
มูลค่าบิตคอยน์ (Bitcoin) ร่วงต่อเนื่อง ล่าสุดต่ำกว่า 86,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบสองสัปดาห์ และเป็นราคาที่หล่นลงมาแล้วกว่า 31% จากมูลค่า All-Time High ที่กว่า 126,000 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อต้นตุลาคมที่ผ่านมา หลังนักลงทุนที่แห่ซื้อกันในช่วงราคาขึ้นทยอยเทขาย
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บิตคอยน์และสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ ได้ปรับตัวลงต่อเนื่อง แต่สิ่งที่แตกต่างคือ เมื่อสินทรัพย์เสี่ยงอื่นราคากลับขึ้นมา บิตคอยน์กลับไม่เด้งตาม ชี้ให้เห็นว่า Upside Correlation หรือความสัมพันธ์เชิงบวกของบิตคอยน์และสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ที่เมื่อตัวหนึ่งขึ้นอีกตัวก็ขึ้นตาม แต่สิ่งนี้เริ่มไม่ไปด้วยกัน
การร่วงลงครั้งนี้ของบิตคอยน์ นักวิเคราะห์เริ่มมองแล้วว่า ตลาดกำลังถูกบีบจากสภาพคล่องที่ตึงตัว (Weak Liquidity) และความต้องการรับความเสี่ยง (Risk Appetite) ที่ลดลง แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เพิ่งจะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม
Chris Newhouse ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Ergonia บริษัทที่เชี่ยวชาญด้าน DeFi ระบุว่า การปรับตัวลงของบิตคอยน์ในรอบนี้ถือว่าแตกต่างจากการเทขายในอดีต เพราะไม่ได้เกิดจากการบังคับล้างพอร์ต (Forced Liquidation) แต่เป็นผลจากโครงสร้างสถานะการลงทุนในตลาด Spot และตลาดอนุพันธ์ (Derivatives) เป็นหลัก
Chris Newhouse ยังบอกอีกด้วยว่า นักลงทุนที่ใช้เลเวอเรจสูงเกินไปน่าจะถูกล้างออกจากตลาดไปก่อนหน้านี้แล้ว นั่นหมายความว่า แรงขายที่เหลืออยู่ในขณะนี้เป็นแรงขายที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ใช่แรงกระแทกจากระบบ แต่ในอีกด้านหนึ่ง แรงขายลักษณะนี้อาจยืดเยื้อและกดดันราคาได้ยาวนานกว่า ซึ่งเป็นสัญญาณที่ตลาดคริปโตฯ ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในช่วงปลายปีนี้
และในช่วงที่ตลาดคริปโตฯ ยังคงกดดันนี้ Strategy บริษัทที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคลังบิตคอยน์รายใหญ่ของโลก ก็ยังคงเดินหน้าซื้อบิตคอยน์เข้าคลังเพิ่มต่อเนื่อง โดยได้เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า บริษัทได้เข้าซื้อบิตคอยน์มูลค่าเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สองแล้ว
Strategy ระบุว่า การเข้าซื้อบิตคอยน์รอบล่าสุด ส่วนใหญ่ใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้นสามัญ Class A แบบ At-the-Market หรือการทยอยขายหุ้นในตลาดตามราคาปัจจุบัน จนมีการออกมาวิจารณ์ว่า การขายหุ้นอย่างต่อเนื่องนี้อาจทำให้มูลค่าหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมถูกลดสัดส่วน (Dilution) และค่อย ๆ หั่นพรีเมียมราคาหุ้น ที่ Strategy เคยซื้อขายสูงกว่ามูลค่าทรัพย์สินบิตคอยน์ที่ถือครองอยู่ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าราว 59,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ Strategy ยังได้ขายหุ้นบุริมสิทธิแบบถาวร (Perpetual Preferred Shares) ไปแล้ว 3 จากทั้งหมด 4 ประเภท เพื่อระดมเงินมาสนับสนุนการเข้าซื้อบิตคอยน์ในรอบล่าสุดด้วย
ภาพรวมของตลาดคริปโตฯ ในวันจันทร์ที่ผ่านมา พบว่าตลาดก็ยังคงบอบช้ำ โดยคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่อื่น ๆ ปรับตัวลงแรงกว่า ไม่ว่าจะเป็น Ether, Dogecoin และ XRP ซึ่งต่างปรับตัวลดลงราว 5% ขณะที่หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ ก็ถูกเทขายตามไปด้วย
หุ้นของ Strategy เองปรับตัวลงแรงกว่า 9% ในบางช่วงของการซื้อขาย ส่วน Coinbase Global แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ รายใหญ่ของสหรัฐ ราคาหุ้นก็ลดลงราว 7%
สำหรับบิตคอยน์ ก่อนหน้านี้เคยลงไปแตะจุดต่ำสุดของปี 2025 ที่ 74,400 ดอลลาร์สหรัฐตอนเดือนเมษายน หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศแผนขึ้นภาษีนำเข้าครั้งแรก จนสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก และกลายเป็นชนวนสำคัญที่กระทบสินทรัพย์เสี่ยงในวงกว้าง
ที่มา: Bloomberg
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney