ก้าวต่อไป “กรุงศรี” ทรานสฟอร์มเต็มรูปแบบ ขยับสู่ Tech Company เต็มตัว เดินหน้าลงทุนเทค-สตาร์ทอัพ

Tech & Innovation

Digital Transformation

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ก้าวต่อไป “กรุงศรี” ทรานสฟอร์มเต็มรูปแบบ ขยับสู่ Tech Company เต็มตัว เดินหน้าลงทุนเทค-สตาร์ทอัพ

Date Time: 8 ต.ค. 2568 15:58 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

กรุงศรี จัดงาน “Krungsri Tech Day 2025” แถลงกลยุทธ์ และแนวของกรุงศรีในการขับเคลื่อนด้านเทคโนโลยี มุ่งไปที่การพัฒนาเพื่อให้ทุกคนมีชีวิตง่ายขึ้น พร้อมสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อคน ธุรกิจ สังคม

Latest


ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จัดงาน “Krungsri Tech Day 2025” นำเสนอกลยุทธ์ วิสัยทัศน์ และแนวของกรุงศรีในการขับเคลื่อนด้านเทคโนโลยี โดยงานนี้จัดมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และปีนี้มุ่งเน้นไปที่การ “Empower People to Make Life Simple” พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่ง่ายขึ้น พร้อมชู 3 แกน คือ ต้องการจะสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อ “คน (ลูกค้าและพนักงาน) - ธุรกิจ - สังคม” 

เคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
เคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

เคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ขึ้นกล่าวเปิดงาน โดยอธิบายถึงเป้าหมายของการจัดงาน Krungsri Tech Day 2025 ว่า “ปี 2025 คือปีแห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่สามารถเชื่อมโยงชีวิต การทำงาน และการเติบโตให้ก้าวไปพร้อมกันได้ (กรุงศรี) จะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้คนและธุรกิจเติบโต ขับเคลื่อนต่อไปอย่างมีความหมาย สู่อนาคตที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น”


แผนทรานสฟอร์ม

นับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา กรุงศรีมีแผนทรานสฟอร์เมชันองค์กร (Transformation) ที่เรียกว่า Mid-Term Business Plan หรือ MTBP เป็นแผนพัฒนาระยะกลางที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องแบ่งได้เป็น 3 ช่วงสำคัญ ได้แก่

  • ช่วงที่ 1 (ปี 2018 - 2020): Go Digital & Make Life Simple เน้นการยกระดับช่องทางดิจิทัล (Digital Channel) เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด เป็นช่วงของการเรียนรู้และรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้า
  • ช่วงที่ 2 (ปี 2021 - 2023): Modernized IT Organization เริ่มปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) และองค์กรให้ทันสมัยอย่างจริงจัง มีการลงทุนค่อนข้างสูง และขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศในภูมิภาค
  • ช่วงที่ 3 (ปี 2024 - 2026): Transform to Grow หรือที่เรียกว่า Full Transformation เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดเพื่อ “Go Regional” เดินหน้าสู่ระดับภูมิภาค โดยมุ่งสร้างรากฐานที่สำคัญในทุกมิติ เช่น Open Banking, Data, AI, และ Cloud ซึ่งปี 2024-2025 ถือเป็นปีแห่งการปูพื้นฐานเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

สายสุนีย์ หาญประเทืองศิลป์ ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
สายสุนีย์ หาญประเทืองศิลป์ ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

สายสุนีย์ หาญประเทืองศิลป์ ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล กล่าวว่า “เป้าหมายหลักในการทรานสฟอร์มของกรุงศรี คือการ ‘Empowering People’ หรือการเสริมสร้างศักยภาพให้ผู้คน โดยมุ่งทำให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้นในทุกวัน (Make Life Simple) ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทาย เนื่องจากกรุงศรี มีลูกค้าหลากหลายกลุ่มมาก ตั้งแต่บุคคลธรรมดา ธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ไปจนถึงลูกค้าและพาร์ทเนอร์จากต่างประเทศ”

จึงเป็นที่มาให้กรุงศรีมีการสร้างรากฐานเพื่อการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน โดยจะมุ่งไปที่ 3 เสาหลักในการพัฒนา ได้แก่ Technology Simplicity - Enabling for Growth - Sustainable AI เพื่อซัพพอร์ตคน ธุรกิจ และสังคม


Technology Simplicity

การลงทุนปรับโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT พชร วันรัตน์เศรษฐ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อธิบายว่า การปรับโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT นี้มีหลักการสำคัญคือ “Simplicity” หรือ “ความเรียบง่าย” เพื่อให้ทั้งลูกค้า และพนักงานใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ด้าน คือ

  • Leaner (กระชับขึ้น): ลดความซับซ้อนของแอปพลิเคชันที่มีจำนวนมาก เพื่อนำทรัพยากร (ทั้งคน และงบประมาณ) ไปใช้ในส่วนที่สำคัญกว่า
  • Simpler (ง่ายขึ้น): ทำให้กระบวนการต่าง ๆ ง่ายและกระชับมากขึ้น เพิ่มการทำงานผ่านระบบอัตโนมัติ ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น และลดต้นทุน
  • Aligned with Business (สอดคล้องกับธุรกิจ): ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ โครงการ Jupiter หรือโครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบ IT พื้นฐาน (Core Banking System) ของธนาคารอย่างครอบคลุม ซึ่งไม่ใช่แค่การเปลี่ยนระบบ IT แต่เป็นการปรับกระบวนการทำงานทั้งหมดของธนาคารตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้าน ซึ่งปัจจุบันนี้ระบบใหม่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาค ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง

