.พิเชฐ กล่าวต่อไปว่า AI ได้นำมาซึ่งประโยชน์มหาศาลต่อภาคธุรกิจ ทั้งในด้านการลดต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพ โดย AI สามารถเข้ามารับงานที่ไม่จำเป็นต้องใช้การตัดสินใจซับซ้อน งานซ้ำซาก หรืองานที่ต้องทำในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้ นอกจากนี้หากมีการฝึกฝน AI ด้วยข้อมูลอย่างเพียงพอ ก็จะสามารถช่วยในการคาดการณ์อนาคตของธุรกิจได้ ทำให้ AI ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือผู้ช่วยที่ให้ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการวิเคราะห์และตัดสินใจ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในปัจจุบันผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) อาจก้าวไม่ทันเทคโนโลยี เนื่องจากมักมีความพร้อมในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI การฝึกอบรมบุคลากร และการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์น้อยกว่าบริษัทขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องมีการร่วมมือกันระหว่างภาคธนาคารและผู้ประกอบการ เพื่อช่วยให้ SMEs สามารถเข้าถึงและก้าวทันเทคโนโลยีนี้ได้ แนวทางหนึ่งในการแก้ไขคือการพัฒนาระบบ “Package AI สำเร็จรูป” ที่มีราคาและรูปแบบการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับ SMEs ในทุกอุตสาหกรรม

ขณะเดียวกันสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้งานต้องตระหนักอยู่เสมอคือ AI นั้นเป็นเพียง “เครื่องมือ” เท่านั้น ดังนั้นจึงมีโอกาสเกิดความคลาดเคลื่อนได้ หากข้อมูลต้นทางไม่สมบูรณ์ ผู้ใช้งานจึงไม่ควรเชื่อผลลัพธ์จาก AI 100% แต่ต้องใช้วิจารณญาณ และแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องด้วยความเป็นมนุษย์

ดังนั้นในอนาคตอันใกล้ AI อาจจะไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือ หากมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง และจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ ภาครัฐ หรือแม้กระทั่งภาคการศึกษา ที่คนจึงต้องปรับตัวเพื่อให้ก้าวทันกับการใช้ AI อย่างปลอดภัย ซึ่งหมายความว่าทุกบริษัทตั้งแต่ขนาดใหญ่ไปจนถึง SMEs จะต้องปรับตัวเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันได้

“ธนาคารกรุงเทพพยายามสนับสนุนให้ลูกค้าก้าวทันเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยใช้กลไกทางการเงินผ่าน สินเชื่อแบบ Transformation Loan ซึ่งให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการที่ลงทุนใน 3 ด้านหลัก คือ นวัตกรรม, ดิจิทัล/เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม โดยมีการจัดสรรอัตราดอกเบี้ย และยุทธศาสตร์ทางการเงินที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้การดำเนินการลงทุนด้านเหล่านี้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับก้าวข้ามวิกฤติต่างๆ ไปให้ได้” ดร.พิเชฐ กล่าว

ทั้งนี้ที่ผ่านมาธนาคารกรุงเทพ ได้มีการลงทุนด้าน AI อย่างต่อเนื่อง ทั้งในระบบใหญ่และระบบเฉพาะด้านสำหรับการบริการลูกค้า โดยสิ่งสำคัญคือการตั้งทีมงานเพื่อดูแลกำกับ AI Governance

ขณะเดียวกันยังได้มีการจัดตั้งหน่วยงานเล็กๆ ขึ้นมาอย่างเช่น “TASK” ซึ่งมีภารกิจหลัก คือ การให้บริการลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่บุคคลทั่วไป ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่การใช้เทคโนโลยี โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ทันสมัย

ทางรอด SMEs ลงทุน 3 แกนหลัก สู่ความยั่งยืน

พร้อมกันนี้ ดร.พิเชฐ ได้ฝากถึงผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังลังเลในการนำ AI มาใช้กับธุรกิจ โดยต้องคำนึงถึง 3 องค์ประกอบหลัก ดังนี้

1.Competitiveness ทำธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้

2.Resiliency มีความทนทานต่อแรงกระแทกจากความผันผวนต่าง ๆ (เช่น สงคราม, เทคโนโลยีใหม่, ภาวะเศรษฐกิจ) และสามารถปรับตัว

3.Sustainability ทำธุรกิจที่ยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (สอดคล้องกับแนวคิด ESG และ Net Zero)