และผลลัพธ์ที่สำคัญ คือ การสร้างบริการย่อย ๆ (Microservices) ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) ได้ ทำให้เมื่อมีผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ เกิดขึ้น และก็สามารถพัฒนาต่อยอดได้อย่างรวดเร็ว


Enabling for Growth

รถพร เอกบุตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านดิจิทัลและนวัตกรรม กล่าวถึงแนวทางการสนับสนุนลูกค้ากลุ่มธุรกิจของธนาคารว่า “ในภาวะที่โลกมีความไม่แน่นอนสูงและมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี (Disruption) อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจาก AI กรุงศรี มองว่าธุรกิจต่าง ๆ ควรหันกลับไป โฟกัสที่สูตรลับ หรือจุดแข็งของตัวเอง ส่วนเรื่องการเงินให้เป็นหน้าที่ของธนาคาร”

ซึ่งกรุงศรีฯ มีแพลตฟอร์มที่พร้อมรองรับธุรกิจทุกขนาด โดยไม่จำเป็นต้องเริ่มจากศูนย์หรือลงทุนมหาศาล

  • ธุรกิจขนาดเล็ก: สามารถใช้บริการ กรุงศรี Biz Online
  • ธุรกิจขนาดกลาง-ใหญ่: มีบริการเชื่อมต่อระบบ เช่น Banking as a Service (BaaS) สำหรับทำธุรกรรมอัตโนมัติ

แพลตฟอร์มเหล่านี้มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี มีพาร์ทเนอร์ที่เชื่อมต่อระบบกว่า 1,200 ราย และมีธุรกรรมผ่านระบบกว่า 90 ล้านครั้งต่อปี ซึ่งช่วยให้ลูกค้าธุรกิจมีเวลาไปโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญกว่าได้


Sustainable AI

กรุงศรีฯ ได้จัดตั้งทีม Enterprise Data and Analytics Group หรือ EDG เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านข้อมูลและ AI ตุลย์ โรจน์เสรี ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ระดับองค์กร ระบุว่า กรุงศรีมีแนวทางการพัฒนาที่ชัดเจน คือ “No AI without Data” หมายความว่าองค์กรจะต้องมีรากฐานข้อมูลที่แข็งแกร่งก่อน จึงจะต่อยอดด้วย AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยกรุงศรีมี Journey การพัฒนาด้านข้อมูลและ AI มาต่อเนื่อง เริ่มต้นจากปี 2024 ที่สามารถปรับตัวสู่การเป็น Data-Driven Organization ได้อย่างเต็มตัว ซึ่งต่อมาก็ได้ต่อยอดสู่การดึง AI เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กร ทั้ง Traditional AI/ML, Generative AI และ Agentic AI และหลังจากนี้ กรุงศรีมีแนวทางในการขยับขยายการใช้งาน AI สู่การวางกรอบ AI Governance ที่เป็นรูปธรรม

ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีการนำ Data และ AI มาใช้แบ่งออกเป็น 3 แกนหลัก คือ

  • People (พนักงาน): พัฒนาเครื่องมือให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูล ด้วยภาษาปกติ (Natural Language) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ได้ทันที
  • Business (ลูกค้าและธุรกิจ): มีการนำเอา GenAI เข้ามาใช้งานในหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น ใช้ AI ในการพิจารณาสินเชื่อ (Underwriting) หรือใช้ช่วยตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ (Fraud)
  • Society (สังคม): เมื่อทำเพื่อคนและลูกค้าแล้ว ก็ต้องมีการตอบกลับสู่สังคม โดยล่าสุดกรุงศรี เป็นธนาคารแรกที่ได้เชื่อมต่อระบบกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ผ่าน API ทำให้การขอข้อมูลบัญชีเพื่อสืบสวนคดีต่าง ๆ ทำได้ภายใน 1 นาที (จากเดิมหลายวัน) และสามารถอายัดบัญชีได้แบบ Real-time ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้ประชาชนที่ถูกหลอกลวงได้เงินคืนมากขึ้น

นอกจากนี้ สายสุนีย์ หาญประเทืองศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายถึงประเด็นการลงทุนและก้าวต่อไปของกรุงศรีว่า “กรุงศรียังคงมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในโครงการ Jupiter การยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และด้าน Data ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญ”

โดยตัวเลขการลงทุนของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ราวหมื่นล้านบาท แต่ทั้งนี้ตัวเลขของแผนการลงทุนต่าง ๆ ยังคงอยู่ในระหว่างการทำแผนปฏิบัติการ (Operating Plan) ซึ่งจะมีความชัดเจนในอีกประมาณ 4-6 สัปดาห์ข้างหน้า แต่ยืนยันว่าจะมีการลงทุนอย่างแน่นอน

และในส่วนของสตาร์ทอัพ กรุงศรียังคงให้การสนับสนุน Local Startup อย่างต่อเนื่องผ่านโครงการ Accelerator Program เพื่อช่วยให้ Startup ไทยสามารถเติบโตได้ต่อไป


ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney 



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