ขณะเดียวกันในงานสัมมนา “AI in Action : Practical Tools & Roadmap for SMEs” ยังได้มีการเปิดเวทีเจาะลึกเทรนด์การใช้ AI ในภาคธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ ในลักษณะที่เป็นรูปธรรม

พร้อมดึงกูรูแชร์เทคนิคการใช้ AI เพื่อเสริมศักยภาพและยกระดับธุรกิจให้แข็งแกร่งรอบด้าน ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงกลยุทธ์ ไปจนถึงการออกแบบ Roadmap และ Action plan ตอกย้ำบทบาทการเป็น “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” เคียงข้างลูกค้าและผู้ประกอบการให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

สุวัชชัย ทรงวานิช รองผู้จัดการใหญ่ ผู้รับผิดชอบสายลูกค้าธุรกิจรายกลางและสายลูกค้าธุรกิจรายปลีก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารจัดงานสัมมนา “AI in Action : Practical Tools & Roadmap for SMEs” ขึ้น เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SME มีความเข้าใจ รู้ทัน และสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ในการทำธุรกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ซึ่งไม่เพียงแค่การตามเทรนด์เทคโนโลยีให้ทัน แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของธุรกิจในระยะยาว ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค โดยธนาคารกรุงเทพ พร้อมส่งเสริมการเติบโตของ SME ผ่านการให้สินเชื่ออย่างครบวงจรควบคู่การให้ความรู้ในทุกมิติ

“ธนาคารกรุงเทพ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SME ได้รู้เท่าทันเทคโนโลยี และสามารถนำมาปรับใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจให้แข่งขันได้ทั้งตลาดภายในประเทศ รวมถึงการสร้างโอกาสในการทำธุรกิจหรือค้าขายในตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน ดังนั้นการสัมมนาครั้งนี้จึงมุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการได้รู้ถึงกระแสโลก และแนวทางการนำ AI มาปรับใช้ในบริบทต่างๆ ของธุรกิจ ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ไปจนถึงการออกแบบ Roadmap และการทำ Action plan ซึ่งหากผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จาก AI ได้มากเท่าไหร่ ก็จะสร้างความได้เปรียบและโอกาสทางธุรกิจให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย” สุวัชชัย กล่าว

ขณะที่ในงานสัมมนา ได้รับเกียรติจาก วิโรจน์ จิรพัฒนกุล MD, Skooldio, Ex-Data Scientist, Facebook, Google Developer Expert (Machine Learning) หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลและเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Skooldio บรรยายในหัวข้อ “รู้ทัน ปรับก่อน: SME กับเทรนด์ AI ที่ใช้ได้จริง” โดยพูดถึงภาพรวมและแนวโน้มการใช้ AI ของ SME ไทยและต่างประเทศ รวมถึงเจาะลึกการประยุกต์ใช้ AI ในด้านต่างๆ ของธุรกิจ อาทิ การตลาด ด้วยแชทบอท (Chatbot) การสร้างเนื้อหาด้วย AI (Generative AI Content) การเชื่อมต่อกับระบบบริหารลูกค้า (CRM Integration) การคาดการณ์ยอดขาย การติดตามค่าใช้จ่ายด้วย AI (Expense Tracking AI) และการจัดการซัพพลายเชนและคลังสินค้า พร้อมตัวอย่างธุรกิจ SME ที่นำเทคโนโลยี AI ไปปรับใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมทั้งหัวข้อเสวนา “Practical Roadmap for Adopting AI in Organization” ได้รับเกียรติจาก กิตติศักดิ์ เงินงอกงาม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ โชคชัย เอี่ยมฤทธิไกร รองกรรมการผู้จัดการ และกรรมการบริษัท บริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมพูดคุยและแชร์ประสบการณ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้เป็นแนวทางพิจารณาการนำ AI มาใช้ในธุรกิจ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์และประโยชน์ที่ชัดเจนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

สำหรับงานสัมมนา “AI in Action : Practical Tools & Roadmap for SMEs” เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้ โครงการ “พัฒนาและบริหารจัดการตลาดด้วยสื่อดิจิทัล สำหรับ SME” (Bangkok Bank SME Digital Marketing) ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาและบริหารจัดการ Website และ Social Media ภายใต้ชื่อ Bangkokbanksme จัดตั้งขึ้นเมื่อ ปี 2558 เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ และเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับ SME ผ่านช่องทาง Online รวมถึงการจัดงาน Event และงานสัมมนา

โดยธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ SME ในการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของ Sustainability, Business transformation, Family Business และ Future Business เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่เริ่มต้น เติบโต ต่อยอด และยั่งยืน